กระทรวงการคลังติดตามผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวน 1.16 แสนล้านบาท 4 เดือน เบิกแล้วกว่าร้อยละ 52
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการเบิกจ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ได้รับเพิ่มเติมกลางปี จำนวน 116,700 ล้านบาท ว่า ตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้วันที่ 9 มีนาคม 2552 จนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2552 ผลการเบิกจ่ายของโครงการ จำนวน 16 โครงการ มีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว จำนวน 61,503.76 ล้านบาท หรือร้อยละ 52.50 โครงการที่มีการเบิกจ่ายสูงสุด 4 โครงการ ได้แก่ โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐหรือโครงการเช็คช่วยชาติ จำนวน 18,149.80 บาท โครงการ
5 มาตรการ 6 เดือนเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน จำนวน 10,147.19 ล้านบาท โครงการสนับสนุนการจัดการ ศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 15 ปี จำนวน 15,809.88 ล้านบาท และโครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุ จำนวน 7,305.23 ล้านบาท หรือร้อยละ 95.67 88.94 81.28 และ 81.17 ของเงินงบประมาณที่ได้รับแต่ละโครงการ ตามลำดับ
โครงการที่สามารถเบิกจ่ายเงินเข้าสู่ชุมชนโดยตรงทั่วทุกพื้นที่ อีกประมาณ 8,172.45 ล้านบาท ได้แก่ โครงการปรับปรุงสถานีอนามัยในชนบท โครงการแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อการจัดการน้ำขุดลอกคูคลอง โครงการก่อสร้างทางในหมู่บ้านเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน โครงการจัดทำและพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเกษตรกรสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก และโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โดยมีอัตราการเบิกอยู่ที่ร้อยละ 8.95 14.79 28.05 32.89 37.27 และ 59.86 ของเงินงบประมาณที่ได้รับแต่ละโครงการ ตามลำดับ และโครงการอื่นๆ อีก 6 โครงการ จำนวนเงิน 1,919.21 ล้านบาท
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำส่วนหนึ่ง เป็นผลมาจากหน่วยงานได้จ่ายจากเงินทดรองราชการไปก่อนแล้วจึงจะเบิกจ่ายจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจชดใช้ภายหลัง เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ กรมบัญชีกลางประสานกับหน่วยงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามข้อกำหนด โดยจะเชิญประชุมหน่วยงานที่มีงบลงทุนสูงแต่การเบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมายพร้อมกับหน่วยงานที่ได้รับงบกลางปี ที่มีการเบิกจ่ายต่ำ ในสัปดาห์หน้า และให้รายงานผลการเบิกจ่ายงบกลางปี เป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่องรวมถึงงบประมาณต้นปีด้วย เพื่อติดตามผลการเบิกจ่ายในแต่ละโครงการ หากมีปัญหาอุปสรรคจะได้หาแนวทางแก้ไขและสามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 หากเบิกจ่ายไม่ทันและต้องกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีก็จะมีผลกระทบกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ที่ได้ตั้งไว้ จะยิ่งทำให้การดำเนินงาน ในโครงการต่างๆ ล่าช้าออกไป ส่งผลให้งบประมาณที่จะนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจก็จะล่าช้าไปด้วย
ไม่มีความเห็น