ธรรมฐิต
พระ(มหา) วิชิต ชิต สมถวิล(ฐิตธมฺโม)

สุสานคนเป็น


      วันนี้เราท่านทั้งหลายลองมาพิจารณานครกายของเราที่เราอาศัยอยู่

ปกปิดด้วยเครื่องต่างๆว่าเป็นเช่นไร  ธรรมฐิตแปลมาจากบาฬีวิสุทธิมรรค

แบบอ่านเข้าใจง่ายๆ  ลองอ่านกันดูนะขอรับ

      ร่างกายของเราที่คนเป็นๆอยู่ ก็เป็นของไม่งดงาม เป็นแต่ลักษณะความไม่งามในร่างคนเป็นนั้น  ไม่ปรากฏชัดโดยซึ่งๆหน้า เพราะเครื่องแต่งกายได้ปิดบังไว้  แต่โดยปกติแล้ว ร่างกายนี้ มีกระดูก  ๓๐๐ ท่อน เป็นโครงสร้าง  กระดูกนั้นชนติดกันด้วยข้อต่อ ๑๘๐ ข้อ แล้วยึดกันอยู่ด้วยเอ็น ๙๐๐ เส้น(ตรงนี้ต้องถามหมอดูว่าจริงเท็จแค่ไหน) ฉาบด้วยเนื้อ  หุ้มด้วยหนังสดบางๆ มีมันซึมออกทั้งข้างบนและข้างล่าง ดุจโถมันข้น  เป็นบ่อเกิดของหมู่หนอน  เป็นบ่อเกิดแห่งโรคทั้งหลาย เป็นแหล่งแห่งทุกขธรรมทั้งหลาย เป็นที่หลั่งออกเนืองๆ แห่งของไม่สะอาดทางปากแผลทั้ง ๙   ราวกะฝีเรื้อรังที่แตกแล้ว คือเป็นร่างกายที่มีขี้ตาออกทางตาทั้งสองข้าง  ขี้หูออกทางช่องหู  ทั้งสองข้าง  น้ำมูกออกทางช่องจมูก ทั้งสองข้าง  อาหาร สำรอก    เสมหะและเลือดออกทางปาก อุจจาระปัสสาวะออกทางทวารเบื้องล่าง แถมยังมีหยาดเหงื่ออันไม่สะอาด ออกทางขุมขน ๙๙,๐๐๐ ขุม  แมลงวันหัวเขียวเป็นต้นรุมไต่ตอม หากบุคคลไม่ใส่ใจร่างกายนี้เนืองๆด้วยกิจมีสีฟันและบ้วนปาก สระหัว อาบน้ำ นุ่งผ้า ห่มผ้า  เป็นต้น เป็นคนอยู่ไปตามยถากรรม มีผมหยาบยุ่งเที่ยวไปตามหมู่บ้าน แม้จะเป็นราชาก็ตาม เป็นคนขอทานก็ตามเป็นต้น  ผู้ใดผู้หนึ่งก็ดี ก็หาได้มีความแปลกกันไม่ เพราะว่ามีร่างกายปฏิกูลน่าขยะแขยงเสมอกัน   ขึ้นชื่อว่าความต่างกันในร่างกายของราชาก็ตาม     ของขอทานก็ตาม หามีไม่ เพราะว่าร่างกายเป็นของปฏิกูลไม่สะอาดเหม็นและน่าเกลียด  
      แต่ว่าบุคคลทั้งหลายขัดสีทำความสะอาดอยู่บ่อยๆมี มีแปรงฟันและบ้วนปากเป็นอาทิ ปกปิดอวัยวะเสียด้วยผ้านานาพรรณ ลูบไล้ด้วยเครื่องลูบไล้อันหอมหลากๆ สี ประดับประดาด้วยเครื่องประดับมีดอกไม้และเครื่องอาภรณ์เป็นต้น ทำให้ถึงซึ่งอาการที่พอจะถือเอาได้ว่าตัวกู ว่าของกู แต่นั้นเขาทั้งหลาย ก็จำลักษณะไม่สวยไม่งามอันเป็นสภาพแท้จริงอย่างไรของร่างกายนี้ไม่ได้ เพราะมันถูกปิดไว้ด้วยเครื่องต่างๆ   พวกที่เป็นชายจึงทำความยินดีในหญิงทั้งหลาย พวกที่เป็นหญิงจึงทำความยินดีในชายทั้งหลาย
      แต่โดยความเป็นจริงแล้ว ชื่อว่าที่ควรแก่ความน่าใคร่ในร่างกายนี้ แม้สักนิดหนึ่งก็ไม่มี
น่าสะอิดสะเอียนเกลียดชังซึ่งส่วนต่าง แห่งร่างกาย นี้ ในบรรดาส่วนต่างๆทั้งหลายมี ผม ขน เล็บ ฟัน และน้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ ปัสสาวะเป็นต้น แม้แต่ส่วนต่างๆอย่างหนึ่งซึ่งตกไปนอกกายแล้ว   แต่ว่าส่วนต่างๆใดๆ ที่ยังเหลืออยู่ในสรีระ คนทั้งหลายผู้ถูกความมืดคืออวิชชาหุ้มห่อแล้ว ถูกเครื่องย้อมใจ กล่าวคือความรักตัวย้อมเอาแล้ว ก็ยังถือเอาส่วนต่างๆนั้นๆ แม้เป็นของปฏิกูล อย่างนี้ว่า เป็นของน่าปรารถนา น่าใคร่เป็นของเที่ยง เป็นสุข เป็นตัวกู คนทั้งหลายยึดถืออยู่อย่างนั้น ก็นับว่าถึงความเสมอกันกับสุนัขจิ้งจอกแก่ผู้เห็นต้นทองกวาวในป่า แล้วร้อนใจด้วยคิดว่าดอกทองกวาวที่ยังไม่หล่นจากต้นว่า เป็นชิ้นเนื้ออันโอชะน่ากินนั่นเอง
ท่านผู้รู้กล่าวไว้ว่า
              กาย นี้  ไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น เปรียบประดุจซากศพ หรือ เปรียบเหมือน
              หลุมขี้ เป็นกายที่ท่านผู้มี ปัญญาจักษุทั้งหลายติเตียนกัน  
แต่คนโง่ชมชอบนักซึ่งกายนี้ที่มีหนังสดปิดหุ้มไว้  
แต่ว่า  มีแผลใหญ่ถึง ๙ ช่อง ของสกปรกมีกลิ่นเน่าไหลซึม
                            ออกรอบไป ถ้าข้างในของกายนี้พึง ( กลับ )
         เป็นข้างนอกไซร้ บุคคลก็จะพึงถือไม้ไว้คอย
              ป้องกันกาและสุนัขอย่างแน่นอน
ท่านลองพิจารณาตามดูโดยนิ่มนวลเผื่อยางเหนียวที่เกาะติดอยู่จะได้คลายออกได้บ้าง

 

ธรรมะสวัสดีขอรับ

คำสำคัญ (Tags): #ธรรมฐิต
หมายเลขบันทึก: 304067เขียนเมื่อ 8 ตุลาคม 2009 06:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 17:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

กราบนมัสการท่านธรรมฐิตยามเช้าเจ้าค่ะ

กระดูกในร่างกายคนเราแบ่งออกเป็น 206 ชิ้น (ไม่นับรวมฟันนะเจ้าคะ) แล้วก็ไม่นับรวมกับกระดูกอ่อน ทั้ง 206 ชิ้นได้แก่ 

กระโหลกศรีษะส่วนกลาง(cranium) 8 ชิ้น

กระดูกส่วนใบหน้า(face) 14 ชิ้น

กระดูกส่วนหู(ear) ประกอบด้วย -กระดูกรูปค้อน(malleus) 2 ชิ้น -กระดูกรูปทั่ง(incus) 2 ชิ้น -กระดูกรูปโกลนม้า(stapes) 2 ชิ้น

กระดูกโคนลิ้น(hyoid bone) 1 ชิ้น

กระดูกสันหลัง(vertebral column+sacrum+coccyx) 26 ชิ้น

กระดูกหน้าอก(sternum) 1 ชิ้น

กระดูกซี่โครง(ribs) 24 ชิ้น

กระดูกส่วนแขน(upper extermity) 64 ชิ้น

กระดูกส่วนขา(lower extermity) 62 ชิ้น

ส่วนข้อต่อกี่ข้อ เส้นเอ็นกี่เส้นนั้น ในวิชากายวิภาคศาสตร์ไม่ได้มีบอกไว้เจ้าค่ะ....บอกแต่ว่าเส้นไหนชื่ออะไร เกาะที่ไหนบ้าง

สำหรับทวารทั้ง 9  ในทางการแพทย์บางอวัยวะไม่ได้มีหน้าที่ขับถ่ายของเสียโดยตรง เช่น ตา หรือว่าหู หากแต่พิจารณาให้ดีก็จะเห็นว่ามีแต่ของเสียดังที่ท่านผู้รู้ได้กล่าวมาแล้ว

เคยคิดถามตนเองว่า สิ่งสกปรกเหล่านี้สร้างขึ้นมาทำไม?  แม้ว่าพวก อุจจาระ ปัสสาวะ น้ำมูก น้ำลาย เหงื่อไคลเป็นสิ่งสกปรกชวนน่าสะอิดสะเอียนเพียงไร แต่ร่างกายมนุษย์จำเป็นต้องมีสิ่งเหล่านั้น เพื่อรักษาสมดุลของร่างกายและเป็นกลไกลอย่างหนึ่งในการป้องกันร่างกาย หากขาดสิ่งเหล่านี้ไป...ร่างกายย่อมไม่สามารถยังสามารถดำรงอยู่ได้

น้อมธรรมข้อพิจารณานครกายไปพิจารณาเจ้าค่ะ

 

 

กราบนมัสการท่านธรรมฐิตยามเช้าเจ้าค่ะ

กระดูกในร่างกายคนเราแบ่งออกเป็น 206 ชิ้น (ไม่นับรวมฟันนะเจ้าคะ) แล้วก็ไม่นับรวมกับกระดูกอ่อน ทั้ง 206 ชิ้นได้แก่ 

กระโหลกศรีษะส่วนกลาง(cranium) 8 ชิ้น

กระดูกส่วนใบหน้า(face) 14 ชิ้น

กระดูกส่วนหู(ear) ประกอบด้วย -กระดูกรูปค้อน(malleus) 2 ชิ้น -กระดูกรูปทั่ง(incus) 2 ชิ้น -กระดูกรูปโกลนม้า(stapes) 2 ชิ้น

กระดูกโคนลิ้น(hyoid bone) 1 ชิ้น

กระดูกสันหลัง(vertebral column+sacrum+coccyx) 26 ชิ้น

กระดูกหน้าอก(sternum) 1 ชิ้น

กระดูกซี่โครง(ribs) 24 ชิ้น

กระดูกส่วนแขน(upper extermity) 64 ชิ้น

กระดูกส่วนขา(lower extermity) 62 ชิ้น

ส่วนข้อต่อกี่ข้อ เส้นเอ็นกี่เส้นนั้น ในวิชากายวิภาคศาสตร์ไม่ได้มีบอกไว้เจ้าค่ะ....บอกแต่ว่าเส้นไหนชื่ออะไร เกาะที่ไหนบ้าง

สำหรับทวารทั้ง 9  ในทางการแพทย์บางอวัยวะไม่ได้มีหน้าที่ขับถ่ายของเสียโดยตรง เช่น ตา หรือว่าหู หากแต่พิจารณาให้ดีก็จะเห็นว่ามีแต่ของเสียดังที่ท่านผู้รู้ได้กล่าวมาแล้ว

เคยคิดถามตนเองว่า สิ่งสกปรกเหล่านี้สร้างขึ้นมาทำไม?  แม้ว่าพวก อุจจาระ ปัสสาวะ น้ำมูก น้ำลาย เหงื่อไคลเป็นสิ่งสกปรกชวนน่าสะอิดสะเอียนเพียงไร แต่ร่างกายมนุษย์จำเป็นต้องมีสิ่งเหล่านั้น เพื่อรักษาสมดุลของร่างกายและเป็นกลไกลอย่างหนึ่งในการป้องกันร่างกาย หากขาดสิ่งเหล่านี้ไป...ร่างกายย่อมไม่สามารถยังสามารถดำรงอยู่ได้

น้อมธรรมข้อพิจารณานครกายไปพิจารณาเจ้าค่ะ

 

 

Pสาธุๆๆดาวฟ้าที่มาเสริมวิชาหมอ..

สิ่งต่างๆที่ขับออกมานอกจากจะปรับหาความสมดุลมันแล้ว

อย่างหนึ่งที่เราลืมนึกไปคือการน้อมนำมาพิจารณาเพื่อความเป็นอสุภะคือไม่น่าดูชม

จะได้ไม่หลงไปยึดว่าเป็นของสวยงาม  นี่เป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง..

ขอบพระคุณเจ้าค่ะ...จะน้อมนำสิ่งต่างๆ ในร่างกายมาพิจารณาอสุภะเจ้าค่ะ เผื่อว่ายางเหนียวที่ยึดเหนี่ยวจะได้คลายลง...

...ร่างกายที่สมดุล..(เมื่อถูกพิจารณาแล้ว)..มักจะเลือกเดินทางสายกลางใช่ไหมคะ..พระคุณเจ้า..

อ่านแล้วเหมือนพระสมัยก่อน มีอาหารเก่า อาหารใหม่ เกษา โลมา ทันตา นะขา ตะโจตะโจ หลวงพี่สบายดีไหมครับ

Pขออนุโมทนานะดาวฟ้า..

อย่าลืมชวนพี่นกด้วยละ..

Pอยู่ที่ใจของเราขอรับยายธีว่าจะให้เป็นไปในสายไหน..

เพราะร่างกายเราเป็นมหาลัยในการเรียนรู้ได้อย่างดีเยี่ยม

Pสาธุอาจารย์..ธรรมฐิตก็พอยังอัตตภาพให้ดำเนินไปได้ขอรับ..

ตอนนี้อยู่สงขลาฝนตกทุกวันเลย..

 

นมัสการ พระคุณท่าน

อ่านท่อนแรกแล้วเห็นภาพเลยขอรับ

  • เป็นความบังเอิญเหลือเกินขอรับวันนี้ว่า ได้ชิมอาหารแปลก ๆ ประจำปีเลยก็ว่า คือ ได้เป็นคนหั่น ตุ๋นเส้นเอ็นข้อเท้าวัวขอรับ อ่านแล้วเห็นภาพเลยขอรับ
  • ตั้งแต่ได้อ่านบทกลอนที่ท่านเขียนเกี่ยวกับ อสุภะ ก็เริ่มพิจารณาบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ขอรับ เวลาคุยกับใคร เราก็มองแต่ตับใตใส้พุงของเขา บางทีถึงกับสะดุ้งก็มีขอรับ
  • แต่ตอนนี้เสื่อมถอยกลับมาชอบความสวยงามของโลก หลงมาเหมือนเดิมแล้วขอรับ ไม่ได้พิจารณาแล้วขอรับ อิอิ

 

  • ความบังเอิญอีกอย่างหนึ่ง ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนรอบข้าง ๆ ห่าง ๆ
  • ล้ม หาย ตาย เจ็บ กันถี่ขึ้นเป็นพิเศษเลยครับช่วงนี้ จึงเป็นเหตุให้พิจารณาโดยไม่ต้องพิจารณา
  • อาทิตย์ที่แล้ว พ่อของเพื่อนเสียชีวิต
  • หลายวันก่อนได้รับโทรศัพท์ว่า คุณปู่ญาติห่าง ๆ ที่บ้านเกิดเสียชีวิตแล้ว
  • วันก่อนลุงโทรมาว่า หลานสาว ประสบอุบัติเหตุ รถเฉี่ยวมอไซด์ล้ม ชุดพละศึกษาขาด เย็บคาง 6 เข็ม ฉลองวันสอบเสร็จ
  • วันนี้ได้รับโทรศัพท์ว่า คุณลุง (พี่ชายของพ่ออายุ 70 กว่า) เส้นเลือดสมองแตกอยู่ในไอซียู อาการหนักหมอห้ามเยี่ยม
  • อนิจจังขอรับ

 

 

นมัสการค่ะ...หลวงพี่

"ถ้าข้างในของกายนี้พึง(กลับ)เป็นข้างนอกไซร้ บุคคลก็จะพึงถือไม้ไว้คอยป้องกันกาและสุนัขอย่างแน่นอน"...มนุษย์มักพึงใจกับสิ่งห่อหุ้มภายนอกเจ้าค่ะ...เหตุเพราะเป็นสิ่งต้องตาต้องใจ...หากเป็นสิ่งของแม้ราคาจะแพงกว่า...แต่ก็ยอมซื้อเืพราะความยึดติดกับรูปลักษณ์ภายนอก...ยิ่งหากเป็นของราคาเท่ากัน แต่รูปลักษณ์ต่างกัน ใคร ๆ ก็ต้องเลือกที่รูปลักษณ์เจ้าค่ะ...อยากนะเจ้าค่ะ เรื่องของความพึงใจ...ต้องตานี่...อยากนะเจ้าค่ะเรื่องของการยึดติดกับสิ่งของอะไรสักอย่าง...เพราะตอนที่เข้าไปฝังในความรู้สึกมนุษย์มันก็คงใช้เวลานานอยู่หรอก...ดังนั้นกว่าจะแซะให้หลุดได้คงใช้เวลานานกว่า...ค่อย ๆ แซะความคิดที่ยึดติดทีละน้อย ในแต่ละวัน คงหลุดหมดสักวันนะเจ้าค่ะ...ไอ้ยางเหนียว ๆ ที่ติดหนึบนะเจ้าค่ะ

ขอบพระคุณเจ้าค่ะ

Pก็พยายามพิจารณาเพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าทัน

แต่อย่าพิจารณาเพื่อเกลียดชังก็แล้วกันขอรับอาจารย์

Pสาธุขอรับอาจารย์..

คนเราโดยมากมีแต่เพิ่มยางเหนียวเข้าไปสิ..

เลยแซะยากขึ้นทุกวัน..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท