๘.อเมริกา..ฮา..อเมริเก


๒๓ ตุลาคม ๔๗

ผมมานั่งเขียนบทความตอนเช้าโดยที่พวกเรายังไม่ตื่น อ้วนนัดเจอกัน ๑๐ โมงหรือใครจะถึงเที่ยงก็ตามใจ เพราะเมื่อวานเหนื่อยกันมาทั้งวัน แต่เราก็เหนื่อยแบบสะใจและเต็มอิ่มกับความรู้สึกที่ได้เห็นได้สัมผัสและได้ชิมหิมะ นึกแล้วยังขำเมื่อเวลาประกวดมิสยูนิเวิร์สและไปเก็บตัวที่ภูเก็ตแล้วนางงามบางคน แอบชิมน้ำทะเล ฝรั่งเห็นพวกเราชิมหิมะ ก็คงรู้สึกประหลาดเช่นกัน แฮ่ะๆ ที่ใครทีมัน

เช้าวันนี้คุณแหม่มกับคุณเดวิด ต้องตื่นแต่เช้ามาบริการพวกเรา คุณเดวิดต้องจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบิน เรื่องเส้นทางที่เราจะไปแกรนด์แคนย่อน ส่วนคุณแหม่มก็ต้องทำข้าวต้มกระดูกหมูเลี้ยงพวกเรา ฝีมือคุณแหม่มอร่อยมาก เสร็จแล้วก็ขอตัวไปนอนเหมือนเดิม เราทานเสร็จก็แยกย้ายห้องใครห้องมัน จนถึงบ่ายสองกว่าๆก็มาพบกันเพื่อออกไปหาซื้อของฝากที่เอ้าท์เลท OUT LET ใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งได้ของไม่กี่ชิ้น ต้องคนช้อปเก่งๆ รู้ราคาของจะได้ของดีราคาถูก ผมซื้อไม่ค่อยเป็นเพราะไม่ค่อยได้ช้อปปิ้งกับเขาเท่าไหร่ พอคิดเทียบเป็นเงินไทยก็รู้สึกว่าแพงทุกที (ขี้เหนียวก็ไม่บอก...ฮา)

ก่อนช้อปเราไปหาอะไรทานกันก่อนปรากฏว่าเจอร้านอาหารไทยชื่อเจ้าพระยา ก็เลยได้ทานอาหารถูกปาก เสร็จแล้วเราก็ออกไปช้อป นัดเจอกันหกโมงเย็น แต่กว่าเราจะได้ออกจากตรงนั้นมาก็เกือบทุ่ม อ้วนก็เลยให้เราไปดูน้ำพุของโรงแรม(บ่อนนั่นแหละ) ซึ่งมันเต้นตามเสียงดนตรี แล้วพาไปช้อปปิ้งที่ซูวีเนียร์ช้อป ได้ของมาสี่ห้าอย่าง ผ่านกลับมาดูน้ำพุรอบสองซึ่งเป็นคนละเพลง แล้วผ่านไปดูเรือไวกิ้งแบบผ่านๆ แถวหน้าโรงแรมใครมีอะไรดึงดูดใจก็แสดงกันที่หน้าโรงแรมอย่างที่ได้เล่าให้ฟังแล้ว แล้วไปทานอาหารที่บุฟเฟ่ต์เอเชีย  มีอาหารเยอะมากและเป็นอาหารดีๆเช่นกุ้งมังกร ปูอลาสก้า(ปูหิมะ) หอยแมงพู่ตัวใหญ่ ซูชิก็มี หัวละประมาณ ๑๖ เหรียญ เราทานกันจนคุ้มโน่นแหละถึงจะหยุด แล้วก็กลับบ้านแยกย้ายกันนอน มาอเมริกาคราวนี้ไม่อ้วนก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว เพราะกินแล้วก็นอน ขนาดทานอาหารจานเดียวแล้วก็ยังไม่วาย อาหารไทยที่มีขายที่นี่แต่ละจานบ้านเราสองคนกินได้สบาย

 

๒๔ ต.ค.๔๗

เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะได้กลับบ้านแล้ว วันนี้จะเป็นอีกวันที่เราจะได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั่นก็คือแกรนด์แคนย่อน กับเขื่อนฮูเวอร์เขื่อนต้นแบบของเขื่อนภูมิพล วันจันทร์ก็จะเป็นวันชอปปิ้งอีกวันและเที่ยวชมโชว์ของลาสเวัสกับให้ผลาญเงินกับบ่อนซึ่งมันมีเยอะมากสมกับที่เรียกว่า sin city เมืองคนบาป

เมื่อคืนนัดกันว่าจะออกจากบ้าน ๘ โมงครึ่งผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จลงไปข้างล่างเห็นแต่คุณแหม่มทำกับข้าวต้ม และมีคุณเดวิดยืนคุยอยู่ จึงขึ้นไปเอาแผ่นซีดี “เพราะเรารักภูเก็ต” มาให้เดวิด เพิ่งรู้จากคุณแหม่มว่าเดวิดก็เล่นเปียโน (แต่อ้วนบอกว่าพ่อเดวิดเล่นเปียโน ส่วนเดวิดเล่นกลอง)พอดีกับเพลงชุดนี้ซึ่งมีแต่เปียโนกับกีตาร์ เป็นอัลบั้มพิเศษที่น้องชายผม(โกไข่)ทำไว้แจกขอบคุณสื่อมวลชนตอนเราทำอัมบั้มเพลงภูเก็ตกัน ก็คงทำให้เดวิดชอบ

เราออกเดินทางตอนสิบโมงกว่าๆ ไปเขื่อนฮูเวอร์ก่อนเพราะมันต้องผ่าน แต่ก่อนถึงฮูเวอร์จะต้องผ่านเลคมีด Lake mead ก่อนก็สวยดีเป็นทะเลสาปกว้างใหญ่แต่ไม่รู้ว่าน้ำเค็มหรือน้ำจืด เราแวะถ่ายรูปกัน ตรงนั้นมีป้ายเตือนว่าความร้อนสูง คนหรือสัตว์อยู่ในรถปิดกระจกอาจตายได้...เห็นไหมครับป้ายเตือนเขาเขียนว่า HEAT KILLS จากนั้นเราก็แวะถ่ายรูปที่เขื่อนฮูเวอร์ แต่ไม่ได้ลงไปถ่ายที่ป้ายเขื่อนเพราะต้องทำเวลาไปแกรนด์แคนย่อน เห็นหน้าตาของเขื่อนไหมครับ ไม่ทราบว่าเหมือนเขื่อนภูมิพลของเราหรือเปล่า..เห็นรูปเป็นกล่องสีเขียว-เทา มุมขวาไหมครับ ให้ทายว่าอะไร...อิอิ..มันคือสุขาดีๆนี่เอง

เราไปซื้อไก่ทอดชื่อร้านป๊อบอาย ผมว่าอร่อยกว่าเคเอฟซีถูกปากคนไทยกว่า แต่ที่เมืองไทยกลับไม่ดังและเจ๊งไปแล้วตามที่อ้วนบอก ผมว่าถ้าเอาไก่ย่างแบบอิสลามที่เรากินที่ปักษ์ใต้น่าจะขายดี ไก่ป๊อบอายไม่ดังอาจเป็นเพราะการโฆษณามากกว่า

กว่าเราจะไปถึงแกรนด์แคนย่อนก็กินเวลา ไปถึงสี่โมงเย็น มันสวยและใหญ่โตมโหฬารจริงๆ ผมกับพี่รุ่งโรจน์เดินกันประมาณ ๓ กิโลเห็นจะได้แวะถ่ายรูปไปเรื่อย จุดโน้นก็สวยจุดนี้ก็ดีถ่ายภาพไปหลายสิบภาพจนเมมโมรี ๕๑๒ แมกกะไบต์ หมดเลย เกินคำบรรยายครับ สุดคุ้มครับงานนี้ ชีวิตนี้มันคุ้มเหลือเกินแล้ว ได้ดูกลาเซียร์ ได้ดูแกรนด์แคนย่อน ได้ไปเยี่ยมครอบครัวอุปถัมป์ของลูกชาย ได้ไปยูนิเวอร์แซล ได้ดูเรดร๊อค ได้ไปดูร๊อคกี้เม้าเท่น ได้เห็นหิมะของจริง หมดไป ๓-๔ หมื่นบาท ก็โอเคนะ เรากลับมาทานมาม่ากันที่บ้าน ฝีมืออ้วนเขาแถมด้วยข้าวเย็นอีกคนละนิดก็อิ่ม ผมทานยาแล้วเข้านอนตอนประมาณตี สอง ของที่นี่(ลาสเวกัส)

 

 

๒๕ ต.ค.๔๗

ผมตื่นแต่เช้าเช่นเคย วันนี้เราต้องเอารถเช่าไปคืนที่สนามบิน และวันนี้เดวิดกับคุณแหม่มจะพาไปช๊อบปิ้งและเอากางเกงยีนส์ไปเปลี่ยน วันนี้จะเที่ยวพักผ่อน ช้อป ดูโชว์ เดินดูในบ่อนเริ่มรายการจากเอารถเช่าไปส่ง แล้วเดวิดพาไปเลี้ยงติ่มซำที่ร้านอาหารจีน ได้กินปาท่องโก๋ซึ่งไม่มีใครรู้จัก (เพราะเราเรียก อิ๊วจาก๊วย ว่าเป็นปาท่องโก๋ งงไหมเนี่ย..อิอิ พอให้กินปาท่องโก๋จริงๆก็เลยไม่รู้เรียกว่าอะไร ฮ่าๆ) และขนมจีโจ้(ภาษาที่บ้านผม) ที่นี่เรียก sesame ball อิ่มแล้วเราก็เริ่มช้อป อ้อ ติ่มซำมื้อนี้ถือเป็นอาหารเที่ยงในตัว เสร็จแล้วเราไปที่เอ้าท์เลต เอากางเกงยีนส์ไปเปลี่ยน และต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่ากางเกงยีนส์ลีวายเขามีเป็นโค้ต ถ้า ๕๐๑ หมายถึงมีกระดุม ถ้า ๕๐๕ เป็นซิป ถ้าซุปเปอร์โล หมายถึงเอวต่ำ ของผู้หญิงเป็นเบอร์ือีกแบบหนึ่งไม่เหมือนของผู้ชาย และยัง

มีโค้ตบอกอีกว่าขาลีบขาตรงขาตัดปลายบาน ดังนั้นใครสั่งซื้อกางเกงยีนส์ต้องใหรู้โค้ตด้วย เดี๋ยวไม่ได้ดังที่ต้องการ (นี่เป็นความรู้ใหม่เอี่ยมของผมเลย ซึ่งอาจจะเป็นยความรู้เก่าของคนชอบยีนส์ก็ได้ อิอิ) และอีกอย่างหนึ่งถ้าไม่จำเป็นอย่ารับปากใครซื้อกางเกงยีนส์เพราะเวลาใส่กระเป๋าแล้วมันหนัก คราวนี้ซื้อมา ๕ ตัว (ฝากลูกชาย ลูกสาว คุณแอ๊ด และของตัวเอง)โคตระหนักเลย

วันนี้ตั้งใจว่าจะไม่ซื้ออะไรมากมายแต่พอเห็นเขาซื้อก็อดไม่ได้เพราะคนที่พาไปบอกว่าราคาเมืองไทยเท่านั้นเท่านี้ เช่น ครีมทามือทาตัวยี่ห้อดังร้านเจ้เล้งขายหลอดละประมาณ ๑,๐๐๐ บาทแต่ที่นี่พอซื้อเจ็ดหลอดแถมให้อีก ๑ หลอด และมีราคาลดพิเศษเหลือหลอดละ๒๐๐ กว่าบาทเลยคว้ากันมาคนละ ๘ หลอด เผื่อฝากใครต่อใครที่จำได้ไม่หมด ออกจากเอ้าท์เลท แห่งหนึ่งก็ไปที่เอ้าท์เลตอีกแห่งหนึ่ง คราวนี้ผมไปคว้ารองเท้า คล้าค ราคา ๒,๔๐๐ บาทแต่ราคาที่เมืองไทยเท่าที่จำได้ไม่ต่ำกว่า ๓,๖๐๐ บาท แถมหันไปเห็นเข็มขัดหนังไว้ให้เนติ์นิวคาดกับกางเกงยีนส์ลดราคาก็เอามาให้อีกคนละเส้น จากนั้นก็ไปร้านมาร์แชล มีสินค้าแบรนด์เนมราคาถูกอีกหลายรายการเลยซื้อของฝากผู้ใหญ่ เสื้อฝากป๋า เนคไทยี่ห้อดีๆราคาไม่แพง ว่าไปแล้วราคาเนคไทถ้าเป็นของจีคิวยังแพงกว่า เนคไทที่ซื้อมาเป็นยี่ห้อขึ้นชื่อของอเมริกาคราวนี้หมดห่วงเรื่องของฝากแล้ว ยังไงก็มีของฝากครบแน่นอน

จากนั้นเราไปเข้าบ่อน ความจริงแล้วเราไม่ได้มีเจตนาเข้าไปเล่นการพนันหรอก แต่เราเข้าไปทานดินเนอร์โดยเราสามคนขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงเดวิดกับน้องแหม่ม หัวละ ๒๕ เหรียญ ต้องเข้าคิวกันแถวยาวเหยียด ระหว่างทานอาหารก็มีเกมพนันให้เล่น เราไม่ได้เสียตังค์เล่นกันหรอกแต่บนโต๊ะมีคู่มือและกระดาษให้กากะบาด เราลองกากันดูโดยไม่แทง ก็ยังแทงไม่ค่อยถูกเลยเลิกล้มความสนใจ ทานอาหารเสร็จก็ลองไปโยกสลอตแมชีน ผมมีเศษเหรึยญอยู่ ๖-๗ อันๆละ ๒๕ เซ็นต์ โยกได้เจ็ดครั้งไม่ถูกก็เลยเลิก เป็นอันว่าคาสิโนลาสเวกัสกินเงินผมไปดอลล่าร์เศษเท่านั้น ไม่ใช่ขี้เหนียวแต่ไม่ชอบเพราะรู้อยู่ว่าเล่นยังไงก็ไม่ชนะ

เราไปดูไฟที่คาสิโนอีกแห่งหนึ่ง ตอนแรกเงยขึ้นไปดูหลังคาโค้งๆ สักพักก็เริ่มฉายเป็นหนังอวกาศมันมากเพราะเครื่องบินกับยานอวกาศวิ่งสวนเข้าต่อสู้กันตามทางยาวของหลังคา ก็ตื่นเต้นไปอีกแบบหนึ่ง แล้วเราก็เลิกล้มการไปดูโชว์เพราะต้องมาจัดกระเป๋าเดินทางให้ลงตัวผมจัดเสร็จประมาณตี  ๑  คุณแหม่มก็ยังอุปการะรีดชุดเดินทางให้อีก คุณแหม่มเป็นน้องสาวของอัยการรุ่นน้องจึงมีความสนิทสนมกับอ้วน และลูกของอ้วนมาเรียนหนังสือก็เลยอยู่ที่นี่

พรุ่งนี้ก็จะไปแอล.เอ. พบกับคริส และตอนเย็นคริสจะเลี้ยงอาหารเย็นที่บ้าน

มะรืนนี้ก็จะได้กลับบ้านแล้ว เย้.....

หมายเลขบันทึก: 300289เขียนเมื่อ 24 กันยายน 2009 07:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
  • เป็นการเดินทางแบบนักผจญภัยที่น่าตื่นเต้นมากค่ะ สนุกให้เต็มที่กับเวลาที่มีอยู่ในอเมริกานะคะ
  • อ่านแล้วเหมือนได้เดินทางไปด้วยค่ะ
  • ขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณลุงอัยการ

เผลอแพร๊บเดียว หนีไปเที่ยวสองตอนแระ เกือบตามไม่ทันแหนะ

หนูพึ่งรู้ว่าเขื่อนฮูเวอร์เป็นต้นแบบของเขื่อนภูมิพล แฮ่ๆ

วันที่๑ สอบเสร็จหนูจะกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวจะรีบกลับไปส่งน้ำตาลให้คะ

แอ้ม เมืองขนมหวาน

สวัสดีค่ะ

แวะมาทักทาย

น่าอิจฉาท่านอัยการนะค่ะ

เที่ยวให้สนุกนะค่ะ

สวัสดีค่ะ

- น่าอิจฉาท่านได้ไปเที่ยวไกลโข

- ว่าแต่ว่าชิมหิมะที่โน้น รสชาดเป็นอย่างไรบ้างค่ะ

สวัสดีค่ะ

- น่าอิจฉาท่านได้ไปเที่ยวไกลโข

- ว่าแต่ว่าชิมหิมะที่โน้น รสชาดเป็นอย่างไรบ้างค่ะ

สวัสดีครับคุณ sila Phu-Chaya

ผมไปทำงานและถือโอกาสเที่ยวหาประสบการณ์ แต่ไม่ได้บันทึกลงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆเพราะใช้มือถือจิ้มๆเอา

กลับมาก็ตกแต่งนิดหน่อยแล้วเก็บไว้นานเกือบ ๕ ปี ถึงได้เอามาโพสต์ในนี้แหละครับ

หนูแอ้ม ต้องจับตาให้ดี เพราะตอนหน้าจะกลับถึงเมืองไทยแล้ว อิอิ

สวัสดีครับคุณตุ๊กตา

สนุกจริงๆครับ อย่าลืมตามอ่านตอนสุดท้ายนะครับ

สวัสดีครับคุณเพชรน้อย

หิมะมันก็จืดๆ แถมมีขมนิดๆไม่รู้มันติดอะไรหรือมันเกาะที่ต้นไม้ที่มีรสขมหรือเปล่าก็ไม่ทราบ อิอิ

ไม่ได้ไปหลายปีแล้วครับจำไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่า ทรมาน ตอนนั่งเครื่อง ครับ

สวัสดีครับ อ.JJ

ไปต่างประเทศน่าเบื่ออีตอนเดินทางไปกลับจากบ้านเรานี่แหละครับ

ขอบพระคุณที่แวะมาทักทาย ผมไปแวะเยี่ยมบันทึกอาจารย์บ่อยครับ แต่ไม่ได่ทิ้งร่องรอยไว้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท