1. km : knowledge
management = การจัดการความรู้
2. Tacit knowledge =
ความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคน เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์
พรสวรรค์หรือสัญชาติญาณของแต่ละบุคคลในการทำความเข้าใจในสิ่งต่าง
ๆ
เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดหรือลายลักษณ์อักษรได้โดยง่าย
เช่นทักษะในการทำงาน งานฝีมือ หรือการคิดเชิงวิเคราะห์
3. Explicit
knowledge = ความรู้ที่ชัดแจ้ง
เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้ โดยผ่านกระบวนการต่าง ๆ
วิธีการต่าง ๆ เช่น การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ทฤษฏี คู่มือต่าง ๆ
เป็นความรู้แบบรูปธรรม
4. knowledge sharing =
การแบ่งปันความรู้
5. AAR : After Action
Review = การถอดบทเรียนจาการทำงาน
หรือประสบการณ์
การจัดการความรู้ในองค์กร คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กร ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสารมาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด
เป็นการบริหารจัดการเพื่อนำความรู้จากแหล่งความรู้ไปให้ผู้ใช้ เพื่อทำให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานและเกิดนวัตกรรม
หัวใจของ KM คือ การแลกเปลี่ยนความรู้จากการปฏิบัติ (Knowledge Sharing) โดยมีพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยน (Sharing Space) ทั้งที่เป็นพื้นที่จริงและพื้นที่เสมือน Weblog หรือ Blog เป็นเครื่องมืออีกชนิดหนึ่งที่ใช้เพื่อการแลกเปลี่ยนบนพื้นที่เสมือน
Weblog คือ หน้าเว็บที่มีการ update บ่อยๆ
และเรียงโครงสร้างตามลำดับเวลา อันใหม่อยู่บนสุด โดยมักมี link
ไปยังเว็บอื่นๆ และมีการแสดงข้อคิดเห็นส่วนตัว ส่วน Blog นั้น
เป็นคำย่อของ Weblog มักใช้เรียก Weblog ชนิดที่เป็นส่วนตัว
ความแตกต่างระหว่าง Weblog กับ Web Page คือ Blog มีเนื้อหาใหม่อยู่เรื่อยๆ เราสามารถดูแล Blog ให้ใหม่ทันสมัยได้ง่ายกว่า และไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรพิเศษเลย แต่Web Page เนื้อหาจะคงที่ updateยาก ไม่ทันเหตุการณ์ ในส่วนของ Weblog กับ Web Board นั้น Web Board ควบคุมเนื้อหาได้ยาก ทุกคนเขียนได้หมด เพราะไม่มีเจ้าของชัดเจน ส่วน Blog นั้นมีเจ้าของชัดเจน เจ้าของสามารถจัดการเรื่อง Comment ได้ จะห้าม comment หรือ ลบ comment ก็ได้ Weblog นั้น คงไม่สามารถมาแทนที่ Web Board ได้ แต่จะอยู่ร่วมกันไป เรื่องใดที่ต้องการควบคุมเนื้อหาได้ก็ใช้ Weblog ส่วนเรื่องใดที่ต้องการให้มีการแสดงความคิดเห็นเยอะๆ ก็ใช้ Web Board
การใช้ Weblog กับ KM นั้น
เป็นการจัดการความรู้ส่วนตัว (personal KM)
เพื่อเก็บรายละเอียดประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิต เหมือนเป็น diary
โดยเล่าเรื่องเพื่อถ่ายทอดความรู้ไปยังผู้อ่าน นอกจากนั้น
ยังใช้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้กัน
ขอบคุณค่ะเข้าใจแล้วสงสัยตอนเข้าทำกลุ่มหลับในแน่เลย