ตาเหลิม
นาย วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

เมื่อไปจัดกิจกรรมเด็ก


ไม่ควรปล่อยให้อยู่กับทีวี โดยเฉพาะละครน้ำเน่า เพราะไม่อย่างนั้น เด็กๆ จะลอกเลียนและรับมาเต็มๆ

.

.

.

 

เมื่อไปจัดกิจกรรมเด็กน้อย

 

ผมไปจัดกิจกรรมให้เด็กเล็ก 3 คน ในกิจกรรมครอบครัวที่มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ร่วมกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งจัดขึ้น จากการชวนของพี่นุช ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากทราบเรื่องคุณพ่อจากคุณแม่ (14. เมื่อพ่อป่วย)แม้จะยังไม่ค่อยสบายใจนัก แต่ก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ให้ดีก่อน โดยมีทีมงานเป็น นักจิตวิทยาพัฒนาการ และน้องนศ.หน้ามน (ที่กำลังเรียนจิตวิทยาคลินิก และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคงได้เกียรตินิยม) เป็นทีมเล็กๆ ที่ไปเลี้ยงเด็ก และจัดกิจกรรมสนุกสนานกันตามสมควร

เราได้จัดกิจกรรมกับน้องๆ สามคน โดยมีชื่อสมมุติคือ น้อง เอกซ์ อายุ 2 ปี น้อง วาย อายุ 4 ขวบ และ น้อง แซด อายุ 11 ขวบ

กิจกรรมตอนแรกเริ่มก็เริ่มทำความรู้จักกัน ในแบบที่เราจะแนะนำกันได้ เริ่มชวนกันมาพูดคุยเล็กๆน้อยๆ และลองสอบถามถึงกิจกรรมที่อยากทำร่วมกัน สรุปที่มาชวนกันวาดรูป และทำเปเปอร์มาเช่ ฯลฯ นอกเหนือไปจากนั้นก็จะมีชวนกันดูเมฆ และเดินชมนกชมไม้

...

น้องเอกซ์ เป็นเด็กน้อยสุด อายุสองขวบ เพศหญิง มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากก็คือ เด็กวัยนี้กำลังเรียนรู้อย่างยิ่งยวด จะชอบการมอง การได้รับคำอธิบาย การชวนคุยในเรื่องนิทานประกอบภาพต่างๆ จะได้รับความสนใจอย่างมากจากน้อง และระหว่างที่เล่น น้องชอบสัมผัสรูปทรงของวัตถุต่างๆ ที่มีความแตกต่างกัน และที่สำคัญน้องต้องการการดูแลเอาใจใส่มาก เพราะจะชอบการเคลื่อนไหวตลอดเวลา กำลังเรียนรู้พฤติกรรมต่างๆ และในวัยนี้จะมีพฤติกรรมลอกเลียนแบบด้วย ลอกเลียนแบบได้เร็วมาก เดี๋ยวจะเขียนไว้ให้ทราบว่า เป็นอย่างไร  

น้อง วาย อายุ 4 ปี เพศชาย กำลังอยู่ในวัยเด็กตอนต้น พร้อมแล้วสำหรับการเติบโต น้องวาย เป็นเด็กที่รู้จักคำสั่ง และเริ่มรู้จักกติกาบ้างแล้ว (เป็นเด็กที่ตกใจง่ายมาก ชอบกรี๊ดเสียงดัง) น้องเรียนรู้ได้รวดเร็ว แต่สมาธิจดจ่อกับกิจกรรมน้อย จึงชวนทำกิจกรรมอื่นๆ ประกอบเสมอ และดึงความสนใจกลับมาที่กิจกรรมตัวเองกำลังทำอยู่ในภายหลัง เรียนรู้พฤติกรรมได้ดี และเร็วมาก ระหว่างทำกิจกรรมจึงเตือนทีมงานว่า ให้ระมัดระวังเวลาที่ต้องแสดงออกกับน้อง โดยเฉพาะเรื่องอารมณ์ และคำพูด ซึ่งทีมก็ทำได้ดี ทำให้บรรยากาศเป็นมิตร เด็กให้ความไว้วางใจมาก น้องวาย ชอบสำรวจสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ และกล้าตั้งคำถาม แสดงให้เห็นพื้นฐานครอบครัวที่ไม่ได้  ปิดกั้นเรื่องจินตนาการของเด็ก เวลาพูดคุยเรื่องความรู้สึก ตอบได้ฉะฉาน และเข้าใจความรู้สึกตัวเองดี

น้อง แซด อายุ 11 ปี เพศหญิง กำลังอยู่ในช่วงวัยเด็กตอนปลาย กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยรุ่น น้องเป็นเด็กสุภาพ เรียบร้อย พูดจาฉะฉาน กล้าแสดงออก สามารถทำกิจกรรมได้ในระยะเวลานานๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่ใช้จินตนาการ เช่น วาดรูป และกิจกรรมศิลปะอื่นๆที่ต้องใช้มือเข้ามาช่วย เช่น เปเปอร์มาเช่ น้อง แซด เป็นเด็กที่มีความเชื่อมั่นในตนเองในระดับสูง และเห็นคุณค่าของตนเอง แสดงออกอย่างชัดเจน สามารถบอกความต้องการของตัวเอง และจัดการตัวเองได้เป็นอย่างดี สังเกตจากพฤติกรรมของคนในครอบครัวพบว่า สื่อสารกันด้วยถ้อยคำที่ดี ไม่เน้นการออกคำสั่ง แต่ขอความร่วมมือและให้เหตุผล เป็นจุดเด่นมากของการสื่อสารกันแบบนี้ เพราะทำให้เด็กได้ฝึกคิด ตอบคำถามและพูดคุยได้อย่างเต็มที่

...

ผมพบกับเด็กๆ ทีละคน คุณพ่อคุณแม่จะทยอยกันมาในช่วงเช้า ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร เราค่อยๆ แนะนำตัวกับเด็กๆ ทีละคน ทั้งสามคน คนนี้ชื่อพี่ต้าร์ คนนี้ชื่อพี่เอ๋ และคนนี้ชื่อพี่แหวน

ผมโน้ตกับเพื่อนๆ ในทีมไว้ว่า พูดกับเด็ก เหมือนที่เรากำลังสื่อสารกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง เราจะไม่ทำให้เขารู้สึกว่าโดนบังคับ แต่ต้องทำให้เขารู้สึกว่าเราคุยกันได้ในทุกเรื่อง ดังนั้น เรื่องบางเรื่องก็ต้องตกลงร่วมกัน (ยกเว้นกับคนเดียวคือน้อง เอกซ์ ซึ่งรายนั้นเด็กเกินไป) ผลตอบรับจากการสื่อสารดังกล่าว ระหว่างทีมงานกับน้องวาย และ แซด ดีมาก เด็กสองคน ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมด้วยดี

กิจกรรมแรกเรามาชวนกันทำงานศิลปะจากกระดาษหรือเปเปอร์มาเช่ งานชิ้นนี้จะมีน้อง วาย และ แซด มาช่วยกันฉีกกระดาษหนังสือพิมพ์ ลงแช่น้ำ น้องวายดูสนุกสนานกับการฉีกกระดาษมาก และจดจ่ออยู่ได้นานเกินสามสิบนาที

วิธีการกระตุ้นก็มีเพิ่มเติม เช่น น้องลองฉีกกระดาษให้เป็นรูปทรงต่างๆดีมั้ยครับ ลองดูซิว่าตัวอักษรตัวไหนเหมือนกันบ้าง ดูซิว่า มีรูปผู้ชายกี่รูปในหน้านี้ ทำให้น้องวาย เกิดการเรียนรู้ และฝึกทักษะสองอย่าง ก็คือ เรื่องของทักษะการมองการสังเกต และทักษะการใช้มืออีกด้วย ส่วนน้องแซด รายนี้เก่ง นั่งตัดกระดาษได้นิ่ง และเรียบร้อยดีมาก (ที่น้องทำดี นี่ไม่ได้เอาใจพี่ๆ นะครับ เค้าทำของเค้าจริงๆ เพราะตอนที่เค้าเบื่อ เค้าก็บอกออกมาเลยว่า หนูเบื่อแล้ว เมื่อไหร่จะได้ลงมือทำคะ พอเราร่วมกันกำหนดเวลา เค้าก็ทำต่ออย่างมีเงื่อนไขเวลามาเกี่ยวข้องด้วย)

จากนั้นจึงเริ่มลงมือทำหน้ากาก โดยเริ่มจากการทำโครงหน้า สำหรับหน้ากาก ซึ่งเราเลือกทำโครงด้วยการใช้เศษกระดาษและถุงพลาสติกเหลือใช้ จนถึงเที่ยง ระหว่างที่พี่วาย พี่แซด ทำหน้ากากกระดาษอย่างเมามัน น้องเอกซ์ ไปเดินดูก้อนหิน และก้อนเมฆกับพี่เอ๋ โดยมีพาหนะคือรถเลื่อนคันเล็กๆ ที่ใช้สำหรับขนของ

เมื่อการแปะกระดาษของเราก็เสร็จสิ้น พวกเราก็นำเอาหน้ากากไปตากแดด และยืนชื่นชมกับผลงานปุ่มๆ ป่ำๆ ที่พวกเราช่วยกันแปะๆ ปะๆ ท่ามกลางแดดจ้า จากนั้นเราจึงปล่อยให้เด็กๆ ได้ทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ และเป็นช่วงเวลาพักหนึ่ง ชม. ที่แสนจะมีความสุข พร้อมกับพูดคุยเรื่องพฤติกรรมของเด็กแต่ละคน เพื่อที่จะได้เตรียมรับมือ

...

พอเข้าช่วงบ่าย ก็เล่านิทานกันหนึ่งเรื่องให้เด็กๆ คือ น้องเอกซ์ และน้องวายได้ฟัง ซึ่งสองคนสนุกกับเรื่องเล่า   จนน้อง วาย ขอเล่าเองบ้าง เมื่อวายได้สมุดหนึ่งเล่มไป เป็นสมุดภาพ เรื่องพี่กับน้อง (ในเรื่องของหนังสือนี่คือ มีเด็กคนหนึ่งเป็นพี่ กับน้องเกิดใหม่ พี่ก็อยากเล่นกับน้อง อยากดูแลน้อง และสองคนก็นอนหลับไปพร้อมกัน) น้องวายเล่าเรื่องได้สนุกมาก เป็นเด็กที่มีจินตนาการสูงมาก และวิธีคิดเป็นเรื่องเป็นราวพอสมควร

ผมได้ลองถามว่า เอ๊ะ แล้วแบบนี้ น้องวาย มีน้องตัวเล็กๆ แบบนี้ที่บ้านหรือเปล่า น้องวาย บอกว่า มีคับ มีคนนึง ตัวเล็กๆ เท่านี้เอง พร้อมกับพยายามทำมือให้เท่ากับขนาดของตัวน้อง   

น้อง แซด ฟังอยู่ด้วยแต่ไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มๆ แล้วก็วาดรูป ที่ตัวเองสนใจ พอเริ่มวาดรูป ทั้งสามคนมาวาดด้วยกันอย่างพร้อมเพียง แต่ละคนเลือกสี และวิธีการที่ตัวเองชื่นชอบ โจทย์มีแค่ว่า ให้วาดภาพที่เราคิดถึงอยู่ในตอนนี้ (เท่านั้นเอง)  

น้องเอกซ์ เลือกสีน้ำ และพี่เอ๋ พาวาดโดยการเอานิ้วจุ่มสี สนุกมาก น้องจับพู่กันได้ดี ลงนำหนักได้ดี เสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ วาดได้ถึงสามสี่รูป

น้อง วาย ตอนแรกเลือกสีชอล์ก มาตอนหลังเห็นพี่แซด วาดรูปด้วยสีโปสเตอร์ และสีน้ำ อยากวาดบ้าง ก็เลยให้ลองวาดดู สังเกตเป็นชัดว่า ไม่เคยจับพู่กันมาก่อน ลงสีรุนแรง กดปลายพู่กันแทบหัก จากค่อยๆ บอกจนต้องกลายเป็นกติกา น้องวายเรียนรู้ได้เร็ว และมีรูปแบบการลงสีที่ดีขึ้น ไม่จิ้มปลายพู่กันแล้ว

น้องแซด ไม่ต้องพูดถึง ได้ทุกแบบ รายนี้เล่าให้เราฟังว่า เคยไปแข่งประกอบวาดภาพ และเคยวาดรูปใหญ่ขนาดฝาผนังเลยทีเดียว น้องมีสมาธิจดจ่อกับการวาดมาก บรรจงในการลงสี เลือกสี และผสมสี ถ้าได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องน่าจะดีมิใช่น้อย

...

การวาดรูป อย่างมีสติ เกิดกับน้องแซด คนเดียว พอผ่านไปประมาณ 30 – 40 นาที น้องวาย และน้องเอกซ์ จะเริ่มอยู่ไม่สุขกันซะแล้ว สำหรับน้องเอกซ์ ก็ไปเล่นรถเข็น และเดินดูอุปกรณ์รูปทรงแปลกๆอย่างสนใจ

ส่วนน้องวาย พลังเยอะ เลยปั้นกระดาษ นสพ.ให้เป็นลูกบอล พันเทปกาวให้ไปเตะเล่น พอเตะเตะมา ก็เริ่มทำลายสมาธิคนอื่นๆ สรุป ทุกคนก็เลยไปเตะบอลกันหมด และน้องเอกซ์ ก็ต้องมีลูกบอลอีกลูก ไม่งั้นคงแบ่งกันลำบาก

พอคุณพ่อคุณแม่เสร็จกิจกรรม ก็มาพาลูกๆกลับบ้าน สบายใจไปหนึ่งเปลาะ

...

พฤติกรรมของน้องๆ ที่สังเกตพบ

น้องเอกซ์ เรียนรู้ ลอกเลียน และจดจำ พฤติกรรมที่ตัวเองพบเห็น อย่างรวดเร็ว ทำตามทันที เด็กอายุ 0-3 ปี ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะจดจำพฤติกรรมไม่ดีได้ง่าย

อย่างวันนี้ น้องก็ได้เรียนรู้คำว่า ไอ้บ้า จากพี่วาย และเรียนรู้พฤติกรรมการ เขวี้ยงของกลับบ้านไปด้วย สอดคล้องกับเรื่องจิตวิทยาพัฒนาการ และจิตวิทยาการเรียนรู้ของเด็ก

ดังนั้น เด็กวัยนี้ ทุกท่าน ไม่ควรปล่อยให้อยู่กับทีวี โดยเฉพาะละครน้ำเน่า เพราะไม่อย่างนั้น เด็กๆ จะลอกเลียนและรับมาเต็มๆ ผมเคยเห็นเด็กหลายคนจีบปากจีบคอ กรี๊ด และมีพฤติกรรมก้าวร้าวแบบในละคร โดยที่เด็กทำตามโดยไม่รู้ความหมาย ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จะน่ากลัวมาก เพราะช่วงวัย 0-3 ปี เป็นช่วงที่เด็กกำลังหล่อหลอม และสร้างพฤติกรรม ในรูปแบบของตัวเอง

 

น้องวาย กำลังเรียนรู้เรื่องความอดทน และการจัดการกับอารมณ์ เด็กวัยนี้จะมีเรื่องความสนใจสิ่งต่างๆ ในระยะสั้นๆ เพราะมักจะถูกดึงความสนใจจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ง่าย ดังนั้นเด็กวัยนี้ต้องหากิจกรรมที่เหมาะสม ตอนหลังๆ ให้ลากรถเข็นเล่น พร้อมๆ กับเตะลูกบอล พบว่า น้องสนุกสนานมาก เหงื่อแตกพลั่ก แต่ก็ยังเล่นต่อ

เด็กประมาณช่วงอายุนี้ ควรต้องเน้นเรื่องของการจัดการอารมณ์ด้วย จึงควรที่จะต้องสร้างเงื่อนไขหรือกติกาบางอย่างให้กับเด็ก เพื่อฝึกให้เขามีวินัย และเคารพกติกา หรือเคารพในการอยู่ร่วมกันได้ด้วย

 

น้องแซด โตแล้ว เริ่มกล้าแสดงออก เด็กวัยนี้ควรเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เวลาไม่เห็นด้วย ก็ไม่ควรบอกว่าเขาผิด แต่ต้องให้เหตุผลประกอบ เช่น พี่คิดว่า ถ้าเรายังวาดรูปกันอยู่แบบนี้ อาจจะทำให้น้องตัวเล็กๆ สองคนมาแย่งสีจากเราได้ และอาจจะทำให้งานของน้องแซดเปื้อนได้ ถ้าวาดรูปนี้เสร็จเรามาช่วยกันเก็บอุปกรณ์ให้พ้นจากน้องๆ กันดีมั้ย  พอพูดแบบนี้ได้ความร่วมมืออย่างดีมากครับ  

...

ถ้าหากผมได้ไปทำกิจกรรมอะไรที่ไหนอีก เดี๋ยวจะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ หวังว่าบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยให้กับท่านที่กำลังมีเด็กๆ ในความดูแล ลองอ่านบทความอื่นๆประกอบด้วยนะครับ จะช่วยให้การเลี้ยงดูเด็กของท่านง่ายขึ้นอีกเป็นกองๆ

 

หมายเลขบันทึก: 290934เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2009 16:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2012 14:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

เข้ามาเรียนรู้ด้วยครับ 

สวัสดีค่ะ  คุณตาเหลิม

  • เข้ามาเรียนรู้กับการจัดการความรู้ให้กับเด็กๆที่เหมาะสมค่ะ
  • น้อง X อายุ 2 ปี ไม่ควรปล่อยให้อยู่กับทีวี
  • น้อง y อายุ 4 ปี  ควรเน้นการจัดการอารมณ์
  • น้อง z อายุ 11ปี ควรให้โอกาสเด็กแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
  • ขอบคุณความรู้ดีดีที่สร้างสรรค์ค่ะ

โอ้โห...ดีจังเลยค่ะ...ข้อมูลที่ควรรู้ละเอียดยิบเลยสำหรับการดูแลเด็กในวัยเดียวกับน้องทั้งสามคน

ขอบคุณสำหรับความรู้เด็ดๆ ที่น่าอ่านค่ะ

เจอร์ มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิธิเด็ก

ขอบคุณในความน่ารัก และความมีนำ้ใจที่มีให้

บทความน่ารักมากเลย อ่านแล้วยิ้ม

สวัสดีค่ะคุณตาเหลิม

กอเข้ามาเรียนรู้ค่ะ อิอิ

แต่เมื่อกี้เพิ่งไปดูภาพ ใครจุ๊บกัน อิอิ

ดูแล้วเขยแทนค่ะ ว้าววววววววววววว

  • ตอนนี้ที่บ้านก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ พยายามไม่ให้อยู่กับทีวีมากแต่ก็น่าจะยากเกินแก้
  • ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าดี ๆ ค่ะ

ขอบคุณความดีงามในหัวใจที่ไม่เคยขาดหายไป นะครับ..
ผมเป็นกำลังใจให้..เสมอ

ช่วงนี้ อยากเรียนรู้น้อง A B C หรือ D E F อีกบ้างไหม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท