นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๒ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ ๒ เรื่อง คือ
เห็นชอบให้การส่งเสริมการอ่านเป็นวาระแห่งชาติเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยกำหนดให้วันที่ ๒ เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นวันรักการอ่าน
แต่งตั้งนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน (นักวิชาการศึกษา ๑๐ ชช.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
รมว.ศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ศธ.เสนอให้การส่งเสริมการอ่านเป็นวาระแห่งชาติเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ดังนี้
๑. กำหนดให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ
๒. กำหนดให้วันที่ ๒ เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นวันรักการอ่าน
๓. กำหนดให้ปี ๒๕๕๒-๒๕๖๑ เป็นทศวรรษแห่งการอ่านของประเทศ
๔. กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่มี รมว.ศธ.เป็นประธาน เป็นกลไกขับเคลื่อนการส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
โดยได้กำหนดเป้าหมายในการดำเนินการ เพื่อให้คนไทยได้พัฒนาความสามารถในการอ่านและการรู้หนังสือ ภายในปีพ.ศ.๒๕๕๕ ดังนี้ ๑) ประชากรวัยแรงงานที่เป็นผู้รู้หนังสือในระดับใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๙๗.๒๑ เป็นร้อยละ ๙๙ ๒) ประชากรไทยอายุ ๑๕ ปีขึ้นไปที่สามารถอ่านออกเขียนได้มีเพิ่มขึ้น จากร้อยละ ๙๒.๖๔ เป็นร้อยละ ๙๕ ๓) ค่าเฉลี่ยในการอ่านหนังสือของคนไทย เพิ่มขึ้นจากปีละ ๕ เล่ม เป็นปีละ ๑๐ เล่มต่อคน ๔) แหล่งการอ่านได้รับการพัฒนาและเพิ่มจำนวนให้สามารถจัดบริการได้ครอบคลุมทุกตำบล/ชุมชน อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ ๕) การสร้างภาคีเครือข่ายการอ่านเพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน
รมว.ศธ. ได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์ ๓ ด้านหลักในการผลักดันให้การส่งเสริมเป็นวาระแห่งชาติเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ได้แก่ ๑) การพัฒนาคนไทยให้มีความสามารถในด้านการอ่าน โดยรณรงค์การอ่านเขียนภาษาไทย ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย รวมทั้งบริหารจัดการและสร้างภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาความสามารถในด้านการอ่านของคนไทย ๒) พัฒนาคนไทยให้มีนิสัยรักการอ่าน โดยปลูกฝังและสร้างทัศนคติคนไทยให้เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการอ่านหนังสือและสื่อทุกรูปแบบ ส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการเป็นภาคีเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน และกำหนดมาตรการจูงใจให้ภาคีเครือข่ายร่วมส่งเสริมการอ่านในสังคมไทย ๓) สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในการส่งเสริมการอ่าน โดยแสวงหาภาคีเครือข่ายในการเสริมสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อม พัฒนาและเพิ่มจำนวนแหล่งการเรียนรู้ให้สามารถจัดบริการได้ครอบคลุมทุกตำบล/ชุมชน อย่างทั่วถึง ทันสมัย และมีคุณภาพ เพื่อทำให้การอ่านเป็นที่สนใจมากขึ้น
ทั้งนี้ รมว.ศธ.จะหารือกับคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อกำหนดกิจกรรมต่างๆ ให้ปรากฏเป็นรูปธรรม โดยอาจมีการเพิ่มเติมองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาเป็นคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านฯ เพิ่มขึ้น เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมต่อไป
อ้างอิงจาก http://www.moe.go.th/websm/2009/aug/282.html
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับครูคิม
ครูคิม สบายดีนะครับ
ขอบคุณครับที่มาทักทาย
สวัสดีค่ะ ท่านรองฯ
* ข้อมูลรวดเร็วดีนะคะ
* สพท.ที่นี่ก็เร็วปานจรวด นัดหมายมาประเมินโรงเรียนที่ได้เป็นตัวแทนกลุ่มฯ เพื่อคัดเลือกโรงเรียนดีเด่นด้านการส่งเสริมการอ่าน ที่บูรณาการทั้ง ๘ กลุ่มสาระฯ ในระดับอำเภอ และหากชนะเลิศในระดับจังหวัด จะไปรับ โล่รางวัล จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการฯ เนื่องในโอกาส " สัปดาห์ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน" กระทรวงศึกษาธิการ ปี ๒๕๕๒ ( ๑๔-๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๒) ในวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๒ ณ ห้อง บางกอกคอนแวนชั่นฮอลล์ โรงแรมเซ็นทรัลลาดพร้าว กทม.
* โรงเรียนที่นี่เตรียมพร้อมเพื่อรับการประเมินในวันนี้ (แจ้งเรื่องวันที่ ๖ สิงหาคม) ...แต่คณะกรรมการฯ ขอเลื่อนไปประเมินฯวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๒ ( โถ....ปล่อยให้รอเก้อตั้งเกือบค่อนวันแน่ะ....)
สวัสดีครับ K.Pually
ครับการศึกษารวดเร็ว.....มาก ๆ
รับการประเมินในวันนี้ (แจ้งเรื่องวันที่ ๖ สิงหาคม)
น่าชื่นชมคนเตรียมการและผู้รับการประเมินนะครับ
ผมว่าโรงเรียนทุกโรงทำเรื่องนี้มานานมากแล้วครับ
เป็นการขับเคลื่นที่ถูกจุดมาก ๆ ครับ