นกฮูกใหญ่ขับขาน


นกฮูกใหญ่ขับขาน

       วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2552 ผ่านมาอีก 1 ปี กับการแสดงดนตรีของเด็กนักเรียนชั้นประถมของโรงเรียนนกฮูกใหญ่เมื่อปีที่แล้วในเดือนเดียวกัน นั่นเป็นครั้งแรกของการจัดกิจกรรมที่ว่านี้ ผ่านมาได้ไม่นาน ทางโรงเรียนได้จัดการแสดงดนตรีขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง น่าจะเป็นช่วงต้นๆเปิดเทอมของปีนี้ การแสดงครั้งนั้นจัดขึ้นมาเพื่อต้อนรับเพื่อนใหม่ที่มาเข้าเรียน (ปีนี้ เด็กๆย้ายมาเรียนใหม่หลายคนเชียวครับ) และน่าจะกลายเป็นธรรมเนียมไปเสียแล้ว กับการแสดงดนตรีของเด็กๆในวันที่โรงเรียนจะปิดเทอม

       มาวันนี้ผมจึงต้องรีบออกจากโรงพยาบาลเร็วนิดหนึ่ง เพื่อไปรับคุณจ้า ผมโทรศัพท์ไปบอกคุณครูให้ปลุกเธอแล้วอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แต่น้องจ้าบอกว่า เธอตื่นขึ้นมาก่อนที่คุณครูจะปลุกเสียอีก เพราะวันนี้พ่อจะพาไปโรงเรียนใหญ่ (เป็นชื่อโรงเรียนของพี่แป้งเขา) รีบออกจากโรงเรียนแล้วเวียนไปรับแม่ของลูกที่โรงพยาบาลอีกแห่ง แล้วเร่งฝีเท้าเพื่อจะไปให้ทันดูลูกสาว

       กำหนดเวลาเริ่มการแสดงก็คือสามโมงเย็น แต่ผมเริ่มสายเพราะไปกำหนดสัญญาณไฟจราจรไม่ได้ โทรศัพท์ไปถามพี่แดงว่าถึงคิวลูกสาวผมหรือยัง คำตอบคือ “ยัง” ใจเลยชื้นขึ้นมาอีกหน่อย แต่เราก็ไปไม่ทันการเปิดการแสดงอยู่ดี

       คุณสิงห์ชั้นป. 6 เป็นผู้ควบคุมคิวการแสดง ได้ข่าวว่าก่อนการแสดงนั้น ได้มีการแจ้งกติกาของการชมการแสดงไว้ถึง 3 ข้อ นั่นคือ กรุณาอย่ายืน เพื่อเป็นการเคารพนักดนตรี กรุณาอย่าพูดคุย และอย่าเปิดโทรศัพท์หรือเปิดเป็นระบบสั่น หากใครไม่ทำตามกติกาก็จะขอให้ใบแดง แปลว่าให้ออกนอกห้องดนตรี ฮ่า ฮ่า งานนี้ผู้ปกครองเลยต้องรีบจัดการกับมือถือของตนเองกันเป็นพัลวัน

นี่เป็นตารางกำหนดคิวการแสดงครับ


เด็กๆนั่งกันหน้าสลอน


ผู้ปกครอง

       ผมไปไม่ทันได้ดูคุณแสตมป์เล่นเปียโน ต้องรอให้เขาเล่นจนจบเพลงก่อนจึงจะสามารถเข้าห้องได้ นี่ก็เป็นกติกานะครับ เลยได้เริ่มดูเตยกับบุ๊คสีไวโอลินคู่กัน ตามด้วยพรีม สุภาพสตรีที่เป็นพิธีกรในปีที่แล้ว มาปีนี้ได้เป็นนักดนตรีกับเขาเสียที ฝีมือก็ใช่ย่อย หนอยแน่ก็ดูเคร่งขรึมผิดกับบุคลิกจริงๆของเธอ เพลงอาหรับราตรีคือเพลงที่หนอยแน่บรรเลง จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาพัก 3 นาที เพื่อให้ผู้ฟังได้ไปเข้าห้องน้ำและคนข้างนอกจะได้เข้ามานั่ง

เตยกับบุ๊ค


คุณจ้านอนดูการแสดงสบายกว่าใครเพื่อน

       ก่อนจะเริ่มแสดงในรอบที่สองนี้ คุณสิงห์ก็ได้แจ้งกติกาอีกรอบ และปรากฏว่าระหว่างนั้นก็มีสมาชิกได้ใบแดงไปคนหนึ่ง เอาจริงแฮะ...

       รอบที่สองนี้เริ่มจากเม่น และตามด้วยพี่แป้งของผม ฮ่า ฮ่า เคร่งขรึมเอาการ เธอมาบอกทีหลังว่าเครียด กลัวเล่นผิด เลยพาลจะเกร็งเอา ผมเลยสอนลูกไปว่า ผิดก็ไม่เห็นเป็นอะไร ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกดดันมากจนเกินเหตุ ผิดก็ผิดไป ขอให้เล่นให้จบ แค่นี้ก็เก่งแล้ว

คุณเม่น


คุณแป้ง


คุณหนุน


คุณสมิธ


คุณมาร์ค


คุณนนท์


คุณขาล

       คนเก่งอีกคนที่ต้องกล่าวถึงในวันนี้ก็คือ น้องขิง น้องป. 1 ที่ไปเป็นพิธีกรสลับกับพี่สิงห์ ตัวกะเปี๊ยกเดียว แต่กล้าหาญมาก ขอแค่พี่สิงห์บอกว่าใครจะเป็นคนเล่นดนตรีคนต่อไป เธอก็จะเดิน ฉับ ฉับ ฉับ ไปแนะนำนักดนตรีได้ในทันที แบบนี้ต้องปรบมืออย่างดัง

       นอกจากการแสดงเปียโนแล้ว คุณสมิธเธอขึ้นไปแสดงการเป่า flute ในเพลงของการ์ตูนดิสนีย์ หากจำไม่ผิดน่าจะเป็นเพลงในเรื่อง little mermaid กระมังครับ แครอทแสดงเพลงประกอบหนังเรื่อง Titanic คุณหนุนได้แสดงเพลงคู่กับคุณครูอากิโกะ คุณแฮมก็มีโอกาสได้แสดงดนตรีด้วยเช่นเดียวกัน การแสดงปิดท้ายด้วยคุณขาล ผู้ซึ่งไปคว้ารางวัลระดับประเทศมาแล้ว

       เต็มอิ่มครับ อิ่มอกอิ่มใจกันไปตามๆกัน สาระของการแสดงไม่ได้อยู่ที่ใครมีฝีมือแค่ไหน ทุกท่านอาจจะเห็นด้วยกับกระผม แต่ความสำคัญของเรื่องนี้ก็คือ คุณค่าของเด็กๆ ไม่ว่าใครเรียนมาจากที่ไหน (ส่วนใหญ่ก็คุณครูอากิโกะนั่นแหละ) ฝีมือดีแตกต่างกันแค่ไหน หรือใครบางคนก็แค่เพิ่งเริ่มต้นมาเท่านั้น แต่ทุกคนจะได้รับการแนะนำตัวก่อนขึ้นแสดง ได้รับความเงียบจากคนที่รอฟังเธอเล่นดนตรีให้ฟัง ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ฟัง และได้ขนมจากตะกร้าของคุณครูเหมือนกัน อันนี้ผมให้คะแนนเต็มสิบครับ

 คุณครูผู้ใจดี

หมายเลขบันทึก: 301636เขียนเมื่อ 28 กันยายน 2009 22:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

คุณหมอเป็นนักข่าวที่รายงานข่าวได้ฉับไวมากเลยครับ อย่างนี้ต้องให้ที่ รร. ทำโล่ให้แล้ว

การแสดงเพิ่งเสร็จตอน 4โมงเย็น ของวันที่ ๒๘ กย. ๕๒ คุณหมอนำขึ้น BLOG ตอน ๔ ทุ่ม

พูดถึงการแสดงครั้งนี้ มีอย่างหนึ่งที่ผมได้จากการแสดงครั้งนี้ (จริงๆแล้วไม่เกี่ยวกับการแสดง) คือ การให้ใบเหลืองและใบแดง ตลอดจนถึงการที่เด็กๆได้แสดงความเคารพต่อกฏกติกาที่พวกเค้ามีส่วนร่วมในการกำหนดขึ้นมา

ผมนั่งนึกหาวิธีที่จะทำให้เด็กๆโรงเรียนนี้ลดการพูดคุยกันในห้องเรียนลง โดยไม่ไปจำกัดธรรมชาติของเด็กๆ ตอนแรกตั้งใจว่า จะเรียกประชุมผู้ปกครอง แต่หลังจากชมการแสดงครั้งนี้จนจบลง ผมเลยถึง บางอ้อ แล้วครับ ว่าจะเสนอทางออกให้โรงเรียนอย่างไร

ส่วนนักดนตรีตัวน้อยๆทุกคน ได้แสดงออกถึงความตั้งใจที่จะเข้ามามีส่วนร่วมต่อการแสดงครั้งนี้ บางคนอาจจะยังเกร็งอยู่ เพราะเป็นน้องใหม่บนเวที

การแสดงดนตรีตอนปิดเทอมใหญ่ปีหน้าน้องแป้งก็หายเกร็งแล้วครับ และอาจจะมี Special Guest (น้องจ้า) มาร่วมแจมด้วยก็ได้ หลังจากเมื่อวานนี้ Special Guest (น้องเมี่ยงคำ)ดันเบี้ยว

สวัสดีคะ คุณหมอ ที่เคารพอย่างสูง

แวะมาเยี่ยมเพื่อเป็นกำลังใจให้ คุณพ่อ คุณแม่ และลูกๆ ที่น่ารักมากๆ เลยคะ

พี่แป้งเล่นเปียโนเก่งจังเลยนะคะ ส่วนน้องจ้านอนฟังอย่างสบายใจสบายอารมณ์เลยนะค่ะลูก

เห็นแต่แก้มน้องจ้าเหมือนลูกแอปเปิ้ลสดๆ น่าหอมจังเลย ฮิ..ฮิ..ช้อบ..ชอบ

เคารพอย่างสูง

กำลังคิดว่า blog บันทึกแบบนี้ จะมีค่าขนาดไหน ในอีก 20 ปีข้างหน้า...

อาจารย์นกไฟครับ

สงสัยมีค่าเท่ากับศูนย์สำหรับคนอื่น แต่สำหรับลูกแล้ว น่าจะเปรียบเทียบกับอะไรไม่ได้เชียว

โหพี่หนึ่ง

เรื่องเด็กชอบคุยนี่ต้องเรียกประชุมผู้ปกครองเลยเหรอพี่

แต่ถ้าประชุมสังสรรค์นี่เรียกเลยนะพี่ ชอบมาก

สมาคมผู้ปกครองไม่ค่อยได้พบกันนานแล้ว

สมาชิกในม.อ.เหนียวแน่นครับ ไหนจะบ้านแสตมป์ มิวมั่น วินรัน และข้าวฟ่าง เหนียวแน่นจริงๆ

เห็นด้วยกับคุณหนึ่งอย่างยิ่งค่ะ ว่าแต่ว่าป้าขอแจมตอนออกแบบโล่ด้วยคน จะชวนบัดดี้ทั้งแก๊งออกแบบให้แจ่มลยค่ะ วันนั้นบรรยากาศน่ารักน่าเอ็นดูนัก การแสดงได้อรรถรส ...ว่าแต่ว่าป้าสงสารคนที่ได้ใบแดงเหลือเกินเชียว สารวัตรร่างยักษ์ดุเหลือเกิน...เอาจริงแฮะ...

เมื่อมีงานกิจกรรม (เอ๊ะ..แบบนี้ฝรั่งเรียกว่า "อีเว้น" รึปล่าว) ของโรงเรียนเราๆ ท่าน ๆ ก็จะได้เห็นเด็กกุลีกุจอ จัดสรร และ บริหารกิจกรรมกันเอกลักษณ์ที่แสนน่ารักของโรงเรียนนกฮูก....ต้องขอปรบมือดัง ๆ ชื่นชม ชื่นชมค่ะ....

โธ่คุณหมอ แบบว่าคุยกันในห้องเรียนจนคุณครูสอนไม่ได้ คุณหมอลองนึกบรรยากาศเอาสนามเด็กเล่นไปไว้ในห้องเรียนหน่ะครับ

ส่วนสังสรรค์ผู้ปกครองนั้นขอยกมือมือขวาสนับสนุนด้วยครับ ผมว่าใช้สถานที่ใน มอ.จัดปาร์ตี้ก็ไม่เลว ครับ

เรื่องนี้ไว้ค่อยประสานกันทางโทร. เดียวคนใน blog เค้าจะรู้ความลับ 555

ชอบมากเลยค่ะ กติกาการฟังการแสดงดนตรีแบบนี้ ระดับมืออาชีพทีเดียว เมืองไทยเรายังไม่ค่อยช่วยกันฝึกเรื่องนี้เท่าไหร่ ทั้งๆที่โดยสากลแล้วเป็นมารยาทที่ทุกคนรู้กัน (ทั้งดนตรี การแสดง ละคร) เพราะอะไรที่ทำลายสมาธิของคนเล่นและคนดูเขาต้องจัดการไม่ให้เกิดเลย

ถ้าผู้ใหญ่แสดงให้เห็นว่าการเคารพกฎกติกาเป็นเรื่องที่ต้องทำ เด็กๆก็จะซึมซับทำตามได้อย่างง่ายดาย สังคมเราจะเป็นระเบียบเรียบร้อยสงบสุขกว่านี้เยอะเลยนะคะ ขอบคุณอ.แป๊ะมากๆที่เอาตัวอย่างดีๆแบบนี้มาบอกเล่าเผยแพร่กัน

คิดถึงพี่โอ๋จัง

จริงๆแล้วก็อยากพาพี่โอ๋ไปดูด้วยนะครับ แต่วันนั้นยุ่งจังเสีย รถก็มีคันเดียว (ตอนนี้) เลยป่วนมากๆ

กฏกติกานี้ เด็กๆเขาร่วมกันเองครับ ใบแดง ใบเหลือง ก็เกิดจากเขาเอง

เราเองก็สงสารเจ้าตัวป่วน แต่กติกาของสังคมเขาต้องยอมรับครับ

รู้จากเด็กๆตอนหลังว่า ใบเหลืองว่อนเลย คุณหมอ แม้แต่ภรรยาผมเจ้านนท์ยังเกือบจะให้ใบเหลืองเลย

ไม่รู้โตขึ้นจะเป็นท่านเปาบุ้นจิ้นหรือเปล่า

อ้าว...น้าดี้ เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ...

เขาให้กันตอนไหน สงสัยใช้ตามองกันนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท