สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.)
ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกกลุ่มอาชีพทั่วประเทศ
เกี่ยวกับการศึกษาไทยในปัจจุบัน ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์-13
มีนาคมที่ผ่านมา โดยวิธีออกแบบสอบถามทั้งสิ้น 20,000 ฉบับ
และได้รับการตอบกลับ 14,230 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 71.2
โดยเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ใน กทม. ร้อยละ 11.3 และส่วนภูมิภาค ร้อยละ
88.7 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 46-55 ปี และอายุระหว่าง 36-45 ปี
คิดเป็นร้อยละ 35.4 และ 26.4 ตามลำดับ
ผู้ตอบแบบสอบถามมาจากผู้มีอาชีพต่างๆ ได้แก่ ข้าราชการ นักธุรกิจ
รัฐวิสาหกิจ รับจ้าง รวมทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง
กรรมการสถานศึกษา ครูอาจารย์ ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา
โดยได้ผลสรุปวิเคราะห์ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
*1.ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการจัดการศึกษาโดยรวม*
พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 84.5 มีความพอใจต่อสภาพการจัดการศึกษาในปัจจุบัน
และเมื่อถามถึงระดับความพอใจ พบว่า ส่วนใหญ่พอใจในระดับปานกลาง
คิดเป็นร้อยละ 56.3 สำหรับที่พอใจมากมีร้อยละ 19.9 และร้อยละ 8.4
มีความพอใจในระดับน้อย
ที่เหลือจะเป็นผู้ที่แสดงความคิดเห็นว่าไม่พอใจ
*2.ความคิดเห็นต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการพัฒนาการศึกษาโดยรวม*
มีความคิดเห็นว่า
การดำเนินการพัฒนาการศึกษาที่ผ่านมาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาด้านต่างๆ
ไปในทิศทางที่ดีขึ้น กล่าวคือ
*ด้านครู* มีผู้ให้ความเห็นว่า
การพัฒนาการศึกษาทำให้คุณภาพของครูมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
จำนวนร้อยละ 70.4
โดยส่วนใหญ่เห็นว่าครูมีความรู้และวุฒิการศึกษาสูงขึ้น
มีการพัฒนาตนเอง เพิ่มพูนความรู้ใหม่ๆ ในการจัดการเรียนการสอนมากขึ้น
นำสื่อต่างๆ มาใช้อย่างเหมาะสม และส่งเสริมนักเรียนหาความรู้ด้วยตนเอง
ส่วนที่เห็นว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือเหมือนเดิม มีร้อยละ 23.6
ที่เหลือคือไม่ตอบและเห็นว่าแย่ลงกว่าเดิม
*ด้านนักเรียน* มีผู้ให้ความคิดเห็นว่า
การพัฒนาการศึกษามีผลทำให้นักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
คิดเป็นร้อยละ 51.8
มีความเห็นว่านักเรียนมีความรู้ในเนื้อหาวิชาการมากขึ้น
รู้จักใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีการทำกิจกรรมร่วมกัน กล้าแสดงออก
กล้าตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น ใฝ่หาความรู้และค้นคว้าด้วยตนเอง
และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ที่เห็นว่าเหมือนเดิม มีร้อยละ 36.1 เกี่ยวกับเรื่องความกระตือรือร้น
ขยันตั้งใจเรียน ระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ และที่เห็นว่าแย่กว่าเดิม
มีร้อยละ 10.6 เกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม วินัย ความรับผิดชอบ
และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
*ด้านสถานศึกษา*
มีผู้เห็นว่าการพัฒนาการศึกษาส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของสถานศึกษาในทางที่ดีขึ้น
จำนวนร้อยละ 68.7
โดยเห็นว่ามีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการภายในสถานศึกษา
เปิดโอกาสการเข้าเรียนและเมื่อเรียนสำเร็จแล้วสามารถเรียนต่อในระดับสูงขึ้น
มีการพัฒนามาตรฐานทางวิชาการ ส่งเสริมสนับสนุนนักเรียนให้เข้าแข่งขัน
และทำกิจกรรมเสริมสร้างองค์ความรู้ ส่วนที่เห็นว่าเหมือนเดิม มีร้อยละ
26.8 และเห็นแย่ลงกว่าเดิม มีร้อยละ 2.6
*ด้านสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอน* มีผู้เห็นว่า
การพัฒนาการศึกษาทำให้มีการพัฒนาคุณภาพสื่อการเรียนการสอนในทางที่ดีขึ้น
จำนวนร้อยละ 63.4
โดยเห็นว่ามีคอมพิวเตอร์ใช้ในการเรียนการสอนที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพเพียงพอทั่วถึง
มีแบบเรียนและหนังสืออ่านประกอบพอเพียง
เนื้อหาน่าสนใจกว่าเดิมและเหมาะสมกับวัยนักเรียน
ส่วนที่เห็นว่าเหมือนเดิมมีจำนวนร้อยละ 31.9
และที่เห็นว่าแย่ลงกว่าเดิมมีร้อยละ 2.9
โดยเห็นว่าการกระจายสื่อและอุปกณ์ยังไม่ทั่วถึงและไม่เพียงพอ
แบบเรียนและหนังสืออ่านประกอบมีผู้ผลิตมาก แต่หาซื้อได้ยาก
*3.ความคาดหวังต่อการปฏิรูปการศึกษา*
จากการสอบถามถึงความต้องการหรือความคาดหวังของประชาชนในการพัฒนาการศึกษาด้านต่างๆ
พบว่า มีความคาดหวังดังนี้
*ด้านครู* ให้ครูได้รับการอบรมมีเทคนิคการสอนที่หลากหลาย
สอนเข้าใจง่าย น่าเรียน
อยากให้ดูแลเอาใจใส่นักเรียนอย่างทั่วถึงทั้งนักเรียนเก่งและไม่เก่ง
สอนสอดแทรกคุณธรรมในวิชาที่สอน ฝึกฝนนักเรียนให้กล้าคิด กล้าตอบคำถาม
กล้าแสดงออก
ควรพัฒนาครูให้มีจรรยาบรรณในวิชาชีพและมีจิตวิญญาณของความเป็นครู
และยอมรับฟังความคิดเห็นของเด็ก
*ด้านนักเรียน*
อยากให้เด็กได้รับการปลูกฝังจิตสำนึกด้านคุณธรรมจริยธรรม
มีการจัดระเบียบเข้มงวดกวดขันในเรื่องความประพฤติ
ให้นักเรียนรู้จักคิดวิเคราะห์
เรียนรู้และค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตนเองจากแหล่งเรียนรู้และประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน
จัดหลักสูตรการเรียนการสอนให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง
และให้นักเรียนได้เรียนรู้วิธีใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
*ด้านสถานศึกษา*
ให้โรงเรียนมีมาตรฐานการเรียนการสอนที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันทุกโรงเรียน
มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดี สะอาด มีสิ่งอำนวยความสะดวก
และมีความปลอดภัย
มีระเบียบควบคุมความประพฤติและการลงโทษครูและนักเรียนให้เข้มงวดกว่าเดิม
และให้มีการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างบ้าน โรงเรียน
และชุมชน ตลอดจนจัดให้มีคอมพิวเตอร์มากขึ้น
โดยเฉพาะโรงเรียนในชนบทห่างไกล
*ด้านสื่อและอุปกรณ์การเรียนการสอน*
จัดให้มีหนังสือและอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย เนื้อหาดี น่าสนใจ
จัดทำสื่อ/เทคโนโลยีทางการศึกษาให้มากขึ้น
รวมทั้งจัดหนังสือและอุปกรณ์การเรียนการสอนให้มีอย่างเพียงพอ
โดยเน้นให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน
*4.การมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษา*
จากการถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีส่วนในการปฏิรูปการศึกษา พบว่า
ส่วนใหญ่ต้องการมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษา คิดเป็นร้อยละ 72.5
โดยผู้ที่อาศัยใน กทม.ที่ต้องการมีส่วนร่วมถึงร้อยละ 63.2
สำหรับในส่วนภูมิภาคต้องการมีส่วนร่วมร้อยละ 74.2 โดยที่ทั้งใน
กทม.และภูมิภาคมีผู้ไม่ต้องการมีส่วนร่วมร้อยละ 25.3 และ 14.4
(ตามลำดับ) และไม่ตอบร้อยละ 11.5 และ 11.3 (ตามลำดับ)
ซึ่งจะเห็นว่ามีผู้ไม่ตอบเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้
เนื่องจากความไม่เข้าใจเกี่ยวกับการศึกษา
เมื่อถามถึงการมีส่วนร่วมในปฏิรูปการศึกษาด้านต่างๆ พบว่า
*ด้านงบประมาณ* ประเด็นที่มีผู้ให้ความสนใจและต้องการมีส่วนร่วม
เรียงตามลำดับคือ
-บริจาคเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอน สร้างอาคารเรียน
จัดกิจกรรมต่างๆ จัดฝึกอบรมสร้างความรู้ให้กับครู
และใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ตามความจำเป็น -บริจาคสิ่งของ เช่น หนังสือ
สมุด ปากกา ดินสอ ฯลฯ -จัดหาอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอน เช่น
คอมพิวเตอร์ -ให้ทุนการศึกษาและบริจาคที่ดินเพื่อสร้างสถานศึกษา
*ด้านการเรียนรู้* ประเด็นที่มีผู้ให้ความสนใจและต้องการมีส่วนร่วม
เรียงตามลำดับคือ
-สนับสนุนให้บุตรหลานได้เรียนรู้เทคโนโลยีและนำสื่อที่ทันสมัยมาใช้ในการเรียน
-การพัฒนาการสอนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน
-ส่งเสริมบุตรหลานให้เรียนหนังสือตามนโยบายรัฐบาล
-ให้ความรู้แก่บุตรหลานเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่เรียนในโรงเรียน
และเน้นภาษาต่างประเทศ
-สนับสนุนให้บุตรหลานศึกษาค้นคว้าความรู้ด้วยตนเองและเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว
*การมีส่วนร่วมกับสังคมและชุมชนในการจัดการศึกษา*
มีประเด็นที่มีผู้ให้ความสนใจและต้องการมีส่วนร่วม เรียงตามลำดับคือ
-มีส่วนร่วมในการจัดและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของชุมชน
-การเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับการศึกษาให้แก่ชุมชน -ร่วมพัฒนา
ร่วมกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน และจัดแหล่งเรียนรู้ในชุมชน -ศึกษาเอกสาร
รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและให้ความร่วมมือกับหน่วยราชการ
*การมีส่วนร่วมกับสถานศึกษาในการจัดการศึกษา*
ประเด็นที่มีผู้ให้ความสนใจและต้องการมีส่วนร่วม
เรียงตามลำดับคือ
-แสดงความคิดเห็นและเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงสถานศึกษา -ให้คำแนะนำ
นิเทศเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา
-ปลูกจิตสำนึกให้บุตรหลานในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม
และการมีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น
-เป็นวิทยากรภูมิปัญญาท้องถิ่น
-ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
ที่มา:
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01edu01130549&day=2006/05/13หน้า
22
ไม่มีความเห็น