เกณฑ์วิทยฐานะใหม่


เกณฑ์วิทยฐานะใหม่

           ไม่ได้โพสต์นานเลย  วันนี้มีเรื่องเกี่ยวกับเกณฑ์วิทยฐานะใหม่มาฝากสมาชิกนะคะ  บางท่านอาจรู้แล้วก็รู้ไว้ใช่ว่านะคะ  อากาศเปลี่ยนดูแลสุขภาพด้วยนะคะ 

วิทยฐานะเกณฑ์ใหม่เริ่มใช้ 1 ตุลาคม 2552 นี้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เผยที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ ๖/๒๕๕๒ ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะใหม่ มีผลตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๒
รมว.ศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ โดยให้มีผลยื่นคำขอหลักเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะใหม่นี้ได้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ เป็นต้นไป
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการประเมิน
               -  ครูชำนาญการ
ดำรงตำแหน่งครูมาแล้วไม่น้อยกว่า ๖ ปี ๔ ปี ๒ ปี สำหรับวุฒิปริญญาตรี โท และเอกตามลำดับ และมีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ย้อนหลัง ๒ ปีติดต่อกัน นับถึงวันที่ยื่นคำขอ
               -  ครูชำนาญการพิเศษ ดำรงตำแหน่งครูชำนาญการมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี และได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบจากการเรียนการสอนและพัฒนาผู้เรียน และมีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ย้อนหลัง ๒ ปีติดต่อกัน นับถึงวันที่ยื่นคำขอ
                 -  ครูเชี่ยวชาญ ดำรงตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี หรือครูชำนาญการมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี และได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบจากการเรียนการสอนและพัฒนาผู้เรียน และมีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ย้อนหลัง ๒ ปีติดต่อกัน นับถึงวันที่ยื่นคำขอ
                 -   ครูเชี่ยวชาญพิเศษ ดำรงตำแหน่งครูเชี่ยวชาญมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี และได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบจากการเรียนการสอนและพัฒนาผู้เรียน และมีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ย้อนหลัง ๒ ปีติดต่อกัน นับถึงวันที่ยื่นคำขอ
องค์ประกอบในการประเมิน
           ด้านที่ ๑ ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ พิจารณาจากข้อมูลของบุคคลและหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเอกสารหลักฐาน คือ ก.พ.๗, คำรับรองของผู้บังคับบัญชาและกรรมการสถานศึกษา และเอกสารหลักฐานที่แสดงการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
          ด้านที่ ๒ ด้านความรู้ความสามารถ พิจารณาจากเอกสารหลักฐานในการพัฒนาตนเองและงานในหน้าที่ ๒ ส่วน คือ ๑) เอกสารหลักฐานที่แสดงถึงการพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในสาขาหรือกลุ่มสาระที่รับผิดชอบหรือในงานที่รับผิดชอบ เช่น วุฒิบัตร เกียรติบัตร หรือใบรับรองการผ่านทดสอบความรู้จากสถาบันวิชาการที่ ก.ค.ศ.รับรอง เป็นต้น ๒) เอกสารหลักฐานที่แสดงถึงการเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอน เช่น แผนการสอน สื่อการสอน แฟ้มสะสมผลงาน เป็นต้น
             ด้านที่ ๓ ด้านผลการปฏิบัติงาน
                  - ชำนาญการ พิจารณาผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และหรือผลการทดสอบจากหน่วยงานที่แสดงให้เห็นว่าผู้เรียนมีการพัฒนาด้านการเรียนรู้และพัฒนาการด้านอื่นๆ โดยคำนึงถึงปริมาณ คุณภาพ และสภาพของงานด้วย และอาจพิจารณาจากการปฏิบัติจริงด้วยก็ได้
                  - ชำนาญการพิเศษ มี ๒ ส่วน คือ
ส่วนที่ ๑ ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน พิจารณาจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และหรือผลการทดสอบจากหน่วยงานที่แสดงให้เห็นว่าผู้เรียนมีการพัฒนาด้านการเรียนรู้และพัฒนาการด้านอื่นๆ โดยคำนึงถึงปริมาณ คุณภาพ และสภาพของงานด้วย และอาจพิจารณาจากการปฏิบัติจริงด้วยก็ได้
ส่วนที่ ๒ ผลงานทางวิชาการ ซึ่งเป็นรายงานการศึกษาค้นคว้าหรือผลการวิจัยในชั้นเรียนที่มีจุดหมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียนของผู้เรียน มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาและนำไปสู่การสรุปองค์ความรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนไม่น้อยกว่า ๑ รายการ
- เชี่ยวชาญ มี ๒ ส่วน คือ

           ส่วนที่ ๑ ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน พิจารณาจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และหรือผลการทดสอบจากหน่วยงานที่แสดงให้เห็นว่าผู้เรียนมีการพัฒนาด้านการเรียนรู้และพัฒนาการด้านอื่นๆ โดยคำนึงถึงปริมาณ คุณภาพ และสภาพของงานด้วย และอาจพิจารณาจากการปฏิบัติจริงด้วยก็ได้
             ส่วนที่ ๒ ผลงานทางวิชาการ ซึ่งเป็นรายงานการศึกษาค้นคว้าหรือผลการวิจัยในชั้นเรียนที่มีจุดหมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียนของผู้เรียน มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาและนำไปสู่การสรุปองค์ความรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนไม่น้อยกว่า ๒ รายการ ซึ่งต้องเป็นงานวิจัยอย่างน้อย ๑ รายการ
- เชี่ยวชาญพิเศษ มี ๒ ส่วน คือ
ส่วนที่ ๑
ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน พิจารณาจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และหรือผลการทดสอบจากหน่วยงานที่แสดงให้เห็นว่าผู้เรียนมีการพัฒนาด้านการเรียนรู้และพัฒนาการด้านอื่นๆ โดยคำนึงถึงปริมาณ คุณภาพ และสภาพของงานด้วย และอาจพิจารณาจากการปฏิบัติจริงด้วยก็ได้
ส่วนที่ ๒ ผลงานทางวิชาการ ซึ่งเป็นรายงานการศึกษาค้นคว้าหรือผลการวิจัยในชั้นเรียนที่มีจุดหมายในการแก้ปัญหาด้านการเรียนของผู้เรียน มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาและนำไปสู่การสรุปองค์ความรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนไม่น้อยกว่า ๒ รายการ ซึ่งต้องเป็นงานวิจัยและพัฒนาอย่างน้อย ๑ รายการ

การปรับปรุงผลงาน
กรณีที่ ก.ค.ศ. เห็นสมควรให้ปรับปรุงผลงานทางวิชาการ ให้ปรับปรุงได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง ครั้งที่ ๑ ไม่เกิน ๖ เดือน ครั้งที่ ๒ ไม่เกิน ๓ เดือน นับตั้งแต่วันที่ สพท.ได้รับหนังสือแจ้งมติจากสำนักงาน ก.ค.ศ. โดยส่งให้คณะกรรมการชุดเดิมพิจารณา หากไม่ส่งภายในกำหนดถือว่าสละสิทธิ์

เกณฑ์การตัดสิน
ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ต้องได้คะแนนแต่ละด้าน ดังนี้
ชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญพิเศษ
ด้าน ๑ ต้องได้คะแนน
แต่ละด้านจากกรรมการ
ทั้งสามคน
เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า ๖๕% ๗๐% ๗๕% ๘๐%
ด้าน ๒ ๗๐% ๗๕% ๘๐%
ด้าน ๓ ส่วนที่ ๑ ไม่ต่ำกว่า ๖๕% ส่วนที่ ๑ ไม่ต่ำกว่า ๗๐% ส่วนที่ ๑ ไม่ต่ำกว่า ๗๕%
ส่วนที่ ๒ ไม่ต่ำกว่า ๖๕% ส่วนที่ ๒ ไม่ต่ำกว่า ๗๐% ส่วนที่ ๒ ไม่ต่ำกว่า ๗๕%
คะแนนรวมทั้งสองส่วน
ไม่ต่ำกว่า ๗๐% คะแนนรวมทั้งสองส่วน
ไม่ต่ำกว่า ๗๕% คะแนนรวมทั้งสองส่วน
ไม่ต่ำกว่า ๘๐%
ต้องผ่านเกณฑ์เป็นเอกฉันท์ทั้ง ๓ ส่วน
วิธีการ
ให้ยื่นคำขอได้ปีละ ๑ ครั้ง ช่วงเวลาใดก็ได้ เพราะความพร้อมของครูต่างกัน กรณี อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาไม่อนุมัติ มีสิทธิ์ส่งคำขอใหม่ในปีถัดไป กรณีเกษียณอายุราชการให้ยื่นคำขอก่อนเกษียณฯ ไม่น้อยกว่า ๖ เดือน
คณะกรรมการประเมิน
- ชำนาญการ
ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ตั้งคณะกรรมการประเมินจำนวน ๓ คน ประกอบด้วย ผอ. สถานศึกษาของผู้ขอรับการประเมิน ผู้ทรงคุณวุฒินอกสถานศึกษา และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการ ประเมินทั้ง ๓ ด้าน
- ชำนาญการพิเศษ ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ตั้งคณะกรรมการประเมินจากบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ.เห็นชอบจำนวน ๓ คน ตามสัดส่วนที่ ก.ค.ศ.กำหนด ประเมินทั้ง ๓ ด้าน
- เชี่ยวชาญและเชี่ยวชาญพิเศษ ให้ ก.ค.ศ. ตั้งคณะกรรมการประเมิน จำนวน ๓ คน ประเมินทั้ง ๓ ด้าน
ขอข้ามวิทยฐานะ (Fast Track) จากชำนาญการ เป็นเชี่ยวชาญได้
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ในระหว่างนี้ ก.ค.ศ.ได้มอบให้ปลัด ศธ. เป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาจัดทำคู่มือ เกณฑ์ เครื่องมือในการประเมินต่างๆ ให้เสร็จสิ้นภายใน ๓ เดือน (กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๕๒) พร้อมทั้งรายงานต่อที่ประชุม ก.ค.ศ.ทราบเป็นระยะๆ ด้วย
ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ 30 มิ.ย.2552

อากาศแปรปรวนขอให้รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

หมายเลขบันทึก: 289694เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2009 14:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 12:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

แม้จะอยู่นอกวงการ แต่ก็สนใจครับ

ขอบคุณที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านและยังสละเวลาแสดงความคิดเห็นอีก นักโพสต์หน้าใหม่ปลื้มใจค่ะ

ขอชำนาญการต้องดูเงินเดือนด้วยไหมครับอยากรู้

เกณฑ์ใหม่ 1 ต.ค.2552 ไม่ต้องดูค่ะ โชคดีนะคะ

อยากได้รับคำยืนยันว่าไม่ต้องดูเกณธ์เงินเดือน ใช่ไหมค่ะ ทำมา เป็นครั้งที่ 2 แล้ว จะได้ส่งซะทีค่ะ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท