ตะวันโด่งแล้ว..ยายยังไม่ยอมลืมตาวันนี้(ถ้าเป็นสมัยก่อนก็จะได้ยินแ่ว่วๆมาว่า..ตะวันสายโด่งจะนอนโก่งตูดไปถึงไหน..เสียงนี้ไม่ใช่ใคร..แม่ไง)..กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นโชยมากับลมพร้อมกับเสียงแว่วใกล้หู..กาแฟจ้ะเธอเป็นเสียงเช้านี้และก็ไม่ใช่อื่นใคร..ตานั่นเอง..ยายลืมตาลุกขึ้นนั่งรับจุ๊บข้างแก้มเราร่าเริงกันวันนี้..ยายควานหาหมอนมาอิงหลังรับถ้วยกาแฟมาจิบ...นิ่ตา..ฉันได้ยินมาสองประโยคจากคนสองคน..ฉันไม่ชอบเท่าไรนักแต่เธอจะคิดอย่างไร..อันแรกครูบอกกับเด็กที่มาเขียนรูปว่า..ให้เขียนรูปที่มีจินตนาการที่ขายได้...เด็กๆร้องยี้อันที่สอง...ยายไปรับงานเขาให้ไปสอนทำอาหาร(เพราะว่ายายทำอร่อยไม่ว่าจะทำอะไรอาจจะเป็นเพราะยายชอบกุ๊กกิ๊ก)...เขาบอกยายว่าเราจะเก็บเงินค่าเรียนนะ..ต้องเก็บเงินมิฉะนั้นคนที่มาเรียนเขาจะไม่เห็นคุณค่า...ตาให้ความเห็นเราคุยกันยืดยาวในเรื่องนี้..เรื่องมาจบลงตรงที่ยายต้องรีบไปทำธุระเร่งด่วนก็เลยขาดตอนไป
สวัสดีค่ะ
ว้าว คุณยายธีขาความโรแมนติคน่ารักของคุณตานี่น่าชื่นชมนะคะ
เรื่องการให้อะไรฟรีๆแล้วคนไม่เห็นคุณค่านี่เป็นจริงกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์นะคะ คนสมัยนี้อัตตาเยอะหากได้คุยว่าซื้อหาหรือทำอะไรที่ใช้เงินมากแล้วรู้สึกโก้
นุชว่าคนจะเห็นคุณค่าของของฟรีก็ตอนที่เขากำลังลำบากเข้าตาจนและได้รับสิ่งของหรือการกระทำนั้นๆมาช่วยเขาไว้
สวัสดีค่ะ..ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ..ยายธีมีประสพการณ์หนึ่งเรื่องเล่าเรียน(เรียนฟรี)ยายธีเห็นคุณค่าของการเรียนฟรีก็คือตอนมาอยู่ต่างประเทศเราต้องหาเงินโดยไปทำงานเวลาหมดไปกว่าจะได้เงินมาเป็นค่าอยู่ค่ากินค่าเรียน..มีเงินไม่มีเวลาไปเรียน..จะไปเรียนก็ไม่มีเงินเสียแล้ว..(คิดย้อนไป..เห็นพระคุณพ่อแม่เป็นที่สุด..เมื่อตอนเรียนเมืองไทยน่ะแสนสบายแค่ไหน)..ที่เยอรมันเรียนเซรามิค..เรียนฟรีมีค่าใช้จ่ายเพียงค่าธรรมเนียมต่อปีประมาณห้าหกเรียญสมัยนั้น(ประมาณสามสิบกว่าบาทต่อปี)..เรียนเมืองไทยตอนไปสอนแผนกนี้ถามนักศึกษา..เขาว่าเทอมละไม่ต่ำกว่าแสนบาท..ราคานี้สิบกว่าปีมาแล้ว..เดี๋ยวนี้อาจจะมากกว่านี้..ไม่สงสัยว่าทำไมบ้านเราถึงมีคอร์รับประทานสูง..หรือพ่อแม่ขายที่ทำกิน..เอาบ้านไปจำนำ..เมื่อหมุนเงินไม่ทันส่งลูกเรียน..ยายธีก็เป็นคนโบราณที่ยังเห็นคุณค่าของการเรียนฟรี..ยิ่งสิ่งใดที่มีมาจากใจ(ครูบาอาจารย์พ่อแม่)ให้มาโดยไม่มีสิ่งทดแทนที่เรียกว่าเงิน นั้นมีค่ากว่าสิ่งใดๆ
ในเมื่อเงินถูกปลูกฝังทุกวินาทีเสียแล้ว...สองประโยคที่ยายธีได้ยินก็มีขึ้นทุกพื้นที่ เราจะเริ่มกันแก้ไขกันตรงไหนดีคะ
สวัสดีค่ะคุณkumfun..เราจะเริ่มกันแก้ไขตรงไหนดี...ตอบไม่ได้ค่ะแต่มีความคิดว่าเมื่อเป็นเด็กชอบเล่นงูกินหางเลยเกิดเป็นนิสัยชอบวิ่งวน..กินหัวกินหาง..วนกันอยู่ตรงนี้เหมือนกับคำถามที่ว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดี..ในวงกลมมักจะเริ่มต้นได้เสมอ..ตรงไหนก็ได้ขอให้เริ่มแล้วกัน..อิอิ