การไม่ได้พบกันของ "คนที่ควรซื้อประกันชีวิต" กับ "ตัวแทนประกันชีวิต" นั่นคือ จุดบอดของธุรกิจการประกันชีวิต ผลคือ อัตราการทำประกันชีวิตของคนไทยอยู่ที่ 10% กว่าๆ เท่านั้นเอง และนั่นคือ จุดบอดที่เป็นความเสี่ยงของการสร้างฝันให้เป็นจริงของประชาชนคนไทยด้วย ผลคือ เราได้เห็นตัวอย่างของคนแก่ แม่หม้าย(หรือพ่อหม้าย) และลูกกำพร้า หลายๆ คนที่ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา..เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าเค้าจะต้องพบกับความยากลำบากทางด้านการเงิน เพราะชีวิตเค้าเพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากได้อยากมีครบหมดแล้ว แต่เมื่อคนที่เป็นแหล่งรายได้หลักของครอบครัวต้องเจ็บป่วย หรือจากไปก่อนวัยอันควร เค้าถึงได้รู้ว่า ความรัก ความสุข ความอบอุ่นที่เค้าเคยมีอยู่นั่น แท้จริงแล้วเป็นเพราะเค้ามีรายได้ที่ไหลมาเทมาอย่างเพียงพอและไม่เคยหยุด จากคนที่เป็นที่พึ่งของเค้าและครอบครัวนั่นเอง เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และยังคงจะเกิดขึ้นต่อๆ ไปอีก หากเรา "คนที่ควรซื้อประกันชีวิต" กับ "ตัวแทนประกันชีวิต" ยังไม่ได้พบและพูดคุยกันเรื่องการประกันชีวิตอย่างจริงจัง... ด้วยความซื่อสัตย์ และจริงใจ
"จะสร้างบ้านท่านต้องพบกับวิศวกรสร้างบ้าน จะสร้างความฝันหรือเป้าหมายในชีวิตให้เป็นจริง ท่านต้องมีประกันชีวิตมารองรับความฝัน และนั่นคือเหตุผลที่ท่านควรพบกับตัวแทนประกันชีวิต"
อย่างไรก็ตาม หากท่านเคยพบตัวแทนประกันชีวิตแล้วไม่ประทับใจ หรือ ประทับใจอย่างไร ขอเชิญชวนเล่าสู่กันฟังนะครับ ผมเชื่อว่า ความเห็นที่เป็นกลาง ไม่มีวาระซ่อนเร้น จะมีประโยชน์ทั้งต่อธุรกิจประกันชีวิต ตัวแทน และ ผู้เอาประกันชีวิต
ไม่มีความเห็น