สวัสดีค่ะ
มาอีกแล้วค่ะ มาขายของเช่นเดิม เพราะกลัวหลายท่านจะยังไม่เคยแวะไปเยี่ยมเยือนสี่และเพื่อนๆ อีกหลายคนที่ Healthy.in.th ค่ะ
วันนี้ขอขายบทความจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญกันหน่อยนะค่ะ
เมื่อวานแนะนำไปครั้งหนึ่งแล้วค่ะแต่รู้สึกไม่เพียงพอ ยังไม่ถูกอรรถรสอย่างไรไม่ทราบ
วันนี้จึงมาประกาศใหม่ค่ะ
เรื่องแรกที่แวะมาแนะนำกัน ก็คือ เรื่องเล่าไข้หวัดใหญ่ จาก ศาสตร์การแพทย์แผนจีน ก่อนไปแวะเยี่ยมชมสี่มีคำถามกวนหัวใจกันนิดหน่อยค่ะ
ใครที่แวะไปอ่านแล้วน่าจะตอบได้ แต่ใครเจอคำถามเหล่านี้แล้วยังไม่รู้คำตอบสี่แนะนำให้แวะไปหาคำตอบกันนะค่ะ แล้วคุณจะรู้สึกทึ่งอย่างที่สี่เป็นมาแล้ว
เรื่องที่สองก็คือยาตัวเดียวกันแต่มีหลายชื่อ อาจกินยาหลายชนิดแต่เป็นยาตัวเดียวกันโดยไม่รู้ตัว ?
บทความนี้จะทำให้คุณตระหนักเกี่ยวกับการใช้ยาได้เป็นอย่างดีค่ะ เป็นบทความอ่านง่ายๆ สบายตาดีค่ะ สิ่งสำคัญก็คือช่วยสร้างความตระหนักเรื่องการใช้ยาได้เป็นอย่างดีค่ะ
ค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ได้ค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่าการใช้ยาสำคัญขนาดไหน
บทความเรื่องที่สาม คือ จำเป็นหรือไม่ที่ต้องกินยาให้หมดทุกครั้งตามที่แพทย์สั่งหรือที่เภสัชกรจ่าย ?
สี่เชื่อว่าเรื่องนี้อาจจะค้างคาใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอนค่ะ สี่นะตอบไม่ได้แต่บทความของอาจารย์โพยมฉบับนี้ตอบคุณได้อย่างแน่นอนค่ะ
สละเวลาสักนิดค้นหาคำตอบแห่งการใช้ยาที่ทำให้คุณปลอดภัยทุกครั้งที่ต้องรับประทานยาค่ะ
เรื่องสุดท้ายของบันทึกนี้ที่นำมาแนะกันในวันนี้ค่ะ นั่นคือ ทำไมต้องกินยาก่อนหรือหลังอาหาร ลืมกินยาที่กินก่อนอาหาร จะกินหลังอาหารได้ไหม ?
555 บทความถูกใจค่ะ เพราะไม่ต้องตอบอีกต่อไป ก็บทความฉบับนี้เฉลยข้อข้องใจนี้ให้แทนแล้วค่ะ
หากใครยังสงสัย และยังไม่รู้คำตอบ ไม่ต้องมาถามสี่ ขอเชิญเข้าไปหาคำตอบกันได้เลยค่ะ
อ่านจบครบทั้งสี่เรื่องแล้ว ช่วยมาตอบคำถามสี่หน่อยเถอะค่ะ ของรางวัลเป็นรอยยิ้ม ^____^
และคำขอบคุณค่ะ ที่ทำให้คนขี้เหงามีเพื่อนคุย
โอ๊ะโอ! ออกนอกเรื่องไปไกลต้องขออภัยด้วยค่ะ
ถ้าอย่างไรก็อย่าลืมแวะไปเป็นกำลังใจกันนะค่ะ สี่และผู้ร่วมเขียนทุกๆ ท่านรออยู่ค่ะ
ด้วยความปรารถนาดี
"คนป่วย" ควรพักผ่อน มาทำงานทำไมกัน :)
เจอเหยื่อแล้ว
แวะมาเป็นเหยื่อเล่นกับเด็กป่วยหน่อยสิค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn
คิดถึงเน้อพี่
แวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจครับ ยังติดตามและให้กำลังใจทีมงานนะครับ จากใจเสียงเล็กๆ
ดีมากเลยค่ะ...
