สวัสดีค่ะ
เป็นคนนึงที่ชอบการท่องเที่ยวทั่วไทยและอาจเลยเถิดออกไปประเทศเพื่อนบ้านบ้างเมื่อมีโอกาสค่ะ ^__^
วันนี้ขอเล่าเรื่องประทับใจช่วงไปเที่ยวปายดีกว่า
ช่วงต้นเดือนธันวาคม 51 เป็นช่วงวันหยุดยาวนั้น โปรแกรมที่ซื้อกันไว้ว่าจะไปดูหิมะที่เกาหลีใต้ถูกเลื่อนไปแบบฉุกเฉินค่ะ (พอจะจำกันได้ป่าวคะว่าเกิดอะไรขึ้นกับสนามบินสุวรรณภูมิช่วงนั้น)
ด้วยความที่เตรียมพร้อมแล้ว จัดกระเป๋าแล้วด้วย ลางานก้อแล้ว เอาไงดี (มองหน้ากันสองคนพี่น้อง) ตัดสินใจว่าเราต้องไปที่ไหนซักแห่งเพื่อชดเชยค่ะ หุหุหุ แบบว่ายังไงก้อไม่ยอมอ่ะค่ะ เลยจัดแจง search ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวใน google ทันที เป้าหมายของเราคือต้องเป็นที่ที่อากาศหนาว เพราะกระเป๋าที่จัดไว้มีเสื้อหนาวมากมาย อิอิ
google ให้ข้อมูลเราเยอะมากกกก... แต่ที่น่าสนใจและพวกเรายังไม่เคยไปก็คือ “ปาย” โรแมนติกในสายหมอก รูปที่เห็นใน google สวยมากน่าหลงใหลจริงๆค่ะ
..ภาพคนอื่นเค้าไปเที่ยว.. ทำให้เราอยากไปเห็นด้วยตาตัวเอง
ไม่รอช้าค่ะ จัดแจงจองที่พักซึ่งเต็มเกือบทุกที่เพราะช่วงนั้นมีเทศกาลหนังเมืองปายพอดีค่ะ ทำไงดีๆๆๆๆ!!! แต่ในที่สุดด้วยความพยายามและความหน้ามึนของเรา อิอิ ก้อได้ที่พักมา 1 ห้อง 2 คืน เราได้ที่พักที่บ้านตะวันค่ะ ยังไม่เคยไป แถมยังเป็นทริปที่ไปกันสองศรี(พี่น้อง)เท่านั้น
สองสาว @ Pai
เราก้อไม่นิ่งนอนใจค่ะ เข้ามาอ่านกระทู้ของเพื่อนๆจากหลายๆๆเวบค่ะ ที่แนะนำว่าไปยังไง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง และที่พักเป็นไง ดีไม่ดี ฯลฯ ทำให้สามารถประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าได้จริงๆค่ะ ดังนั้นการเขียน blog โพสกระทู้ ต่างๆนั้นมีประโยชน์มากจริงๆนะคะ เมื่อเราได้ที่พักแล้วเราก้อมาดูว่าจะต้องเดินทางยังไง สอบถามจากเพื่อนที่เคยไปและจากในกระทู้ต่างๆ ได้ข้อมูลเยอะมากค่ะ สรุปพวกเราอบู่ที่อุดร จะไปปายได้ 2 ทาง แต่เราเลือก นั่งรถจากอุดรไปลงเชียงใหม่ ราคา 641 บาทต่อคน เมื่อถึงบขส.ที่เชียงใหม่เราไปจองตั๋วรถตู้จากที่นั่นไปปายได้เลยค่ะ ค่ารถ 150 บาทต่อคนค่ะ ในกระทู้ต่างๆเตือนเราไว้ว่าเนื่องจากโค้งเยอะมาก ระวังเมารถ พวกเราเลยเตรียมยากันไปเยอะเลย แต่พอถึงเวลาเดินทางจริงๆยาที่เตรียมไปก้อกินคนละเม็ด เลย์อีกคนละห่อ น้ำดื่มรถตู้เค้าแจกคนละขวดค่ะ กินไป คุยไป นอนไป ก้อไม่มีใครเมารถอย่างที่กลัวเลยค่ะ..โชคดีมาก ^__^
คันนี้ล่ะค่า เชียงใหม่-ปาย
บ้านตะวัน
ทางด้านเจ้าของ “บ้านตะวัน” ที่พักที่เราจองไว้น่ารักมากค่ะ จะโทรสอบถามเราตลอดเลยว่าเราถึงไหนแล้ว และเมื่อเรามาถึงปายก้อมีรถจากบ้านตะวันมารับถึงบขส.เลยค่ะ ประทับใจมากเลย ^__^ อ่านเจอกระทู้นึงในเวบอะไรจำไม่ได้แล้ว เตือนให้ระวังเวลาไปพักที่บ้านตะวัน แต่ตอนที่ไปเองไม่เกิดเหตุการณ์อะไรที่ไม่ดีเลยค่ะ ต่างกรรมต่างวาระนะคะ
โอ้...ไปเที่ยวแค่ 3 วัน 2 คืน แต่มีเรื่องเล่ามากมาย .. ไว้มาเล่าต่อภาค 2 นะคะ
(ภาค 2 ขอใช้รูปเล่าเรื่องดีกว่า จะได้ไม่เบื่อ)
ปายเป็นเมืองเย็น ทั้งใจ ทั้งธรรม ครับ
- เป็นครูอยู่ที่ปายค่ะ ดีใจมากที่ประทับใจปาย
- ปายเป็นเมืองเล็กๆ สงบ ร่มเย็น
- โอกาสหน้ามาเยี่ยมปายใหม่นะค่ะ
- โชคดีนะค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ kmsabai และคุณครูเพ็ญ
ปายเป็นเมืองเล็กๆที่น่าอยู่จริงๆค่ะ
แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีธุรกิจกำลังกลืนกินวัฒนธรรมปายแท้ๆไปบ้างแล้วนะคะ
ต้องรีบไปก่อนที่จะไม่เหลือบรรยากาศของปายแท้ๆๆ
ไม่อยากให้ปายเปลี่ยนไปเหมือนเกาะช้างอ่ะค่ะ
เสียดาย...
คุณครูเพ็ญคะ มีโอกาสอีกเมื่อไหร่รับรองต้องไปอีกแน่ๆค่ะ
คราวก่อนยังไม่ได้ไปบ่อน้ำร้อนเลยค่ะ ^__^
พี่เคยไปมา ประทับใจเหมือนกันค่ะ
กำลังหาเวลาไปเยือนเหมือนกันค่ะ...^_^
สวัสดีค่ะพี่แก้ว
ใครไปปายคงอดใจไม่หลงเสน่ห์เมืองปายไม่ไหวแน่ๆๆ ช่ายป่ะคะ ^__^
สวัสดีค่ะ คุณ♡*.:。 KiTTyJuMP゚・♡゚゚・~ nataDee
อย่าลืมหาโอกาสไปให้ได้เลยนะคะ ยืนยันได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์น่าหลงไหลจริงๆค่ะ
เค้าถึงเรียกว่าเมืองปาย คือเมืองโรแมนติคในสายหมอก อ่ะค่า
ยิ่งถ้าไปกะคนรักเนี่ยคงดีไม่น้อย หุหุหุ
ตอนไปครั้งนั้น เราไปกัน สองคนพี่น้อง เจอคนที่เค้าไปกันเป็นคู่ เป็นครอบครัว
แอบอิจฉาเล็กๆด้วยค่า อิอิ
อ่านบันทึกนี้เเล้ว คิดถึงบ้านครับ...
ต้องหาเวลากลับบ้าน :)
สัวสดีค่ะคุณจตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
ดีจังเลยค่ะมีบ้านอยู่ในเมืองที่น่าหลงไหลแบบนี้อ่ะค่า น่าอิจฉาที่สุด ^__^
อยากดูภาคต่อนะค่ะดูได้ที่ไหนค่ะเพราะปลายปีจะไปปายค่ะ