อุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นคือสัญญาณหนึ่งที่ต้องใคร่ครวญเพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า หมูเป็นสัตว์ที่โสมมโดยนิสัยเป็นสัตว์ที่ขี้เกียจ มักมากในการสมสู่ ไม่ชอบแสงแดด กินแทบทุกอย่างโดยไม่เลือกแม้สิ่งปฏิกูลทั้งอุจาระและสิ่งโสโครกทุกชนิด ในจำนวนเนื้อสัตว์ด้วยกันแล้ว เนื้อหมูเป็นแหล่งที่เพราะเชื้อโรคมากที่สุด และเนื้อหมูยังเป็นพาหะนำโรคมาสู่คนด้วย ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานพระผู้เป็นเจ้าได้มีโองการไว้ดังนี้ ในพระพจนาถชื่อ อัล มาอิดะห์ พระบัญญัติที่ 3 พระองค์ตรัสว่า "ได้ถูกห้ามแก่พวกท่าน (ศรัทธาทั้งหลาย)การบริโภคเนื้อสัตว์ที่ตาย โดยไม่ได้เชือดให้ถูกต้องตามหลักการ เลือด และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเชือดด้วยการออกพระนามอื่นนอกจากอัลลอฮ(ซ.บ) และที่ถูกรัดคอตาย และที่ถูกทุบตีจนตายและที่ตกลงมาถึงแก่ความตายและถูกขวิดตายและที่ตายเนื่องจากสัตว์ป่ากิน นกจากพวกท่านได้เชือดไว้ทันก่อนตาย และที่ถูกเชือดเพื่อการบูชาเจว็ด และที่พวสกท่านเสี่ยงทายโดยติ้ว เหล่านั้นเป็นการฝ่าฝืน วันนี้บรรดาผู้ปฏิเสธทั้งหมดหวังที่จะให้พวกท่านละทิ้งศาสนาของพวกท่าน ดังนั้นจงอย่ากลัวเขา และจงเกรงกลัวต่อฉัน วันนี้ฉันจะทำให้ศาสนาของพวกท่านสมบูรณ์สำหรับพวกท่านและได้ให้ความโปรดปรานของฉันครบครันแก่พวกท่าน และฉันได้พึงพอใจให้อิสลามเป็นศาสนาสำหรับพวกท่าน ผู้ใดอยู่ในความคับขันด้วยความหิวไม่ใช่จงใจทำบาป ดังนั้นแม้จริงอัลลอฮ(ซ.บ)นั้นคือผู้ทรงให้อภัย ผู้ทรงมีความเมตตา" และในพระพจนาถชื่อ อัล บากอเราะห์ พระบญญัติที่ 173 พระองค์ตรัสว่า"แท้จริงอัลลอฮ(ซ.บ)ทรงห้ามพวกเจ้าผู้ศรัทธาทั้งหลายมิให้บริโภคซากสัตว์ที่ตายโดยไม่ได้เชือดให้ถูกต้องตามหลักการ(นอกจากปลาและตั๊กแตน)และเลือด (นอกจากตับและม้าม)และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเชือดโดยออกพระนามอื่นนอกจากอัลลอฮ(ซ.บ) ถ้าผู้ใดตกอยู่ในความคับขัด โดยมิได้ขัดขืนและมิใช่ละเมิดบาปก็ไม่ตกแก่เขา แท้จริงอัลลอฮ(ซ.บ)นั้นคือผู้ทรงการให้อภัยและผู้ทรงเมตตา" และจากพระพจนาถชื่ออัล นะหุล์ พระบัญญัติที่ 115 พระองค์ตรัสว่า "พระองค์ได้ห้ามสูเจ้าทั้งหลาย ในการบริโภคซากทื่ตายเอง โดยมิได้เชือดให้ถูกต้องตามหลักการ เลือดและเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเชือดโดยการออกนามอื่นนอกจากอัลลอฮ(ซ.บ)ถ้าผู้ใดตกอยู่ในความคับขัน โดยมิได้เจตนาขัดขืนและมิใช่การละเมิด แท้จริงอัลลอฮ(ซ.บ)นั้นคือผู้ทรงให้อภัย ผู้ทรงมีเมตตายิ่ง " และในพระพจนาถชื่ออัล อันอาม พระบัญญัติที่ 145 พระองค์ตรัสว่า "จงกล่าวเถิดมูฮัมมัด ฉันไม่พบสิ่งใดที่ถูกวะฮีย์(คือมีโองการลงมาให้ฉัน)เป็นที่ห้ามแก่ผู้บริโภคมัน เว้นแต่ที่ตายเองโดยไม่ได้เชือดให้ถูกต้องตามหลักการ หรือเลือดที่ไหลออกมา หรือเนื้อสุกร เพราะแท้จริงมันเป็นความโสมม หรือการฝ่าฝืนที่จะเปล่งพระนามอื่นนอกจากนามของอัลลอฮ(ซ.บ)แท้จริงพระผู้อภิบาลของสูเจ้านั้นทรงให้การอภัยและทรงมีเมตตายิ่ง สำหรับผู้อยู่ในความคับขัน โดยมิได้เจตตาขัดขืน และมิใช่การละเมิด" เห็นได้ชัดเจนว่าคำสอนในอัลกุรอานในอัล อิสลามเป็นบรรดาสัญญาณต่างๆที่บ่งบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงยิ่ง นั่นคือวันกิยามะห์(วันสิ้นโลก) เพราะวันนี้จะเกิดขึ้นตามสัญญาที่อัลลอฮ(ซ.บ)ทรงให้ไว้อย่างชัดแจ้ง ไม่มีมนุษย์คนใดปฏิเสธได้ ดังพระดำรัสที่พระองค์ทรงตรัสไว้ว่า"เมื่อเหตุการณ์(วันกิยามะห์)เกิดขึ้น ไม่มีผู้ปฏิเสธคนใดปฏิเสธเหตุการณ์ของวันนั้น ทำให้ชนกลุ่มหนึ่งต่ำต้อย ชนอีกกลุ่มหนึ่งสูงส่ง เมื่อแผ่นดินถูกสะเทือนอย่างรุนแรงและบรรดาภูเขาได้แตกสลายและกลายเป็นผุยผงปลิวว่อน" อัล วากิอะฮ 56:1-6
ไม่มีความเห็น