นาง ตูซา อายุ 24 ปี ที่อยู่ ซอยระนองธานี 2 คนไข้มารับบริการครั้งแรกด้วยอาการปวดท้อง ขอรับยาที่หน่วยปฐมพยาบาลฯ เจ้าหน้าที่ให้ยาไป 2 อย่าง หลังจากนั้นทีมเจ้าหน้าที่ไปติดตามเยี่ยมอาการเขาที่บ้าน พบว่า คนไข้มีอาการปวดท้องรุนแรง อาเจียน ไม่สามารถลุกได้ เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้คนไข้ไปโรงพยาบาลระนอง ญาติของคนไข้แจ้งว่าไม่มีใครกล้าไปโรงพยาบาลเพราะกลัวเรื่องค่าใช้จ่าย เจ้าหน้าที่จึงแนะนำญาติของคนไข้ว่าควรพาคนไข้ไปโรงพยาบาลก่อนเรื่องค่าใช้จ่ายให้มาจัดการในภายหลัง เนื่องจากคนไข้มีอาการปวดท้องมาก หลังจากนั้น ทีมเจ้าหน้าที่ได้ไปติดตามอาการของคนไข้ที่โรงพยาบาลระนอง แพทย์ตรวจอาการและวินิจฉัยว่าคนไข้อาจจะเป็นไส้ติ่ง จึงต้องให้คนไข้นอนที่โรงพยาบาล ทีมเจ้าหน้าที่จึงเดินทางกลับและไปติดตามอาการคนไข้ในวันรุ่งขึ้น ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นพยาบาลที่อยู่เวรแจ้งว่าคนไข้จำเป็นต้องผ่าตัดด่วนและแพทย์ได้ผ่าตัดไส้ติ่งแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้คนไข้กำลังตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2 เดือน เมื่อได้พูดคุยกับคนไข้ พบว่าคนไข้วิตกกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวการรักษาจนนอนไม่หลับมีไข้สูงและมีอาการปวดบริเวณแผลที่เย็บ ลุกไม่ไหว กินอะไรก็ไม่ได้ ร้องไห้และระบายความรู้สึกให้ฟัง เราจึงให้กำลังใจคนไข้ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ทางหน่วยปฐมพยาบาลจะช่วยออกให้บางส่วน คนไข้มีอาชีพเก็บของเก่าขายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวและลูก 4 คนและกำลังท้องลูกคนที่ 5 คนไข้จึงมีฐานะค่อนข้างลำบากในการที่ดูแลชีวิตครอบครัวให้ดำเนินไปในแต่ละวัน ทีมเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมคนไข้ที่โรงพยาบาลทุกวัน ทำให้คนไข้มีกำลังใจหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น เมื่อครบ 3 วันคนไข้มีอาการดีขึ้น ไข้ลดลง ทานอาหารได้บ้าง พูดคุยได้มากขึ้น เมื่อเห็นคนไข้ดีขึ้นทุกคนก็ดีใจ ฉันแนะนำให้คนไข้เก็บเงินเพื่อที่จะได้ฝากครรภ์ เมื่อถึงกำหนดคลอดจะได้ไม่ลำบากแนะนำให้คนไข้ทำหมันเพราะมีลูกหลายคนแล้ว และแนะนำให้คนไข้กินอาการอ่อน ๆ ไม่ยกของหนักให้พักผ่อนสัก 2-3 เดือน หลังจากนั้นคนไข้มีอาการดีขึ้นแพทย์ให้กลับบ้านทีมเจ้าหน้าที่ของเราตามไปเยี่ยมคนไข้ที่บ้านและพูดคุยกับญาติเรื่องที่ไม่ให้คนไข้ไปทำงานหนักในช่วงนี้ คนไข้ดีใจและแผลที่ผ่าตัดก็ดีขึ้นมาก เมื่อถึงวันที่คนไข้ต้องตัดไหมเราพาคนไข้ไปตัดไหม คนไข้บอกว่าไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณอย่างไรชีวิตเขาถ้าพวกเราไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือคงไม่มีชีวิตอยู่ได้ถึงตอนนี้ พวกเราจึงตอบกลับไปว่าไม่จำเป็นต้องตอบแทนบุญคุณพวกเรา ขอแค่เขาดูแลตัวเองและลูก ๆในครอบครัวของเขาให้ดีก็พอแล้ว พวกเราเห็นครอบครัวเขามีความสุขมีสุขภาพที่ดีเราก็พอใจแล้ว เวลาคนไข้กับลูกของเขาเดินมาเก็บขยะและผ่านหน้าหน่วยปฐมพยาบาลเขาก็ยิ้มให้ทีมเจ้าหน้าที่ของเรา ซึ่งบางครั้งเราก็เอาเศษกระดาษลังเก่า ๆ ให้กับคนไข้ไป
หน่วยปฐมพยาบาล คามิลเลียน โซเชียล เซนเตอร์ ระนอง
ไม่มีความเห็น