แผล....ปะทุ


เลยถามแกว่ามีแผลแล้วยังออกไปสวนอยู่อีกหรือเปล่า แกบอกว่าไปบ้างเพราะมันก็ยังเดินได้ปกติไม่เจ็บไม่ปวด ซึ่งก็น่าเห็นใจนะคะเพราะมันเป็นอาชีพที่เขาต้องหาเลี้ยงปากท้องของตน ไม่ทำก็ไม่มีรายได้มาดูแลโรคตัวเองแกบอกอย่างนั้น

วันนี้จะพามาทัวร์แผล...เบาหวานที่เท้ากันอีก รายนี้เป็น DM มานานกว่า 15 ปี control BS ด้วยยาฉีดแบบผสมน้ำขุ่นวันละ 2 ครั้ง HbA1c เมื่อตุลา' 48 = 9.7 เป็นหญิงวัยกลางคนอายุ 54 ปี ชื่อ คุณ รัตนามีอาชีพต้องออกไปทำสวนทุกวัน มีภาวะแทรกซ้อนที่เท้าให้เห็นหลายอย่างคือ ผิวแห้ง เท้าชาแบบไร้ความรู้สึกใดๆ หนังหนาที่บริเวณฝ่าเท้าและตำแหน่งใต้นิ้วที่งอ(claw toe) claw toeที่เท้าขวา>ซ้าย ร่วมกับมีเท้าผิดรูป ( charcot foot )ทั้ง 2 ข้างเท้าซ้าย>ขวา มีเล็บขบที่บริเวณนิ้วหัวแม่เท้า ที่สำคัญของปัญหาครั้งนี้คือมีแผลที่นิ้วเท้าข้างขวาทั้ง4 นิ้วที่โก่งขึ้นมาเกิดไปเสียดสีกับรองเท้า sim sandle ที่ตัดจากเราไปนานดังรูป

รูปที่ 1: มีเท้าผิดรูป นิ้วเท้าจิก

งอมากกว่าข้างขวา

รูปที่ 2: มีรอยแผลถลอก

ด้านนิ้วก้อย

รูปที่ 3: เป็นแผลมา 10 วัน

สภาพรองเท้าก็เป็นแบบที่ดอกยางใต้พื้นเท้าเสื่อมแล้วเวลาเดินอาจจะทำให้ลื่น ต้องจิกนิ้วเท้ามากขึ้นเพราะแกเดินกับพื้นดินในสวนซึ่งจะเพิ่มความลื่นมากขึ้น คุณ รัตนาบอกว่าเกิดจากขอบด้านข้างของสายคาดไปเสียดสี

2วันแรกพุพองเป็นถุงน้ำทำแผลเองไม่ดีขึ้นจึงไปหาที่คลีนิค เขานัดทำแผลทุกวัน วันละครั้งจนบริเวณพุพองมันแตกออก แผลกยิ่งดูแย่ลงมีรอยดำๆและบวมแดงมากขึ้น เลยถามแกว่ามีแผลแล้วยังออกไปสวนอยู่อีกหรือเปล่า แกบอกว่าไปบ้างเพราะมันก็ยังเดินได้ปกติไม่เจ็บไม่ปวด ซึ่งก็น่าเห็นใจนะคะเพราะมันเป็นอาชีพที่เขาต้องหาเลี้ยงปากท้องของตน ไม่ทำก็ไม่มีรายได้มาดูแลโรคตัวเองแกบอกอย่างนั้น เลยให้แกลองแสดงวิธีสวมรองเท้า แกคาดสายvelco ที่บริเวณใกล้ข้อเท้าหลวมๆ ส่วนสายvelcoที่ใกล้นิ้วเท้า lock กระชับจึงแสดงให้แกดูว่า ถ้าสวมแบบนี้จะทำให้รองเท้าเคลื่อนไปมาไม่ติดเท้า และขอบจะเสียดสีกระแทกกับนิ้วที่โก่งตลอดเวลา ยิ่งถ้าเดินมากก็ระบมเนื้อมากขึ้นตาม ทำให้เราต้องมาพบกันในสภาพแบบนี้ ถามต่อเรื่องยาที่ได้กิน แกบอกว่าให้กิน cloxacillin 500 mg กิน 1x2 ac รายนี้เราดูแลกันเป็นทีมค่ะ อจ.ฉัตรทิพย์ดูแลเรื่องBS ยังสูงช่วงนี้ก่อนและขอรับไว้admit เพื่อจะได้ให้ อจ. สุพจน์ ช่วยดูแลแผลอย่างใกล้ชิดจะไดดีขึ้น อจ.ฉัตทิพย์ยังแนะนำให้ว่าควรสวมถุงเท้าเพื่อลดการเสียดสีแต่คุณ รัตนาบอกใส่แล้วมันอึดอัดเท้าแล้วอจ.ก็เปิดให้คุณ รัตนาดูว่าหมอก็สวมถุงเท้าเหมือนกัน ก่อนที่จะเปิดโอกาสให้อจ. สุพจน์นั่งdebride แผลสบายๆโดยไม่ฉีดยาชาให้คนไข้และญาตินั่งดูกันหน้าตาเฉย ในส่วนของรองเท้า อจ.สมเกียรติแนะนำว่าอาจจะต้องมาดูและแก้ไขกันเมื่อแผลดีขึ้น ก่อนจะส่งตัวขึ้นไปนอนพักบนตึก

ให้เห็นตำแหน่งเสียดสี
ใช้มา 2 ปีไม่มีดอกยางเหลือ
แผลหลังdebridement

จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าไม่ว่าจะให้คำแนะนำใดๆแก่ผู้เป็นเบา หวานจะต้องมีการติดตามเสมอว่าได้รองเท้า้ไปแล้วใช้ได้่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องก็ก่อปัญหาได้

ยุุวดี มหาชัยราชัน

หมายเลขบันทึก: 28738เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2006 11:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อยากสอบถามค่ะว่า คุณพ่อเป็นโรคเบาหวานแต่คุณพ่อเป็นแผลที่ลำตัว และท้องแขน เนื่องจากว่าโดนบีบแขนและโดนบิดอย่างแรง (ง่ายๆคือเหมือนทะเลาะกับเพื่อนอะไรประมาณนี้) แต่แผลของคุณพ่อเราดูเหมือนมันน่าจะอักเสบมาก เพราะเป็นรอยช้ำสีแดง เป็นทางยาวและเหมือนจะมีหนองด้วยค่ะ อยากจะทราบอาการรักษาว่า ต้องหายาอะไรมาทาหรือเปล่า หรือต้องทำยังไงค่ะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท