รูปแบบของแรงจูงใจ
บุคคลแต่ละคนมีรูปแบบแรงจูงใจที่แตกต่างกัน ซึงนักจิตวิทยาได้แบ่งรูปแบบ แรงจูงใจของมนุษย์ออกเป็นหลายรูปแบบที่สำคัญ มีดังนี้
1. แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ (Achievement Motive) หมายถึง แรงจูงใจที่เป็นแรงขับให้บุคคลพยายามที่จะประกอบพฤติกรรม ที่จะประสบสัมฤทธิผลตามมาตรฐานความเป็นเลิศ (Standard of Excellence) ที่ตนตั้งไว้ บุคคลที่มีแรงจูงใจ ใฝ่สัมฤทธิ์ จะไม่ทำงานเพราะ หวังรางวัล แต่ทำเพื่อจะ ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว ้ ผู้มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์จะมีลักษณะสำคัญ ดังนี้
1. มุ่งหาความสำเร็จ (Hope of Success) และกลัวความล้มเหลว (Fear of Failure)
2. มีความทะเยอทะยานสูง
3. ตั้งเป้าหมายสูง
4. มีความรับผิดชอบในการงานดี
5. มีความอดทนในการทำงาน
6. รู้ความสามารถที่แท้จริงของตนเอง
7. เป็นผู้ที่ทำงานอย่างมีการวางแผน
8. เป็นผู้ที่ตั้งระดับความคาดหวังไว้สูง
2. แรงจูงใจใฝ่สัมพันธ์ (Affiliative Motive)ผู้ที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมพันธ์ มักจะเป็นผู้ที่โอบอ้อมอารี เป็นที่รักของเพื่อน มีลักษณะเห็นใจผู้อื่น ซึ่งเมื่อศึกษาจากสภาพครอบครัวแล้วผู้ที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมพันธ์มักจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่น บรรยากาศในบ้านปราศจาก การแข่งขัน พ่อแม่ไม่มีลักษณะข่มขู่ พี่น้องมีความรักสามัคคีกันดี ผู้มีแรงจูงใจใฝ่สัมพันธ์จะมีลักษณะสำคัญ ดังนี้
1. เมื่อทำสิ่งใด เป้าหมายก็เพื่อได้รับการยอมรับจากกล่ม
2. ไม่มีความทะเยอทะยาน มีความเกรงใจสูง ไม่กล้าแสดงออก
3. ตั้งเป้าหมายต่ำ
4. หลีกเลี่ยงการโต้แย้งมักจะคล้อยตามผู้อื่น
3. แรงจูงใจใฝ่อำนาจ (Power Motive) สำหรับผู้ที่มีแรงจูงใจใฝ่อำนาจนั้น พบว่า ผู้ที่มีแรงจูงใจแบบนี้ส่วนมาก มักจะพัฒนามาจาก ความรู้สึกว่า ตนเอง "ขาด" ในบางสิ่งบางอย่างที่ต้องการ อาจจะเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ได้ทำให้เกิดมีความรู้สึกเป็น "ปมด้วย" เมื่อมีปมด้วย จึงพยายามสร้าง "ปมเด่น" ขึ้นมาเพื่อชดเชยกับสิ่งที่ตนเองขาด ผู้มีแรงจูงใจใฝ่อำนาจจะมีลักษณะสำคัญ ดังนี้
1. ชอบมีอำนาจเหนือผู้อื่น ซึ่งบางครั้งอาจจะออกมาในลักษณะการก้าวร้าว
2. มักจะต่อต้านสังคม
3. แสวงหาชื่อเสียง
4. ชอบเสี่ยง ทั้งในด้านของการทำงาน ร่างกาย และอุปสรรคต่าง ๆ
5. ชอบเป็นผู้นำ
4. แรงจูงใจใฝ่ก้าวร้าว (Aggression Motive)ผู้ที่มีลักษณะแรงจูงใจแบบนี้มักเป็นผู้ที่ได้รับการเลี้ยงดูแบบเข้มงวดมากเกินไป บางครั้งพ่อแม่อาจจะใช้วิธีการลงโทษที่รุนแรงเกินไป ดังนั้นเด็กจึงหาทางระบายออกกับผู้อื่น หรืออาจจะเนื่องมาจากการเลียนแบบ บุคคลหรือจากสื่อต่าง ๆ ผู้มีแรงจูงใจใฝ่ก้าวร้าว จะมีลักษณะที่สำคัญดังนี้
1. ถือความคิดเห็นหรือความสำคัญของตนเป็นใหญ่
2. ชอบทำร้ายผู้อื่น ทั้งการทำร้ายด้วยกายหรือวาจา
5. แรงจูงใจใฝ่พึ่งพา (Dependency Motive) สาเหตุของการมีแรงจูงใจแบบนี้ก็เพราะการเลี้ยงดูที่พ่อแม่ทะนุถนอมมากเกินไป ไม่เปิดโอกาสให้เด็กได้ช่วยเหลือตนเอง ผู้ที่มีแรงจูงใจใฝ่ พึ่งพา จะมีลักษณะสำคัญ ดังนี้
1. ไม่มั่นใจในตนเอง
2. ไม่กล้าตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ด้วยตนเอง มักจะลังเล
3. ไม่กล้าเสี่ยง
4. ต้องการความช่วยเหลือและกำลังใจจากผู้อื่น
ที่มา: http://www.novabizz.com/NovaAce/Motives.htm
ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่นว่าบทความนี้มีคุณประโยชน์ในการเลือกนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงจูงใจที่จะนำไปใช้กับเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ผู้ใต้บังคับบัญชา บุคคลในครอบครัว ตามความเหมาะสม
แรงจูงใจใฝ่สัมพันธ์น่าจะตรงกับตัวหน่อยนะพี่ แวะมาหาความรู้ค่ะพี่ วันเสาร์เจอกันนะคะ
เป็นชิ้นงาน ...ที่ยอดเยี่ยมมาก...รอที่จะติดตามต่อไปจ้า ....สู้ๆ
กลุ่มนี้ขยันอ่าน ขยันเขียนเนอะ แวะเอากาแฟมาฝาก
น้องกรุง วันเสาร์นี้ พี่ขอเป็นเจ้าภาพกาแฟเย็น รวมทั้งครูต๋อยด้วยค่ะ
แล้วน้องๆกลุ่ม 2 ละค่ะคุณพี่เลี้ยงอะไรดีนะ ปลาสลิดก็ยังไม่ได้หม่ำเลยนะ ตามคำขอ จัดไปเลยคะหมีถือกุหลาบ ครูนวยเองค่ะ
พี่แอ๋วขยันมากครับ ขอให้ได A ทุกวิชานะครับ
แหม ....น้องชายปากเป็นมงคลอย่างนี้ ดวล...กาแฟร้อนที่น้องกรุงส่งมาให้คนละครึ่งแก้ว หรือจะขอหมีครูนวยก็ได้
มาเยี่ยมชมผลงาน สมบูรณ์แล้วครับมีบทสรุปด้วย
นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และขอขอบพระคุณอย่างสูง
ขอบคุณพี่แอ๊วมากค่ะสำหรับแรงจูงใจ ทั้ง 5 เป็นเรื่องที่ควรศึกษามากเลยสำหรับผู้บริหาร จะแวะมาหาที่บล็อกอีกนะค่ะ
ผลงานดีมากครับ
ผลงานของท่าน ก็น่าชื่นชมมาก
มาแอบอ่านแรงจูงใจ และ ตั้งใจมอบกำลังใจให้ และบอกว่า เสมอๆๆค่ะ
ขอบคุณครูอ้อยค่ะ