ชวนขี่จักรยานเพื่อสุขภาพเที่ยวปราสาทหินพนมวัน


             

 

               "ปราสาทหินพนมวันอยู่ไหนครับแม่" น้องโบวี่ถาม

              ที่รู้ ๆ คือ ป้ายจราจรบอกไว้แถว ๆ บ้าน ว่าอีกไม่กี่กิโลเมตร  วันนี้จึงได้พาน้องแวะไปเที่ยวปราสาทหินพนมวันก่อน เพื่อเตรียมความพร้อม  เทศบาลโคกสูงจะจัดกิจกรรมขี่จักรยานเพื่อสุขภาพจาก ต.โคกสูง อ.เมือง ไปยังปราสาทหินพนมวัน ในวันอาทิตย์ที่ 9 ส.ค นี้ค่ะ   ในระหว่างทางแวะชมการบรรยายเรื่องพระพุทธรูป อายุเกือบ ร้อยปี และดูการเลี้ยงกบคอนโด ของชาวบ้านหนองไข่น้ำ ที่ขึ้นชื่อ

            ที่มา"กบคอนโด" นายฉอ้อน เผนโคกสูง อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 ม.8 บ.กระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ผุดอาชีพใหม่สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นกอบเป็นกำ จากการเลี้ยงกบนาพันธุ์พื้นบ้าน แต่วิธีการเลี้ยงไม่เหมือนใคร โดยใช้ยางรถยนต์มาทำที่เลี้ยงกบ ด้วยวิธีนำยางรถยนต์มาซ้อนกันประมาณ 4-5 ชั้น แล้วน้ำลูกกบลงไปเลี้ยงในล้อรถยนต์พร้อมกับใส่น้ำไว้ในล้อรถยนต์เพื่อให้ความเย็นกับกบ ซึ่งกบจะแยกย้ายกันอยู่เป็นชั้นๆ ไม่มีการรบกวนกัน หรือที่นายฉอ้อนฯเรียกวิธีการเลี้ยงนี้ว่า " กบคอนโด" เพราะว่ามีหลายชั้นเหมือนกับอยู่ในคอนมิเนียม

           นายฉอ้อน บอกว่า ตนคิดค้นวิธีเลี้ยงกบคอนโดด้วยตัวเอง มาตั้งแต่ปี 2527 ประมาณ 20 กว่าปีมาแล้วที่ตนเลี้ยงกบคอนโด จะว่าเป็นคนแรกของประเทศไทยที่เลี้ยงกบด้วยวิธีนี้ก็ว่าได้และก็ประสบผลสำเร็จอีกด้วย โดยการเลี้ยงกบที่เกษตรกรเลี้ยงทั่วไปนั้นจะใช้บ่อซีเมนต์ ซึ่งกบจะไม่โตและแข็งแรงเท่าการเลี้ยงแบบคอนโด เพราะในบ่อซีเมนต์ กบจะมีพื้นที่ในการกระโดดมาก และก็จะกระโดดไปกัดกันตลอดเวลา ทำให้กบอ่อนแอ บางตัวก็ตาย แต่การเลี้ยงแบบคอนโดในยางรถยนต์นั้นกบจะมีพื้นที่ในการกระโดดน้อย บางตัวก็จะแยกย้ายกันอยู่ตามชั้นของยางรถยนต์โดยไม่รบกวนกัน อยู่ใครอยู่มัน ทำให้กบแข็งแรงและมีขนาดใหญ่ ส่วนการให้อาหารก็ใช้อาหารอัดเม็ดของปลาดุก โยนลงไปในล้อรถยนต์มันก็จะพากันกิน แถมการเลี้ยงแบบคอนโดยังประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่าย  

รวมทั้งประหยัดพื้นในการเลี้ยง สะดวกกว่าอีกด้วย ก็อยากให้ประชาชนเกษตรกรมาเลี้ยงด้วยวิธีนี้กันดูรับรองสามารถสร้างรายได้ให้อย่างงามแน่ ซึ่งตนเพาะเลี้ยงไว้ประมาณ 20-30 คอนโดเท่านั้น ส่วนจำนวนก็แล้วแต่ขนาดยางรถยนต์ ถ้าล้อรถ 10 ล้อ ก็เลี้ยงล้อละ 100 ตัว 3 ชั้นก็เป็น 300 ตัว ถ้าล้อรถยนต์ปิ๊กอัพ ก็ล้อละ 50 ตัว 3 ชั้น รวม 150 ตัว ขายส่งกิโลกรัมละ 90 บาท ส่วนระยะเวลาการเลี้ยงเพียง 3 เดือนก็ขายได้แล้ว

นอกจากนี้เวลาหน้าแล้งก็ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ เพราะเลี้ยงในคอนโดจะใช้น้ำไม่มากเหมือนเลี้ยงในบ่อซีเมนต์อีกด้วย หากใครสนใจก็มาซื้อลูกกบที่ตนก็มีขายให้ ตัวละ 5 บาท ทั้งนี้สายพันธุ์กบนา พื้นบ้านของตนจะมีราคาแพงกว่ากบที่เลี้ยงอยู่ทั่วไป โดยที่อื่นขายตัวละ 1 บาทเท่านั้น ที่แพงกว่าเพราะว่ากบของตนจะเป็นสายพันธุ์กบที่มีความแข็งแรง เลี้ยงง่าย ตัวโต ได้ราคาดี ใครสนใจสามารถติดต่อได้โดยตรงที่เบอร์ 06-2611997 และ 01-9551431

 น่าชมเชียวค่ะ    เรามาดูปราสาทหินพนมวันกันนะค่ะ สักหน่อยพอเรียกน้ำย่อย

            ปราสาทหินพนมวัน อยู่ในอำเภอเมือง เป็นโบราณสถานสมัยขอม สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อเป็นเทวสถาน ต่อมาได้ดัดแปลงเป็นพุทธสถาน ลักษณะเป็นปรางค์มีฉนวน ( ทางเดิน ) ติดต่อกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีซุ้มประตู 3 ด้าน ซุ้มประตูด้านทิศเหนือ ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย ศิลปะอยุธยา รอบปราสาทเป็นลานกว้างมีระเบียบคดก่อด้วยหินกว้าง 54 เมตร ยาว 63.30 เมตร ประกอบด้วยประตูทางเข้า 4 ทิศ เป็นโบราณสถานที่น่าชม

       

       ที่นี่มีตำนานการสร้างด้วยนะค่ะ เป็นปราสาทที่สร้างไม่เสร็จ ยายเคยเล่าให้ฟัง

 "....เมื่อกาลครั้งหนึ่ง ที่ผู้ชายกับผู้หญิงเริ่มมีความบาดหมาง ไม่เข้าใจและทะเลาะกันบ่อยครั้ง ความรักเริ่มห่างหาย เพราะเหตุด้วยผู้ชายชอบวางอำนาจ ทำตัวเป็นเจ้านาย ถือว่าตัวมีร่างกายกำยำและกำลังที่แข็งแรงกว่า

        เหล่าผู้หญิงเลยมารวมตัวปรึกษากัน ครั้นจะลงโทษไม่ให้ฝ่ายชายเข้าบ้าน ไม่ให้ร่วมหลับนอนด้วยก็กลัวว่าจะถูกใช้กำลังบังคับ ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มี พ.ร.บ.ข่มขืนกระทำชำเราภรรยาของตัวเองโดยไม่ยินยอม ก็อาจจะพลาดท่าเสียทีได้

.

      ครั้นจะไม่ยอมทำอาหารให้ ผู้ชายก็คงหากินได้เอง  ไอ้ที่เดือดร้อนก็เห็นจะเป็นลูกเด็กเล็กแดงที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ จะพาลเดือดร้อนไปด้วย

.

      เมื่ออดรนทนไม่ไหว จึงประกาศขอประลองกำลัง ท้าทายฝ่ายชายด้วยการแข่งขันสร้าง "ปราสาทหิน"

.

       ฝ่ายชายก็รับคำท้า โดยสัญญาถ้าหากฝ่ายชายของตนพ่ายแพ้ ก็จะยอมเป็นเบี้ยล่างให้เหมือนวัวควาย แต่ถ้าหากฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายแพ้ ก็จะต้องเป็นนางทาสประจำบ้านไปตลอดกาล (ซึ่งปกติก็คล้าย ๆ อยู่แล้ว)

.

       ทั้งสองฝ่ายตกลงว่า ถ้าฝ่ายใดสร้างปราสาทหินเสร็จก่อน ก็จะต้องส่งสัญญาณโดยปล่อยโคมโลมขึ้นสู่ท้องฟ้าให้อีกฝ่ายเห็น

.

       ฝ่ายหญิงก็รู้ตัวดีว่า ศึกประลองกับชายครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก จึงขอไปสร้างปราสาทในที่ไกลบ้าน โดยอ้างว่า ถ้าผู้ชายอยู่ใกล้จะทำให้เสียเปรียบ เพราะจะได้ยินคำนินทาว่าร้าย ถากถางว่าร้าย พาลทำให้เสียกำลังใจ !!! 

.

        ฝ่ายชายก็ตกลงเป็นมั่นเหมาะ เพราะก็คงอยากจะรีบแข่งขันให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว จะได้มีข้าทาสคนใหม่มาใช้ให้หนำใจ

.

        ฝ่ายหญิงจึงรวมตัวกันทั้งหมู่บ้านเดินทางไปยังเมืองพิมาย แล้วก็เริ่มสร้างปราสาทหินพิมายขึ้นอย่างใหญ่โต

.

        ฝ่ายชายที่อยู่ในหมู่บ้านก็เร่งสร้างปราสาทหินพนมวันที่มีขนาดเล็ก เพราะไม่รู้จะสร้างใหญ่ไปทำไม ไม่ได้ตกลงเรื่องขนาดก็เอาไว้นี่หว่า เพียงยกแรกฝ่ายชายก็เป็นต่อหลายขุม เพราะผู้หญิงทำอะไรคิดมาก ชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่ประมาณตัว ไม่ชอบวางแผน ปราสาทหินเลยออกมาใหญ่โต

.

        ฝ่ายหญิงก็ละเมียดละไมในการแกะสลัก ฝ่ายชายก็สร้างไปถมไป ก่อไปจนยอดก่อนแล้วกะว่าจะกลับมาแกะ

จนปราสาทหินพนมวันของฝ่ายชายสร้างขึ้นไปถึงยอดและแกะสลักบัวกลุ่มยอดปราสาทให้สวยงามเป็นอันดับแรก เพื่อประกาศศักดาข่มขวัญ ซึ่งก็ได้ผล ฝ่ายหญิงเห็นยอดปราสาทก่อขึ้นมาก็ให้ตกใจ เสียขวัญกันใหญ่ ก็ผู้ชายเขาร่วมมือร่วมใจกัน งานนี้ฝ่ายหญิงเราเสร็จแน่ ๆ

.

       แต่ในหมู่ของสตรีก็มีสติปัญญาเป็นอาวุธที่สำคัญ พวกเธอจึงปรึกษากันว่า เราพลาดมากันแล้วที่ก่อปราสาทใหญ่จนเกินไป ฝ่ายชายอีกไม่กี่วันก็คงจะสร้างเสร็จ จึงคิดออกอุบาย สร้างโครงไม้ขึ้นเป็นยอดปราสาท ห่อหุ้มด้วยผ้าขาว ทำให้ปราสาทหินพิมายมีสีขาวเด่น มองเห็นได้มาแต่ไกล แล้วจึงให้ปล่อยโคมลอยขึ้นท้องฟ้าในค่ำคืนนั้น รวมทั้งจัดงานเฉลิมฉลอง เต้นรำส่งเสียงกันเป็นที่สนุกสนานเพื่อให้ดูสมจริงสมจัง

     ฝ่ายชายเห็นโคมลอย ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงส่งหนุ่มน้อยหน้ามนตร์มาเป็นสปาย แอบไปดูว่าฝ่ายหญิงว่าสร้างปราสาทเสร็จจริงแล้วหรือ ชายหนุ่มก็แอบล่องเรือขึ้นมา แล้วจึงถือโอกาสแวะมาหาคนรักที่ต้องแยกกัน เพราะต่างต้องมาช่วยฝ่ายของตัวเองในการแข่งขัน !!!

.

        หนุ่มมาเจอสาวเป็นยาม จึงเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงด้วยความคิดถึง หันไปเห็นปราสาทขาวแต่ไกล  ก็ยังไม่เชื่อสนิทใจ แต่สาวเจ้าผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ  ก็ได้โปรยพิศวาสและโอ้โลมรักให้หนุ่มคนรัก เพื่อให้เชื่อสนิทใจว่า ปราสาทของฝ่ายหญิงสร้างเสร็จแล้วจริง ๆ

. 

        เมื่อความรักมันยิ่งใหญ่กว่าการแข่งขัน หนุ่มน้อยจึงเดินทางกลับมายังหมู่บ้านแล้วแจ้งข่าวกับหัวหน้าฝ่ายชายว่า ปราสาทฝ่ายหญิงสร้างเสร็จแล้วตามที่ให้สัญญาณโคมลอยมาทุกประการ

.

        หัวหน้าฝ่ายชายและทีมงานช่างผู้เข้มแข็ง ก็ให้รันทด มือไม้อ่อนแรงลงเพราะพ่ายแพ้ต่ออิสตรี  จึงหันไปหาไหเหล้า"อุสาโท"มาดื่มเพื่อย้อมใจ ไหน ๆ ก็จะกลายเป็นขี้ข้าภรรยาตัวเองตามที่ลั่นสัจจะวาจาไว้ ศักดิ์ศรีและความทรนงแห่งความเป็นชายหายไปจนสิ้นแล้ว ฮือ ๆ

.

        บางคนก็ยังคงแกะสลักต่อ แต่ผู้ชายส่วนใหญ่ก็หยุดสร้างและไม่อยากจะแกะสลักต่อไปอีกแล้ว บางคนก็เลยประชดด้วยการไปรื้อหินส่วนที่สร้างขึ้นไปแล้วลงมา ไหน ๆ ก็แพ้แล้วนี่หว่า

     หนุ่มน้อยก็พาเพื่อนหนุ่มทั้งหลายไปที่เมืองพิมาย เพื่อแจ้งข่าวการยอมแพ้ แต่เมื่อไปถึง ก็พบว่าฝ่ายหญิงก็ยังสร้างปราสาทไม่เสร็จ ในทีแรกก็คิดจะโกรธ แต่จะโกรธไปทำไม ในเมื่อคนที่เขา"รัก"ต่างก็ต้องมาตกระกำลำบาก ใช้แรงงานเพื่อสร้างปราสาทขนาดใหญ่ แข่งขันประลองเพียงเพื่อต้องการให้ชายรู้สำนึกว่า ควรจะให้เกียรติ ดูแลทะนุถนอม เอาใจใส่พวกเธอบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายไม่อยากจะทำ แต่ก็คงหลงลืมไปบ้าง หลังจากได้อยู่กินเป็นผัวเมียจนเคยตัว 

 

 

 

 

                  

          

.

        ชายหนุ่มทั้งหลาย ก็เลยตัดสินใจลงมือช่วยฝ่ายหญิงให้สร้างปราสาทหินพิมายจนสำเร็จสะเด็ดน้ำ กลายเป็นปราสาทที่มีลวดลายแกะสลักที่งดงาม เป็นดั่งอนุสรณ์สถานแห่งความรักและความเข้าใจที่กลับคืนมาของหญิงและชาย

   ในขณะที่ปราสาทหินพนมวัน ไร้ร้างและไม่สมบูรณ์ ดั่งอดีตของความขัดแย้งเพราะไม่เข้าใจกัน ซึ่งจะไม่มีทางสมบูรณ์เลย หากทั้งสองฝ่ายไม่ยอมหันหน้าเข้าหากัน ยอมได้ก็ควรยอม

.

        ผู้ชายบ้านพนมวันจึงยอมรับ ไม่โกรธเคืองอุบายของฝ่ายหญิง ที่ทำไปเพราะอยากจะสอนให้พวกเขาเป็นชายสมชาย และที่สำคัญ ความคิดถึงเมื่อยามต้องห่างไกลกันของทั้งสองฝ่าย ก็ได้ละลายความบาดหมางที่มีอยู่มลายหายไปจนสิ้น

.

        เพราะเหตุหญิงชายต่างได้หยุดสร้างความไม่เข้าใจกันลงได้ ปราสาทหินพนมวันจึงหยุดสร้างและไม่เคยสร้างต่อ นับแต่วันที่ "ความรัก" ได้กลับคืนมา.....สู่บ้านพนมวันในครั้งนั้น....!!! ” 

      

         

          งานนี้เหนื่อยน่าดูไกลโขทีเดียว  ขอเชิญร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ แถมได้ความรู้ด้วยนะค่ะ รับรองเลี้ยงกบรวยแน่เลยเชียวค่ะ

                                                 

------ ขอบพระคุณเนื้อหาและรูปภาพจาก http://www.oknation.net และ http://www.nicaonline.com

หมายเลขบันทึก: 283195เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2009 22:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

น้องโบวี่ ต้องเป็นเด็กเฉลียวฉลาดใฝ่เรียนใฝ่รู้ โตขึ้นต้องเป็นเด็กดี มีอนาคต ชื่นชมคุณแม่ ปราสาทนี้ยังไม่เคยไป มีโอกาสจะไปเที่ยวชม  ขอบพระคุณ ม่อนเอาความเป็นมงคลจาก 9 วัดมหามงคลมาฝากครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

- ขอบพระคุณค่ะ เป็นเด็กทำไมต้องถามด้วยนะ ถามบ่อย ๆ ก็ตอบไม่ได้ครับอาจารย์

- เชิญมาเที่ยวโคราชบ้านเอง ด้วยจ้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท