ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
มีผลให้สภาพแวด ล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม
และการเมืองของแต่ละประเทศต้องเปลี่ยนตามไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
รวมทั้งด้านการศึกษาก็มีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้มากมาย
การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ทุกรูปแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
การเรียนการสอนและอำนวยความสะดวกในการศึกษาหาความรู้ให้แก่นักศึกษา
และเป็นที่ยอมรับกันว่าการเรียนการสอนด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์มนลักษณะของ
e-learning
มีผลทำให้เกิดการพัฒนาการทางด้านความคิดของผู้เรียนอย่างเป็นรูปธรรม
รวมทั้งส่งผลให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ(มนต์ชัย
เทียนทอง,2547) ปัจจุบันจึงมากรประยุกต์ใช้ e-learning
สำหรับศึกษาและอบรมทั้งในลักษณะการศึกษาแบบเผชิญหน้า(face-to-face)
และการศึกษาทางไกล(distance learning)
ในสถานศึกษาและในสถานประกอบการอย่างมาก
โดยผู้เรียนไม่จำเป็นต้องเดินทางมายังสถานศึกษา
หรือสถานประกอบการอย่างไรก็ตามข้อจำกัดของการใช้งาน
e-learning ก็มีอยู่เช่นกัน นอกเหนือจากปัญหาภายใน
อันได้แก่คุณภาพของบทเรียน ซึ่งเกิดจากความสถิต (static)
ของเนื้อหาบทเรียน
ทำให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่ายเมื่อศึกษาบทเรียนซ้ำหลายครั้ง
ส่วนปัญหาภายนอกก็ได้แก่ความเพียงพอของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พ่วง
(peripherals) ความสามารถของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
และปัญหาเรื่องแถบกว้างของความถี่ (bandwidth)
ซึ่งส่งผลถึงความเร็วในการส่งผ่านบทเรียนไปยังผู้เรียนปลายทางทำให้กานใช้งาน
e-learning
อยู่ในวงจำกัดเพียงในสถานศึกษาหรือสถานประกอบการเท่านั้น
แม้ว่าปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์ในบ้านพัดอาศัยส่วนใหญ่สามารถจะต่อเชื่อมเข้าสู่ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ก็ตาม
แต่วัตถุประสงค์หลักก็มักจะใช้เพื่อการบันเทิงหรือเพื่อการสืบค้นข้อมูลมากกว่าการศึกษาบทเรียน
ทำให้การเรียนการสอนด้วยตนเองในลักษณะของ e-learning
ไม่กระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายเท่าที่ควร
ในขณะเดียวกันโทรศัพท์มือถือ (mobile phone) และคอมพิวเตอร์แบบพกพา
(handheld computer) ก็ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
อันเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสื่อสานและโทรคมนาคม
กล่าวกันว่าเมื่อสิ้นปี พ.ศ.2546
มีการใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์แบบพกพามากกว่า 500
ล้านเครื่องทั่วโลก
จึงเกิดแนวทางใหม่ในการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ให้นำเสนอผ่านโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์แบบพกพาโดยใช้เทคโนโลยีโทรศัพท์ไร้สายเป็นช่องทางในการบริหารและจัดการบทเรียนซึ่งเรียกว่า
m-learning
ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์แบบพกพาทุกคนสามารถศึกษาบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเครื่องมือสื่อสารประจำตัวได้ตลอดเวลา
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้จัดให้มีการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาที่มีงานทำแล้วเข้ามาศึกษาเพื่อเป็นการเพิ่มวุฒิทางการศึกษาโดยผู้เรียนไม่จำเป็นต้องเข้ามาศึกษาในสถานศึกษาเหมือนนักศึกษาปกติ
แต่จะเป็นการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่