จากบันทึกที่แล้ว(http://gotoknow.org/blog/attawutc/300812) ที่ผมได้เล่าเรื่องการอบรมเรื่อง “การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ” จากหนังเรื่อง “Little Miss Sunshine” หลังจากอบรมเสร็จแล้วผมก็ได้ให้งานผู้เข้าอบรมไปสรุปเพิ่มเติมจากการการนำเสนอในห้องอบรม ว่าได้อะไรจากหนังเรื่องนี้ และจะนำไปใช้ในชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวันได้อย่างไร และเมื่อเช้านี้ มีผู้ส่งงานมา 2 คน จึงได้นำเอามาให้ดูกันเป็นตัวอย่างเบื้องต้นดังนี้ครับ
ข้อสรุปจากผู้เข้าอบรมคนที่ 1 :
การที่เราจะทำอะไรอย่างหนึ่งที่เราคิดว่ามันไม่มีอุปสรรค์และคิดว่ามันเป็นไปตามอย่างที่เราจะคิด มันไม่เสมอไปมันมีองค์ประกอบหลากหลายเหตุการณ์ที่เหนือการคาดเดาแต่สิ่งหนึ่งที่จะนำรถผ่านมันไปได้คือความรัก ความเข้าใจของคนรอบข้างตัวเรา เอาใจเขามาใส่ใจเรา และเราทำสิ่งที่ดีที่สุดที่เราอยากทำบนพื้นฐาน จริยธรรม และความถูกต้อง บางครั้งสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ก็จะช่วยให้เรามีความสูขได้โดยไม่หวังสิ่งใดที่มันยิ่งใหญ่เกินไป
ตอนสุดท้ายคือทุกคนเริ่มมีความเข้าใจว่าหลานมาประกวดเพราะปู่ได้สอนมาโดยที่ไม่หวังว่ามันจะได้รางวัลชนะหรือไม่ หากแต่ทำไปเพราะว่าเป็นสิ่งที่ได้ทำเต็มที่และแสดงให้ทุกคนรู้ว่ามันเป็นการแสดงออกถึงความตั้งใจที่จะทำ
บางครั้งเราก็ต้องเผื่อเรื่องที่อาจไม่เป็นไปตามที่เราตั้งใจไว้ แต่ต้องคิดว่าเราเจอและได้ลองสิ่งที่เราทำไปแล้ว เพื่อที่จะนำมันมาแก้ใขและป้องกันความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้งต่อไป
ความพยาม ความตั้งใจ ความรัก ความเข้าใจ จะสามารถประคองทุกอย่างถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เราคิดว่ามันเลวร้าย มันก็จะผ่านไปได้ด้วยดีเสมอ
ข้อสรุปจากผู้เข้าอบรมคนที่ 2 :
สร้างตัวละครแต่ละคนต่างมีปัญหาก็คิดว่าจะทำในสิ่งที่ตนสามารถกระทำได้ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งในวงจรชีวิตล้วนแล้วแต่มีปัญหา ปัญหาที่จะแก้ได้แต่กลับตรงข้ามกับวิธีที่จะแก้ ในหนังจุดเริ่มต้นและสุดท้ายจะพาลูกสาวเข้าประกวดให้ได้ ระหว่างการเริ่มเดินทาง จนถึงจุดมุ่งหมายมีปัญหาจากภายนอกไม่มีใครสามารถควบคุมได้ แต่ละคนก็เกิดความคิดแตกต่างกันในการแก้ปัญหาที่หลากหลาย ซึ่งจะหักมุมตลอด
หลักการแก้ปัญหามี 3 หลักการแก้ไขโดยระบบ การแก้ไขตามสถานะการณ์ และวิธีเจรจาต่อรอง
1.การแก้ปัญหาเชิงระบบเช่น ตัวพ่อจะมีความคิดที่เป็นหลักการจะพยายามแก้ด้วยระบบแต่วิธีการต่างๆไม่สามารถการแก้ไขเริ่มตั้งแต่ ปัญหา ธุระกิจการจำหน่ายหนังสือ ปัญหารถเดินทาง ตลอดจนการเข้าประกวด
2.แก้ไขตามสถานะการณ์ เช่นปัญหาการเสียของรอ การขโมยศพ การถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจค้น ปัญหาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แก้ไขปัญหาตามสถานะการณ์ได้
3.วิธีเจรจาต่อรองใน ปํญหาก่อนการเดินทาง ขั้นตอนการรับสมัคร การเข้าประกวด
ในการดำเนินชีวิตของคนอยู่ตั้งแต่สองคนขั้นไป แต่ละคนล้วนมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน และพื้นฐานของแต่ละคนก็แตกต่างกัน ชีวิตล้วนแล้วมีปัญหาจากตัวบุคคลเอง และปัญหาจากภายนอก ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาต้องแก้ปัญหา หนังเรื่องนี้มีตัวอย่างที่รถเสีย หากจะแก้ไขในเชิงระบบนั้นต้องรอนาน สอนให้แก้ปัญหา ด้วยระบบอาจไม่ได้แต่สามารถแก้ไขปัญหาตามสถานะการณ์ หรือใช้วิธีการเจรจา ผลสำเร็จอาจไม่ใช่สิ่งที่ได้ตั้งเป้าหมายก็ได้ การดำเนินการทุกอย่างจะมีขอบเขตของแต่ละปัญหา แต่ในที่สุดผู้ปฏิบัติต้องยอมรับในเหตุที่อาจไม่ประสบความสำเร็จก็ได้
เป็นการแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ใช่ไหมคะ??
ขอบคุณ คุณครูแป๋มที่เข้ามาเยี่ยมเยือนกันครับ วิธีการที่ใช้ฝึกอบรมเราใช้ตัวหนังเป็นสถานการณ์เพื่อใช้เป็น Workshop ในการฝึกแก้ปัญหาและตัดสินใจครับ
ขอบคุณ คุณครูแป๋มที่เข้ามาเยี่ยมเยือนกันครับ วิธีการที่ใช้ฝึกอบรมเราใช้ตัวหนังเป็นสถานการณ์เพื่อใช้เป็น Workshop ในการฝึกแก้ปัญหาและตัดสินใจครับ
และกัลยาณมิตรทุกท่านด้วยนะครับ
ขอเชิญร่วมชมนิทรรศการ โครงงานคุณธรรม
ในงาน"พลังเยาวชน พลังสังคม" ครั้งที่ 1
"ร่วมสร้างประเทศไทย...ด้วยการให้"
และร่วมเวทีเสวนา
วันเสาร์ที่ 10 ต.ค. : ถอดองค์ความรู้โครงงาน สร้างเป็นบทภาพยนต์โทรทัศน์
เวลา10.00-16.30น. ณ หอประชุมชั้น5 หอศิลป์ฯ กทมฯ
วันอาทิตย์ที่ 11ต.ค. : ถอดรหัส ๙ วิธีฟื้นฟูชาติ
เวลา13.00-18.00น. ณ หอประชุมชั้น5 หอศิลป์ฯ กทมฯ
ผมก็ถือโอกาสใช้เวทีเสวนาที่สยามกัมมาจลเป็นเจ้าภาพงาน จัดระดมความคิด หัวข้อ ถอดรหัส ๙ วิธีฟื้นฟูชาติ ขึ้น
ยังไงก็เรียนเชิญ กัลยาณมิตร ผู้รักแผ่นดินทุกท่าน ร่วม work shop ระดมความคิดในเวทีเสวนาได้นะครับ
รบกวนถามท่านผู้รู้นะครับ
ถ้าสมมุติว่า จะใช้ KPI วัดความสำเร็จ เรื่อง การแก้ปัญหาและการตัดสินใจในการทำงาน
ช่วยกรุณา แนะนำด้วย ครับว่า KPI จะเขียนอย่างไร สัก 3- 5 ข้อ
ขอบคุณครับ
วัฒน์