สาระจากการรายงานทำให้คณะผู้เข้าประชุมเริ่มจะมีความชัดเจนในความสำคัญและความเร่งด่วนของที่จะต้องมีการประชุม สำหรับผู้เขียนเองได้ผ่านการประชุมมาแล้วในรุ่นที่ 2 ขอชื่นชมว่าเป็นการประชุมที่มีคุณค่าจริง ๆ ผู้เข้าประชุมจะได้ปฏิบัติจริง คณะหรือหน่วยงานก็จะได้เครื่องมือในการจัดการความรู้ โดยเฉพาะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และนอกจากนั้นก็ก่อเกิดความร่วมมือร่วมใจทำงานเพื่อรองรับการประเมินภายนอกจาก สมศ. และการประเมินเพื่อการจัดสรรงบประมาณและรับรางวัล (โบนัส) จาก ก.พ.ร. ซึ่งขณะนี้เวลาก็จวนเจียนเข้ามาแล้ว ……. ñ
หลังจบการกล่าวรายงาน ท่านอธิการก็รีบขอบคุณและขอโทษผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ขอโทษที่ต้องใช้เวลาของผู้เข้าร่วมประชุมในช่วงปิดเทอม ขอบคุณที่ทุกท่านเสียสละเวลาในการปฏิบัติภารกิจอื่นมาเข้าร่วมประชุม ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีความภาคภูมิใจเหลือเกินในการมาประชุมครั้งนี้ ถ้าคิดอีกแง่หนึ่ง เป็นผลประโยชน์ของผู้เข้าร่วมประชุมที่จะได้รับความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มเติม รวมทั้งการได้เปลี่ยนบรรยากาศในการเรียนรู้ ต้องขอขอบพระคุณทางทีมงานของ
มหาวิทยาลัยที่ทำให้เรามีโอกาสนี้ จากที่ฟังท่านอธิการบรรยายในพิธีเปิดการประชุมครั้งนี้ สรุปได้ถึงภาวะวิกฤติทางการศึกษา สถาบันการศึกษาทุกแห่งจึงแข่งขันมุ่งสู่การเป็นองค์กรคุณภาพ เราในฐานะที่เป็นสถาบันเก่าแก่ เคยมีชื่อเสียงมาก่อนคงจะต้องธำรงความเป็นเอกลักษณ์ต่อไป
เมี่อท่านอธิการเรียกน้ำย่อยในการทำงานแล้ว ผศ.ดร.เสทื้อน เทพรงทอง จึงนำเข้าสู่บทเรียนหลังจากที่พวกเรารับประทานอาหารว่างเช้าเรียบร้อยแล้ว ทุกคนจึงพร้อมเต็มที่สำหรับการเติมน้ำ(ความรู้)ให้เต็มแก้ว(ตัวเรา) คุณอำนวยแจ้งพวกเราให้ทราบประการแรกว่า ปัจจุบันนี้เกิดภาวะคนเกินงาน กล่าวคือเมื่อเทียบคุณภาพผลงานกับบุคลากร ปรากฏว่างานที่ได้ไม่เท่ากับจำนวนคนที่มี และอีกประการหนึ่งก็คือ ในปีนี้เราจะได้รับการประเมินภายนอกจาก สมศ. และ การประเมินจาก ก.พ.ร. โดยปกติ สมศ.จะทำการประเมินสถานศึกษา 5 ปีต่อครั้งในแต่ละรอบ
ปีที่ผ่านมาเราได้ผ่านการประเมินเพื่อยืนยันสภาพจริงมาแล้ว เป็นรอบ 5 ปีแรก รอบที่ 2 จะเป็นการประเมินเพื่อรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน เราถูกแจ็คพอตเร็วเกินไป ถ้ามีเวลามากกว่านี้เราคาดว่าเราสามารถผ่านเกณฑ์ สมศ. ได้อย่างสวยสดงดงาม ที่ว่าเร็วก็เนื่องจากว่าเราเพิ่งจะทราบเกณฑ์ สมศ.เมื่อกลางเดือนเมษายน 2549 นี้ อีกทั้งมาเราก็มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรผู้สำเร็จการศึกษาในเดือนที่ผ่านมา หากผู้ประเมินไม่คำนึงถึงบริบทเหล่านี้ของเราแล้วตัดสินผลการประเมินว่าไม่รับรอง เราก็ไม่กล้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
การแบ่งกลุ่มเราให้ทุกคนนับเลข 1-5 คนละ 1 หมายเลข เพราะจะแบ่งเป็น 5 กลุ่ม บางคนยังงงว่าจะนับยังไง คุณอำนวยของเราก็เลยนับให้ พอถึงตอนให้คนที่นับเลขเหมือนกันมาอยู่กลุ่มเดียวกันก็เกิดปัญหาว่า จำไม่ได้ว่านับเลขอะไร (คุณอำนวยเป็นคนนับให้ ฮา....)
และแล้วเราก็ได้ปฏิบัติงานกลุ่ม หลังจากที่ฟังภาคทฤษฎีและนำมาใช้เป็นเครื่องมือการทำงาน วิทยากรแบ่งกลุ่มเพื่อทำกิจกรรม “การเล่าเรื่อง” เพื่อสร้าง “ขุมความรู้” ที่จะใช้ในการเปิดตลาดนัดความรู้ ปรากฏว่าสมาชิกหลายท่านได้ช่วยกันวิพากษ์ “แก่นความรู้” ที่ทางวิทยากรกำหนดจากขุมความรู้ ซึ่งมี 5 แก่น คือ การปฏิบัติโดยผู้เรียน สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ การดำเนินกิจกรรมโดยผู้สอน การประเมินผล และการวางแผนการสอน จากนั้นพิจารณาความสอดคล้องของแก่นความรู้ต่าง ๆ สุดท้ายทุกกลุ่มก็สามารถจ่ายตลาด (เลือกแก่นความรู้) ไปทำกิจกรรมกลุ่ม “ตารางแห่งอิสรภาพ” จากการทำตารางแห่งอิสรภาพ ต่อเนื่องจนถึงการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการกำหนด “ธารปัญญา” และ “บันไดแลกเปลี่ยนเรียนรู้” ซึ่งทำให้เราได้สะท้อนตนเองว่าเราจะเป็นผู้ให้และผู้รับในแก่นความรู้อะไรบ้าง เมื่อถึงขั้นนี้เราจึงตระหนักถึงคุณค่าของตนเองว่าสี่งที่เราคิดเราทำมันก็เป็นประโยชน์อยู่บ้าง เป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ได้เหมือนกัน ก่อนพักรับประทานอาหารเย็น คุณอำนวยของเราก็ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของการเตรียมรับการประเมินของ ก.พ.ร.
ยินดีมากครับ ติดต่อที่ ม.ราชภัฏอุบล 045-352000