เพิ่งทราบว่า กล้วย มักจัดเป็นของแสลงโรค ในการแพทย์แผนดั้งเดิม แต่ ไม่ทราบว่า เพราะอะไรค่ะ
สวัสดีครับผมคุณสี่ซี่
สงสัยเรื่องกินยาก่อนหลัง และการกินหมด-ไม่หมดเช่นกันครับ ^^ นั่นสิน๊า ถ้าเกเรจะยังหายป่วยมั้ย อิอิ
ขอบคุณมากนะครับ
ขอบคุณค่ะเสียงเล็กๆ
กำลังใจรับมาเต็มอ้อมแขนเลยค่ะ :)
สวัสดีค่ะคุณอำนวย สุดสวาสดิ์
ขอบคุณสำหรับกำลังใจและรอยยิ้มค่ะ
ว่าแต่ไม่ตอบคำถามสี่จริงๆ เหรอค่ะ
สวัสดีค่ะพี่Sasinand
ขอบคุณค่ะ สี่ตอบไม่ได้เช่นกันค่ะแต่อย่างไรสี่จะส่งข่าวถาม อ.หมอให้นะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะเดย์(adayday)
ได้คำตอบรึยังค่ะ
ว่าแต่เดย์ไม่ตอบคำถามหน่อยเหรอค่ะ เจ้าของบันทึกรออยู่ค่ะ
เป็นการสังเกตุ เอา บ่อยๆ ว่า ทานของเมือกๆ เสมหะ จะกำเริบ
ผมไม่มี คำตอบว่า จะอธิบายแบบวิทยาศาตร์ ว่า มีสารอะไรมาก
สารที่อาจจะ มีความเป็น เมือกๆ ในกล้วย คือ pectin และ โปตัสเซียม ซึ่งผลไม้อื่นก็มี
แต่ รสชาติ ก็เป็น สสาร และ พลังงานรูปแบหนึ่ง ที่แสดงผลต่างกันไป
เช่น ผลไม้ ที่มีpectin โปตัสเซียม ใกล้เคียง กัน แต่มีความเปรี้ยว ความหวาน ไม่เท่ากัน
จึงส่งผล ต่อ การเกิด การกำเริบ ของ เสมหะ ไม่เท่ากัน ครับ
กล้วย เข้าข่าย ไม่เปรี้ยว แต่มีความเป็นเมือก จึงแสลงเสมหะ ตามการสังเกตุ
แต่ผลนี้ไม่ได้ แสดงออก ในทุกคน
จะแสดงออก ชัดเจน ในคนอ่อนแอ คนแก่ ที่ไฟย่อยอาหารไม่ดี ไฟอุ่นกายไม่เพียงพอ
ผู้ที่ไฟอุ่นกายมากเพียงพอ ไฟย่อยอาหารมากเพียงพอ ทานกล้วยไม่มากเกินไป จะไม่เห็นผล เรื่องเสมหะในปอด โดยตรง แต่จะค่อยๆ ไปแสดงออก ทางโรคผิวหนัง
ขอบคุณค่ะอาจารย์หมอวีรพัฒน์
ขอบคุณค่ะพี่เอ๊ะ (คนพลัดถิ่น~ต้นตอ-natachoei(หน้าตาเฉย)
พี่เอ๊ะก็รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
ถ้าทานยาคู่กับนมได้ไหมคะ
เพราะเป็นคนทานยายาก ทานกับน้ำเปล่าไม่ไดคะ