ชีวิตการทำงาน หลายครั้งจำเป็นต้องมองเรื่องเลวร้ายมากๆ
เพื่อจะเป็นการสร้างเกราะป้องกันให้กับตนเองไว้ด้วย
คนเรามาทำงานได้ในวันแรก.. ยังไงๆ ก็ต้องกลับบ้านไม่วันใดก็วันหนึ่ง
งานหลายสิ่งหลายอย่างนั้นอาจจะไม่ใช่ของเราก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบเครือข่ายใหญ่โต ระบบการบริหารองค์กร อำนาจในการบริหารองค์กร
ฉะนั้นหากต้องการที่จะประกัน หรือรับรองของที่เราทำว่าเป็นของเราจริงๆ จำเป็นเหลือเกินที่ต้องมีการคิด วางแผนให้ดี อย่ารอจนสาย
คำว่ารอถ้าเป็นไปได้ก็อย่าให้มีเลยจะดีมาก
จากความคิดเล็กๆ ตรงนี้แหละที่หลายคนก็ทำจนสำเร็จแล้วโดยเฉพาะพวกหัวดีทั้งหลาย อ่านขาดทั้งหลาย คว้าสิ่งที่เป็นของตัวเองแน่ๆ ไว้ก่อน เช่นเป็นช่างก็ควรที่จะเปิดร้านไปด้วยในขณะทำงานประจำ เป็นหมอก็เปิดคลินิก เก็บเงินเก็บทองใส่กระเป๋าไว้ก่อนเลย
อย่างนี้จะเรียกว่าไม่ประมาท
แต่มีหลายคนที่ทุ่มเททำงานในองค์กรแบบสุดตัว บางครั้งขัดแย้งกัน
มีปัญหาไม่ลงตัว ทำให้พ้นจากหน้าที่ก็จะเกิดอาการหวืด เสียศูนย์
ต้องระวัง
ในองค์กรก็เป็นแบบนี้ธรรมดาครับ ผมพูดก็เป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่
แต่ก็ใช้ได้เสมอ มันเรื่องอมตะ
การดำเนินชีวิตจำเป็นต้องมีศิลปะ ยิ่งใกล้ช่วงเค้าจัดงานเกษียณกันบรรยากาศก็พาให้เห็นถึงสัจจะธรรมของชีวิต เห็นความอื้อ หูอื้อ ตามัว ทำอะไรไม่ถูกของคนที่จะต้องเกษียณ ซึ่งรายล้อมไปกับผู้คนที่ยังคงทำงานกันแบบไม่มีกะจิตกะใจ
ที่พูดอย่างนี้ก็ไม่ใช่ให้ปลงหรอก ให้คิดหาทางป้องกัน หรือหาทางออกที่พอรับได้ไว้ก่อน ก่อนที่จะต้องมาเสียฟอร์มให้อนาตตัวเองเปล่าๆ เมื่อวันที่รอคอยมาถึงก่อนเวลาที่กำหนด
มาชม
มาเชียร์
มาอ่านนะครับ
อิ อิ อิ
คะ พี่สุก็มีกลอนเกษมก่อนเกษียณ อยู่ในบล็อคแหละคะ เพื่อให้คนเกษียณได้เตรียมตัว พี่สุก็อยากให้คนเกษียณได้อ่านประกอบคะ
แวะเข้ามาอ่านค่ะ...คนใกล้เกษียณเขาเคยบอกว่า...คงเหงาน่าดูชีวิตเกือบครึ่งชีวิตอยู่กับการทำงาน แต่จู่ ๆ ต้องให้นั่งอยู่กับบ้าน เพื่อนฝูงก็ไม่ได้เจอ ฮ้าย!! ชีวิตวัยเกษียณของเราจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ...