เทคนิคการสร้างโอกาสจากวิกฤติของหัวหน้าที่มีปัญหา


เทคนิคการสร้างโอกาสจากวิกฤติของหัวหน้าที่มีปัญหา

เทคนิคการสร้างโอกาสจากวิกฤติของหัวหน้าที่มีปัญหา

คนทำงานส่วนใหญ่มักจะต้องผ่านชีวิตของการเป็นลูกน้องแทบทุกคน ปัญหาอย่างหนึ่งที่เป็นของคู่กันกับตำแหน่งลูกน้องและหลีกหนีไม่พ้นคือ หัวหน้าบางคนบอกว่าหัวหน้าเอาเปรียบลูกน้อง บางคนบอกว่าหัวหน้าไม่ทำอะไรชอบเอางานลูกน้องไปเสนอ และอีกสารพัดปัญหา เช่น เผด็จการ จุกจิกเรื่องส่วนตัว ไม่ค่อยส่งเสริมลูกน้อง    ไม่สอนงานลูกน้อง ไม่ปกป้องลูกน้อง ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าหัวหน้ามีปัญหามากน้อยเพียงใด หรือมีเรื่องอะไรบ้าง แต่อยู่ที่ว่าปัญหาของ หัวหน้านั้นส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการทำงานของลูกน้อง และส่วนมากมักจะส่งผลกระทบในแง่ลบมากกว่า เพราะลูกน้องส่วนใหญ่มักจะเลือกตอบสนองปัญหาที่เกิดจากหัวหน้าโดยใช้พฤติกรรมในทางลบ เช่น นินทาหัวหน้า ประชดหัวหน้า กลั่นแกล้งหัวหน้า ดื้อทั้งดื้อเงียบและดื้อเสียงดัง หรือการแสดงออกอื่นๆที่แสดงให้เห็นว่าไม่พอใจหัวหน้า โดยทั่วไปแล้วถ้าลูกน้องแสดงการตอบสนองความไม่พึงพอใจหัวหน้าโดยพฤติกรรมในทางลบ โอกาสที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องหัวหน้าได้มีน้อยมาก ในทางตรงกันข้ามอาจจะเพิ่มระดับความรุนแรงของปัญหาขึ้นมาอีก สุดท้ายบางคนทนไม่ไหวก็ต้องเปลี่ยนหัวหน้า แต่การเปลี่ยนมักจะเปลี่ยนโดยการไปหาหัวหน้าใหม่ในองค์กรอื่น ไม่ใช่เปลี่ยนหัวหน้าในองค์กรเดิม ถึงแม้จะเปลี่ยนหัวหน้าใหม่      วัฎจักรของปัญหาหัวหน้าก็ยังไม่หมดไปจากโลกของการทำงานได้ อาจจะมีเฉพาะช่วงแรกๆ ที่ว่าหัวหน้าคนใหม่ดีกว่าคนเก่าในจุดนั้นจุดนี้ แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ความไม่ดี(ที่ลูกน้องมักจะคิดเอาเองหรือพยายามสำรวจมา)ของหัวหน้าก็จะมีขึ้นมาอีก ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาเรื่องเดียวกันหรือต่างกันกับหัวหน้าคนก่อนๆก็ได้ จึงขอเสนอแนะแนวทางการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสดังนี้

·                       หยุดปรุงแต่งอารมณ์

ขอให้ทำใจให้เป็นกลางและคิดเสมอว่าหัวหน้าเขามีเหตุผลในการกระทำ แม้ว่าเหตุผลนั้นเราจะไม่ทราบก็ตาม อย่าพยายามคาดเดาหรือคิดเอาเอง ถ้าอยากรู้จริงๆขอให้ถามหัวหน้าตรงๆไปเลย ถึงแม้จะได้คำตอบที่เราพอใจหรือไม่พอใจก็ตาม พูดง่ายๆคืออย่านำเอาพฤติกรรมที่เราไม่ชอบแล้วมาปรุงแต่งในทางลบ เพราะมิฉะนั้น ความทุกข์ที่เกิดขึ้นที่ตัวเราเอง ถ้าเราไม่ชอบพฤติกรรมหัวหน้า ขอให้คิดว่าช่างมันเถอะเดี๋ยวมันก็ผ่านไปแล้ว และเราคงไม่ได้ผูกชีวิตของเราไว้กับเขาตลอดไปหรอก หัวหน้าคือทางผ่านทางหนึ่งของเราที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น อย่าเสียเวลากับการเอาเรื่องไร้สาระมาเป็นตัวถ่วงชีวิตของเราเลย

·                       เปลี่ยนหัวหน้าเป็นตำราเรียน

ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเราทำงานไปนานๆจนเราได้เป็นหัวหน้า เราจะพบว่าหลายสิ่งหลายอย่างในตัวเรานั้นเกิดจากการที่เราได้เรียนรู้ลักษณะของหัวหน้าที่ดีและ หัวหน้าที่ไม่ดีมาจากหัวหน้าคนก่อนๆของเรา ดังนั้น คนที่กำลังเป็นลูกน้องในปัจจุบันขอให้ใช้หัวหน้าให้เป็นประโยชน์ นั่นก็คือคิดเสียว่าหัวหน้าคือตำราทางการบริหารเล่มหนึ่งที่สอนเราทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดี กรุณาเก็บเกี่ยวเอาสิ่งที่ดีที่เราชอบไปใช้กับลูกน้องเมื่อเราเป็นหัวหน้า และเก็บเอาสิ่งที่ไม่ดีที่เราไม่ชอบไปเป็นบทเรียนว่าวันหนึ่งถ้าเราได้เป็นหัวหน้า เราจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด

·                       เปลี่ยนปัญหาเป็นแรงจูงใจ

ถ้าเราเจอหัวหน้าที่ไม่ดีหรือมีปัญหา น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ เราควรจะเปลี่ยนปัญหาของหัวหน้าให้เป็นเชื้อเพลิงในการสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเราเอง โดยให้คิดเสียว่าเราต้องผ่านหัวหน้าคนนี้ให้ได้ เราต้องเข้าไปนั่งในใจหัวหน้าคนนี้ให้ได้ เราต้องสร้างผลงานให้หัวหน้าคนนี้ยอมรับให้ได้ เพราะถ้าเราผ่านหัวหน้าแบบนี้ได้ ต่อไปเราจะเจอหัวหน้าแบบไหนคงผ่านได้หมด หรือให้คิดว่าในอนาคตเมื่อเราเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้บริหาร เราอาจจะเจอหัวหน้าที่แย่กว่านี้อีกก็ได้ เพราะฉะนั้น หัวหน้าคนปัจจุบันจึงเป็นด่านทดสอบเราได้เป็นอย่างดี

หรือเราอาจจะคิดอีกแง่หนึ่งก็ได้ว่าถ้าเรามีหัวหน้าที่ไม่ดี ให้เราคิดเสียใหม่ว่าโอกาสที่เราจะขึ้นไปแทนที่หัวหน้าคนนี้มีมากขึ้นและเร็วขึ้น ขอให้เราเตรียมพัฒนาตัวเองรอไว้ได้เลยครับ คงอีกไม่นานองค์กรคงจะดำเนินการกับหัวหน้าของเราแน่ ถ้าคิดแบบนี้เราก็จะรู้สึกเห็นใจหัวหน้ามากขึ้น ในขณะเดียวกันเราก็ทุ่มเทจิตใจไปกับการพัฒนาตัวเองมากกว่าที่จะมาคิดแต่ปัญหาของหัวหน้า

·                       เปลี่ยนความทุกข์เป็นความสุข

ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้เราจะชอบหรือไม่ชอบหัวหน้า เราก็ต้องทำงานกับเขาอยู่ดี ดังนั้น เราจะเลือกทำงานกับเขาด้วยความเครียดและความทุกข์หรือเราจะเลือกทำงานกับเขาด้วยความและมีความสุขสนุกสนาน เรามีสิทธิในการเลือก แต่คนส่วนใหญ่ๆมักจะเลือกทำงานด้วยความทุกข์ เพราะตามอารมณ์ของตัวเองไม่ทัน เหมือนกับการที่เราถูกบริษัทบังคับให้ไปเข้าสัมมนาในหลักสูตรที่เราไม่ชอบ เรามีทางเลือกเพียงสองทางเหมือนกันคือ เลือกที่จะทนนั่งเบื่อไปทั้งวันหรือเลือกที่จะสนุกกับมัน ถ้าเราเลือกที่จะสนุกกับมัน เราจะรู้สึกว่าเวลาในการสัมมนาแป๊บเดียวก็เลิกแล้ว แต่ถ้าเรานั่งเบื่อกับมันรับรองได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่ยาวนานสำหรับเราแน่ๆ

·                       อย่าเปลี่ยนปัญหาโดยการเปลี่ยนหัวหน้า

เราต้องยอมรับว่าปัญหาของหัวหน้านั้นเป็นปัญหาโลกแตกไม่มีใครแก้ได้หรอกครับ มันมีทุกที่มีทุกยุคทุกสมัย ดังนั้น เราต้องยอมรับความเป็นจริงในจุดนี้ก่อน แล้วค่อยนำเอาเทคนิคต่างๆที่ได้แนะนำมามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับตัวเราเอง และอยากจะแนะนำเพิ่มเติมว่า กรุณาอย่าแก้ปัญหาหัวหน้าโดยการเปลี่ยนงานเพื่อไปหาหัวหน้าคนใหม่ เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าตัวเราไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอจริงๆ แต่เราใช้วิธีเปลี่ยนตัวปัญหาเท่านั้น เพราะถึงแม้สาเหตุของปัญหาจริงๆจะอยู่ที่หัวหน้าก็ตาม แต่ทางแก้ที่ดีที่สุดมันอยู่ที่ใจเราเองค่ะ

 

จากบทความนี้ สรุปได้ว่า  ปัญหาส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านความรู้สึกระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง ถ้าทั้งสองฝ่ายเข้าใจซึ่งกันและกันก็จะทำงานด้วยกันอย่างมีความสุข

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 280832เขียนเมื่อ 27 กรกฎาคม 2009 23:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

หัวหน้าก็คือปุถุชนคนธรรมดาย่อมมีดี ไม่ดีแตกต่างกันไป บทความนี้ช่วยให้เราไม่มองแต่ด้านบลต้องมองในส่วนที่ดีของเขาด้วย

เพราะฉะนั้นเราต้องสู้กับปัญหาใช่ใหมค่ะ เริ่มแรกต้องแก้ที่ใจของเราก่อน ว่าเรามีมุมมองปัญหานั้นๆอย่างไร และสู้กับมันทุกกลยุทธ์ ลุย....

บางคร้งคนเราก็มองข้าม ประโยชน์ที่เกิดจากปัญหา เขาถึงมีการกล่าวว่า " จงใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส" นั่นเอง !

จะลองเอาไปใช้ดูนะคะ (ถูกใจ...ใช่เลย)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท