เรื่องมีอยู่ว่า หลานฉันเรียนวิชาพุทธศาสนาที่โรงเรียนหนูทดลอง(ในอดีต)ค่ะ "พระ" อาจารย์ที่โรงเรียนนิมนต์มาสอนมาจากวัด...(อยากรู้ชื่อวัด จะบอกหลังไมค์ค่ะ) หลานฉันทำความผิด (เอ๊ะ ผิดมากเลยหรือ)...คือ ลืมเอาป้ายชื่อไปเรียนด้วย บังเอิญ หรือว่าโชคดี...ที่เป็นคนเดียวในห้อง (แบบนี้ควรโทษใครดีคะ โทษพ่อแม่ใช่ไหม?)
หลังจากนั้นในวันและเวลาต่อมา หลานฉันมีอาการเป็นไข้ อาเจียน ถ่าย(ฉี่)ดำคล้ำ กล้ามเนื้อที่ขาบวมค่ะ ขาดเรียนหนึ่งวัน แต่แล้วแม่ต้องอุ้มมาส่งโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม และหลานฉันก็ต้องนอนดูอาการในไอซียู
อาจารย์หมอวินิจฉัยอาการบาดเจ็บแล้ว บอกว่าเกี่ยวข้องกันค่ะ และห่วงเรื่อง ไต.
"พระ" อาจารย์ทำโทษเด็กนักเรียนเหมือนกับทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง เพียงแค่เด็กลืมป้ายชื่อเข้าห้องเรียนก็โดนทำโทษเหมือนการเชือด "ไก่" ให้ "ลิง" ดู แล้วหรือคะ
ที่ฉันอ่านหนังสือหรือที่พ่อสอนฉันเสมอมาเรื่องการออกำลังกายอย่างหนัก โดยไม่มีการทำความอบอุ่นร่างกาย มันจะเกิดอันตรายได้ ก็แล้วทำไม "พระ" อาจารย์ท่านจึงไม่ทำโทษให้เด็กนักเรียนตัวเล็กๆ แค่นี้ สักสิบ ยี่สิบที ถ้าทำอีกก็เพิ่มขึ้นสิคะ แต่ขอให้ค่อยๆ ทำนะคะ เหนื่อยก็ขอให้เด็กได้พักบ้าง อย่าทำรวดเดียวเป็นร้อย...
โอ้แม่เจ้า หลานฉันก็เป็นเด็กดีอยู่ในโอวาท ทำจนครบต่อเนื่องกัน มีสปิริตจัง!
เฮ้อ ไม่น่าจะเกิดเหตุในโรงเรียนที่ฉันเองก็เคยเป็นหนูทดลองมาก่อนเลยนะคะ
เรื่องนี้จะเป็นบทเรียนเฉยๆ หรือว่าเรา คือ โรงเรียน - ผู้ปกครอง จะต้องคิดทำการอะไรต่อไปดีคะ
เด็กผิดวินัยเรื่องนี้ เหมือนทำผิดศีลธรรมห้าข้อเลยจะส่งเด็กไปสู่สุคติ...แทน โรงเรียนเก่าของหลานชายฉันไม่เคยเห็นมีการทำโทษเด็กแบบนี้เลย..ไม่น่าเลย
หรือว่าหลานชายของฉันใจเสาะไปเองคะ ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉัน พ่อและแม่ของหลานฉัน พี่สาวฉัน คุณย่าของหลานชายฉัน ก็ใจเสาะเหมือนๆ กันสินะคะ
อ้าว ฉันไม่รู้จริงๆ นะคะ
เขียนเรื่องนี้ไว้ เป็นข้อมูลค่ะ จะได้มีหลักฐานอ้างอิง วัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ หากว่าในอนาคต เกิดอะไรๆ ที่มีผลข้างเคียงต่อเนื่อง ทั้งเรื่องสุขภาพ และกฎหมายด้วยค่ะ ก็เพียงอยากคิดกันไว้ดีกว่า...สายไปเสียแล้ว
การออกกำลังกาย วิดพื้น สก็อตจั๊ม เกินร้อยครั้งติดต่อเนื่อง ถือว่าเป็นการออกกำลังหนัก
ปกติการออกกำลังหนักๆ มันต้องมีการ วอร์มเบาๆ อบอุ่นร่างกายก่อน
ถ้าไม่เรียนรู้หลักการก็จะเกิดปัญหาอาการบาดเจ็บ พิการ
อาจถึงการฟ้องร้องขึ้นศาล...เรื่องเล็กๆ ก็เป็นเรื่องใหญ่โตไปได้ง่ายๆ
น้องชายและฉันช่วยกันค้นหาข้อมูล เอกสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยความกังวลใจว่าลูกรักจะเป็นอะไรต่อไปในวันข้างหน้าหรือไม่ นอกจากอาการป่วยทางจิตใจแล้ว ทางกายล่ะ สงสารหลานชายฉันจัง สงสารน้องชายและน้องสะไภ้ สงสารคุณยาย(ย่า) สงสารตัวเองด้วย บอกแต่แรกแล้ว...
