หนังสือ ชื่อ "ต้นไม้ใต้โลก" เขียนโดย "ทรงกลด บางยี่ขัน" แห่งสำนักพิมพ์ a book ยืมมาจากห้องสมุดมหาวิทยาลัย ยังไม่ได้อ่านสักกะเรื่อง เปิดอ่านก็พบเรื่องราวดี ๆ นำมาเสนอในบันทึกนี้เป็นประเด็นคิดต่อ ...
"สารานุกรม คือ ระบบการจัดเก็บฝุ่น ตามลำดับตัวอักษร"
มาร์ค บาร์ฟิลด์
ดูเหมือนว่าหนังสือจะมีอายุงานนานกว่าสื่อประเภทอื่น ๆ
แต่ถึงอย่างนั้น "สาร" ที่อยู่ในหนังสือมันก็ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า ถึงวันหนึ่งก็ย่อมสูญหายไปพร้อมกับการย่อยสลายของหน้ากระดาษ ไมเคิล ฮาร์ท เข้าใจความจริงข้อนี้ดี เขาเลยทำโครงการที่ชื่อว่า "กูเตนเบิร์ก" ขึ้นมาในปี 2514 เพื่อนำเอาหนังสือที่ไม่มีลิขสิทธิ์แล้วหรือหนังสือที่เจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตมาจัดพิมพ์เก็บไว้ในรูปแบบของไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ และจัดทำเป็นห้องสมุดดิจิทัลแห่งแรกของโลก พอเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ต กูเตนเบิร์กก็ปรับระบบให้กลายเป็นห้องสมุดออนไลน์ที่ใคร ๆ ก็คลิกเข้าไปใช้บริการได้
ไฟล์หนังสือ 100 เล่มแรกของกูเตนเบิร์กถูกพิมพ์ขึ้นด้วยปลายนิ้วของไมเคิล แต่ตอนนี้หนังสือส่วนใหญ่ถูกส่งเข้าเครื่องสแกนเพื่อแปลงออกมาเป็นไฟล์ตัวหนังสือ ยกเว้นหนังสือเล่มที่เก่าและบอบบางมาก ๆ นั้นยังคงใช้แรงงานคนพิมพ์เหมือนเดิม ในช่วงต้นปี 2547 กูเตนเบิร์กมีหนังสือในคลังทั้งหมด 11,000 เล่ม โดยมีหนังสือเก่าเข้ามาเพิ่มใหม่เดือนละ 350 เล่ม ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษแต่ก็ยังมีภาษาอื่น ๆ อีก 24 ภาษา เป้าหมายของไมเคิลก็คือ เพิ่มจำนวนหนังสือให้ถึง 100 ภาษา และ 1,000,000 เล่มในปี 2558
ถ้าอยากอ่าน ก็คลิกเข้าไปโหลดไฟล์มาอ่านได้ฟรี ๆ จากเว็บไซต์ หรือจะเอาไฟล์มาแปลงให้เป็นเสียงหรืออักษรเบรลล์ก็ยังได้
แต่ถ้าใครอยากช่วย กูเตนเบิร์กก็ต้องการอาสาสมัครนักพิสูจน์อักษร วิธีการก็แสนจะง่ายแค่คลิกเลือกหนังสือเล่มที่อยากช่วย พอคลิกเข้าไปจะปรากฎภาพขึ้นมา 2 หน้า คือ ไฟล์ภาพที่แสกนจากหนังสือต้นฉบับ กับไฟล์ทื่ถูกแปลงมาเป็นตัวอักษรแล้ว หน้าที่เราก็คือ ดูว่าไฟล์ตัวอักษรนั้นมันคลาดเคลื่อนจากต้นฉบับตรงไหนบ้าง ข้อความประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์นั้นมันถูกต้องแล้ว จะมีผิดบ้างก็หน้าละประมาณ 10 จุด ทำเสร็จก็เซฟเก็บไว้ อยากทำวันละกี่หน้าก็ไม่ว่ากัน ถ้าใครไม่มั่นใจในสายตาตัวเองก็ไม่ต้องกลัว เพราะหลังจากที่เราปรู๊ฟรอบแรกไปแล้วมันจะถูกปรู๊ฟซ้ำสองด้วยพนักงานพิสูจน์อักษรมืออาชีพอีกที แล้วค่อยอัพโหลดเข้าเว็บไซต์เผยแพร่ให้ได้อ่านกัน ถ้าใครอ่านแล้วเจอที่ผิดก็แจ้งกับทางเว็บไซต์ได้ เขาจะรีบแก้ไขให้
นอกจากความพยายามในการเก็บรักษาประวัติศาสตร์แล้ว อีกสิ่งที่น่าชื่นชมของกูเตนเบิร์กก็คือ การเปลี่ยนมุมมองของคนที่มีต่อหนังสือเก่า จากเดิมที่มีค่าเพียงของสะสม
หมายเหตุ
ซ้อมสายตานักพิสูจน์อักษรกันสักนิด แล้วค่อยไปลุยของจริงที่ www.gutenberg.net
................................................................................................................
กระดาษย่อมมีวันเสื่อมสลายหายไปจากโลก ดังนั้น การแปลงร่างให้เป็นดิจิทัลจะทำให้มนุษย์สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานเท่านาน จนกว่า server จะล่มสลายไปเอง
บันทึกนี้สร้างมุมมองใหม่ให้กับคนที่เดินตามโลกยุคอินเทอร์เน็ต
จงนำไปใช้ให้มีประโยชน์ต่อตน
ขอบคุณครับ ;)
................................................................................................................
แหล่งอ้างอิง
ทรงกลด บางยี่ขัน. ต้นไม้ใต้โลก. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: อะบุ๊ก, 2550.
ชื่อคุ้นๆ นะคะกูเตนเบิร์ก คล้ายๆชื่อเมืองเยอรมันเลยค่ะ ...
ชอบๆ หลายๆ ประโยคค่ะ ... จนกว่า server จะล่มสลายไปเอง .. :)
และประโยคสุดท้าย หนุ่มๆคงต้องบอกสาวเจ้าว่า ... ฉันจะมีค่าอย่างไร หากไม่มีเธอ .. เฮอๆ (ห้ามขำ ห้ามอมยิ้ม)
v-v ... v-v
ไม่ได้ยิ้มจะ ๆ ครับ แต่แอบยิ้มอยู่ครับ
ผมสันนิษฐานว่า มาจากชื่อของ "โจสัน กูเตนเบิร์ก" บิดาแห่งการพิมพ์สมัยใหม่ที่เป็นชาวเยอรมันครับ คุณ poo ;)
เขาคิดกระบวนการพิมพ์สมัยใหม่ในศตวรรษที่ 15 ครับ
ขอบคุณคร้าบ