อ่านเอกสาร
http://library.uru.ac.th/bookonline/books%5Cbookonline3-6.pdf
อาจส่งผลต่อ ตับและ .....ไตวาย , renal failure
อ่านเอกสาร
http://www.thaihealth.net/h/encyclopedia-10017.html
รอดูอาการกันไปค่ะ ทั้งทางกายและทางใจ
อาการน่าเป็นห่วงมาก อิอิ
สวัสดีค่ะดาวลูกไก่
*** สงสารจัง ...ท่านที่สั่งท่านคงไม่เคยสก๊อตจั๊มจึงไม่รู้ว่าสาหัสแค่ไหน
*** เป็นบทเรียนที่ต้องบันทึกไว้เพื่อป้องกันปัญหาในโรงเรียนต่อไป ที่โรงเรียนก็มีพระอาจารย์เหมือนกันค่ะ
*** ขอบคุณที่บอกเล่าเข้ามาให้เฝ้าระวัง
เป็นห่วงค่ะ
สงสารน้องจังเลยคะ...หัวอกคนเป็นพ่อแม่คงเจ็บกว่าลูกนะคะ
ขอให้น้องหายป่วยไวๆคะ....
สวัสดีค่ะคุณ เบดูอิน
สวัสดีค่ะคุณพี่ครู กิติยา เตชะวรรณวุฒิ
ร่วมกันเฝ้าระวังค่ะ
หลังจากไปเยี่ยมหลานชายแล้ว ไปค้นข้อมูลเรื่องท่าออกกำลังทำโทษ...นี้มาค่ะ
กระโดดกบหรือสก๊อตจัมพ์ มีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่มีโอกาสเพิ่มความบาดเจ็บของเอ็นสะบ้า รวมไปถึงหน้าสัมผัสของกระดูกอ่อนใต้กระดูกสะบ้าด้วย
ท่ากระโดดกบ วิทยาการเรื่องการฝึก อบรม ของทางทหาร ก็นิยมมาก ท่ากระโดดกบ ใช้ได้ทั้งการ...จำไม่ผิด ประมาณปี ค.ศ. 1988 ที่ไม่เรียนหลักสูตรหนึ่งที่ สหรัฐฯ ก็ได้ทราบว่า การออกกำลัง หรือทำโทษโดยวิธี ให้ยกเลิกไปแล้ว
สวัสดีค่ะ pa_daeng
ฟังมาเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับ กล้ามเนื้อลาย และไต ค่ะ หลังจากที่ไตทำงานหนัก ตอนนี้พอหายห่วงแล้ว แต่เช้าวันนี้คุณหมอขอเฝ้าระวัง โปรตีนในตับ ต่อไปก่อนค่ะ บอกว่ายังสูง มันเกี่ยวกันอย่างไรคะ...
(เมื่อวานไปเยี่ยม หลานยังลุกเดิน พับขาไม่สะดวก แอบขอบันทึกภาพไว้เล็กน้อย)
และตามค้นข้อมูลประดับความรู้ให้ตัวเอง เรื่องกล้ามเนื้อ
ที่นี่>>The Muscular System
อันที่จริง...คงต้องขอบคุณวิกฤตที่เปลี่ยนได้...เป็นโอกาสค่ะ
สวัสดีค่ะน้องก้อย
พี่ทราบมาจากรุ่นน้องที่มีลูกเรียนโรงเรียนนี้ค่ะ
วันก่อนที่ตั้มโทรมาบอกเรื่องนี้
ลองสอบถามลูกชายดู ก็ได้รับคำยืนยันว่ามีจริง
ใครลืมป้ายชื่อจะให้ทำท่าสก๊อตจั๊มพ์ 150-300 ครั้ง
อันที่จริงเจตนาพระท่านก็คงเป็นเจตนาที่ดี
วิธีการต่างหากที่ไม่ดี มีวิธีอื่นอีกมากที่ดีกว่า
สงสารก็แต่เจ้านนท์ ที่โชคร้ายมาเจอเข้า
ลูกชายเล่าให้ฟังว่า เพื่อนก็เคยโดนทำโทษด้วย
แต่รอดมาได้ เพราะนับในใจ แล้วลีม ???
เลยอนุมานว่าครบ พระท่านก็ไม่ใส่ใจ
ให้ทำโทษก็ทำไป เผอิญเจ้านนท์คงซื่อ
หลานชายพี่มีสปิริต ซื่อสัตย์ และคงจะใสเกินไปนะคะ
คุณยายพี่แก้ตัวแทนหลานชายค่ะ เพราะเรานับถือศาสนาพุทธ น้องนนท์เองก็เคยบวชเรียนมาแล้ว การโกหกตัวเองเป็นบาปค่ะ
โอ้ชีวิต คิดแล้วสับสน
พี่เจ๊เขี้ยวคะ
ทีมชาติรู้แล้วโกรธแย่เลย ที่มีการทำลายสถิติ อิอิ
ท่านอาจารย์ JJ ค่ะ
สับสนในความรู้สึก...ค่ะ
สวัสดีค่ะ... พี่ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี
...ไม่น่าเชื่อว่า " พระ" จะทำได้ขนาดนี้...
...ไม่น่าเชื่อว่า " โรงเรียน" ก็ยังไม่มีความปลอดภัยในชวิต
ทั้งที่คิดว่า...น่าจะปลอดภัยรองจากที่ " บ้าน"
เเล้วที่โรงเรียนรับผิดชอบกับเรื่องนี้ หรือไม่ อย่างไรคะ
น่าสงสารน้องนนท์...สาธุ....ขอให้น้องนนท์หายไวไว
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
....ลิตเติ้ลแคท ชื่นชมยินดี ( อิอิ....ชอบจัง แอบใช้ค่ะ)
สงสัยจัง ว่าไม่มีใคร เข้าไป คุย ให้ ข้อมูลกับ พระ เลยหรือคะ
บางที พระ ท่าน อาจจะรู้ ไม่เท่าทัน พี่ปู อ่าน ข้อความ หลายรอบ ยัง งงๆ เลย
ด้วย น้ำใสใจจริง และ เคารพ บูชา ในพุทธศาสนา เป็นยิ่งนัก ถ้า อยู่ เมืองไทย ต้อง ขอ เข้า กราบพระ แล้ว ถือ รายละเอียด ที่น้องต๋อย แจง ให้ อ่าน ถ้า พระ ไม่ คุยด้วย ก็ จะ ออก จากวัด ขอ คุยกับ ตำรวจ แล้วล่ะค่ะ ( พี่ปู คิดเอาเองว่า นะคะ )
กลับ มาอ่าน เรื่อง ของน้องต๋อย หลายรอบ ไม่ได้ จิ้ม คุย อะไร เลย ( คุย แต่ ในใจ ) แต่ เรื่องนี้ รู้ สึก ทนไม่ได้ ไฟโทสะ ในใจ ครุ ต้อง ระเบิด
ว่าแล้ว ขอแสดงความยินดี ที่ได้รับรางวัล นะคะ ประเทศไทย อยู่ได้ เพราะ เรา ช่วยเหลือ ดูแลกัน ใครทำดี ช่วยกัน ยกย่อง เชิดชู ใครทำผิด พลาดพลั้ง ก็ต้อง ช่วยกัน ติเตือน แก้ไข ช่วยกัน อย่างนี้ ทุกๆ สังคมไป ประเทศไทย คง ไม่ เสียหาย บอบช้ำ ( เกินกว่าที่เป็น )
ขอฝากรัก และ ปราถนาดี มาถึง น้องต๋อย และ ตรอบครัว เพื่อนฝูง ทุกท่าน ความดี นั้น อาจทำลำบากหน่อย อาจรักษา ยุ่งยากนิด แต่ ถ้ารักษาดี ของเรา ให้ หมดจด ผ่องใส จริงแท้แล้ว ก็เรา นั้นแหละค่ะ ที่จะได้รับผลดี ในบั้นปลาย รวมถึง ดูแลรักษา ปกป้องคุ้มภัย แม้ ในวันร้าย ก็จะกลายดี เนาะ
สวัสดีค่ะคุณ little cat
ที่จริงเด็กชายนนท์เป็นนักกีฬา และเดินขึ้นดอยสุเทพในวันรับน้องของโรงเรียนถึงในอันดับต้นๆ แต่...ฮิฮิ ทำไมตกม้าตายตรง สก็อดจั๊มก็ไม่รู้สิคะ
วันนี้โปรตีนในตับยังสูง แต่ขยับเดินได้บ้างแล้ว ยังไม่ได้ออก รพ. พรุ่งนี้คงขาดเรียนต่อไปค่ะ
พระท่านอาจไม่ทันนึกว่าเด็กจะซื่อสัตย์กับตัวเองเต็มร้อยมั้งคะ รุ่นพี่ก็ไม่เคยบอกให้รู้ล่วงหน้า
วันนี้จัดห้องให้ลูกสาว เจอหนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ช่วงชั้นที่ 4 มัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 เรียบเรียงโดย รศ.ดร.สมหมาย แตงสกุล และ รศ. ดร.ธาดา วิมลวัตรเวที อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มเรื่องสมรรถภาพทางกาย ใจ และกลไกแห่งร่างกาย มีตัวอย่างกิจกรรมสร้างเสริมความแข็งแรงและทนทานของกล้ามเนื้อ บทที่ 13-14 (ขาดอยู่ก็เรื่องข้อควรปฏิบัติ อันตรายถ้าทำมากไป ซึ่งคงจะให้นักเรียนรู้จักการค้นคว้าเพิ่มเติมต่อไป:-เรียน รู้ สู่ปฏิบัติ ค่ะ) บทที่ 11 ก็น่าสนใจค่ะ เรื่องกิจกรรมการออกกำลังการ การพักผ่อน และนันทนาการเพื่อสุขภาพ
บ้านไหน ใครมีหนังสือเรียน(ของลูกหลาน)เล่มนี้ ลองไปเปิดอ่านกันค่ะ
สวัสดีค่ะพี่เจ้าหญิง
ใครลืมป้ายชื่อจะให้ทำท่าสก๊อตจั๊มพ์ 150-300 ครั้ง
โอ้....น้องจ๊ะแค่ยี่สิบครั้งก็จะแย่แล้วจ๊ะ นี่ตั้ง 150-300 ครั้งเชียว o_O
ขอให้น้องหายไวๆ นะจ๊ะ.. นึกถึงตอนวัยเรียน น้องจ๊ะเคยถูกทำโทษอยู่เหมือนกัน แต่ส่วนมากโดนทำโทษหมู่เป็นชั้นปี โดนฟาดแค่ทีเดียวก็แย่แล้วเพราะบอบบาง เออ..อ..อ เมื่อก่อนบอบบางจริงๆ นะจ๊ะ ย้ำๆๆ
โอโห ไม่น่าเชื่อเลย ให้ทำมากจัง ขอให้น้องหายไวๆๆนะครับ
น้องจ๊ะ จ๊ะ
ถ้าทำโทษหมู เอ้ยหมู่ทั้งชั้น ลูกลิงทั้งหลายก็คงจะเพลิดเพลิน เวลาในวิชานั้นจะเหลือให้เรียนนิดเดียวดีออก
ว่าแต่วันนี้หมอยังไม่ให้หลานพี่ออกจากโรงพยาบาลเลย...ค่าอะไรไม่รู้ขึ้นมาเป็นแสน
ผอ. ร.ร. ให้ สายวิชาสังคมศึกษา (อ้าวไม่ใชวิชาพลานามัย) ที่นิมนต์พระท่านนี้มาสอนเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะว่าไม่ได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติจาก ร.ร. งง นะจ๊ะ.
น้องดร.ขจิต คะ
ไม่น่าเชื่อๆ ที่ ร.พ. บอกว่า สัปดาห์ก่อนมีกรณีนี้เหมือนกัน เป็น น้องใหม่ มหาวิทยาลัยค่ะ แต่ปิดข่าว...
...ต้องกลับมาคิดกันใหม่แล้วนะคะ...
ทำไมถึงทำไปได้
เฮ้อ....โลกหนอโลก
ขอให้น้องหายเร็วไว
และขออย่าให้เป็นอะไรมากมายเลย
พระอาจารย์ ขออโหสิกรรม ท่านทำไม่ถูกต้องค่ะ