การบริหารการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา


การบริหารการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา

การบริหารการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา

ผู้เขียนบทความ  : ครูฌอง | November 30, 2007 |


          การเปลี่ยนแปลงการบริหาร Management Change  คือ วิวัฒนาการของแนวคิดทางการบริหารตามภาวการณ์ต่างๆ  อาทิ  การบริหารแนววิทยาศาสตร์  มนุษยสัมพันธ์  เชิงระบบและตามถานการณ์  ภาวการณ์ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามบริบท (Context) ของสังคม  ทั้งด้านเศรษฐกิจ  การเมือง  สังคม  สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ฯลฯ  เป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งต้องบริหารแบบรู้เท่าทัน  ทันการณ์  มีวิสัยทัศน์  โดยใช้พื้นฐานความรู้เดิมเป็นตัวตั้ง  แล้วนำมาวิเคราะห์เรียบเรียง  เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจ  แล้วจัดการกำจัดจุดอ่อน  และเพิ่มจุดแข็ง  ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management)”

รูปแบบการบริหารการเปลี่ยนแปลง  ในการบริหารการเปลี่ยนแปลง  ต้องมีการพัฒนาองค์กร  ซึ่งมีรูปแบบวิธีการที่ดีอย่างน้อย 3 รูปแบบ  ดังนี้

1.       รูปแบบ 3 ขั้นตอน  ตามแนวคิดของ Kurt Lewin  ประกอบด้วย  การคลายตัว (unfreezing) เนื่องจากเกิดปัญหาจึงต้องเปลี่ยนแปลง  การเปลี่ยนแปลง (changing) คือ  การเปลี่ยนจากพฤติกรรมเก่า  ไปสู่พฤติกรรมใหม่  และการกลับคงตัวอย่างเดิม (refreezing) เพื่อหล่อหลอมพฤติกรรมใหม่ให้มั่นคงถาวร

2.       รูปแบบ 2 ปัจจัย  ตามแนวคิดของ Larry Greiner  ที่เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดจากแรงบีบภายนอก  กับการกระตุ้นผลักดันภายใน  เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงมีอยู่ตลอดเวลา  ปัจจัยทั้งสองเกิดขึ้นตลอดเวลา  จึงต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงโดย ศึกษาการเปลี่ยนแปลง  ค้นหาวิธีการที่ดีกว่า  ทดลองวิธีใหม่  หล่อหลอมข้อดีเข้าด้วยกัน  เพื่อบริหารการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ

3.       รูปแบบผลกระทบของปัจจัย  ตามแนวคิดของ Harold J. Leavitt  ที่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดจากผลกระทบที่เกิดขึ้นตลอดเวลาของ  งาน  โครงสร้าง  เทคนิควิทยาการ  และคน  ทั้ง 4 ประการนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็จะส่งผลกระทบเกี่ยวพันกัน  และการเปลี่ยนแปลงบางเรื่องอยู่เหนือการควบคุม  ดังนั้นผู้บริหารจึงต้องสนใจสิ่งที่เปลี่ยนแปลง  สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลง  และผลกระทบที่เกิด  หรือจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของแต่ละปัจจัย

 

แนวโน้มของกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับองค์การ

1.       ด้านโครงสร้าง (Structure)  

2.       องค์ประกอบของประชากร (Demographic)

3.       เกิดจริยธรรมใหม่ของการทำงาน (New work ethic)

4.       การเรียนรู้และองค์ความรู้ (Learning and knowledge)  

5.       เทคโนโลยีและการเข้าถึงสารสนเทศ (Technology and access to information)

6.       เน้นเรื่องความยืดหยุ่น (Emphasis on flexibility)  

7.       ต้องพร้อมเผชิญต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว (Fast-paced change) 

สิ่งที่ต้องพิจารณาเปลี่ยนแปลงในองค์การ

1.       เป้าหมายและกลยุทธ์

2.       เทคโนโลยี (Technology)

3.       การออกแบบงานใหม่ (Job redesign)  

4.       โครงสร้าง (Structure)  

5.       กระบวนการ (Process)  

6.       คน (People) 

ผู้บริหารที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่คุณภาพการศึกษา

1.       เป็นผู้นำวิสัยทัศน์( visionary Leadership ) และสามารถกระจายวิสัยทัศน์ไปยังบุคคล ต่าง ๆ ได้

2.       ใช้หลักการกระจายอำนาจ ( Empowerment ) และการมีส่วนร่วม ( Participation )

3.       เป็นผู้มีความสัมพันธ์กับบุคลากร ทั้งภายในและนอกองค์กร

4.       มีความมุ่งมั่นในการทำงาน

5.       ผู้นำคุณภาพจะต้องมีความรู้ความสามารถในการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีและใช้ข้อมูลสถิติ ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ

6.       ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือลูกน้อง

7.       ความสามารถในการสื่อสาร

8.       ความสามารถในการใช้แรงจูงใจ 

9.       เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ( Chang Leadership )

ความท้าทายการเปลี่ยนแปลง (Challenges of Change)
          องค์การที่มีโครงสร้างองค์การชนิดที่มีสายการบริหารหลายขั้นตอนหรือสั่งการหลายชั้นภูมิจะอยู่รอดได้ยาก  ในอนาคตองค์การต่าง ๆ ต้องประสานความร่วมมือกันโยงใยเป็นเครือข่าย  ในขณะเดียวกันโครงสร้างภายในองค์การก็จะต้องกระจายความสามารถในการตัดสินใจให้กับกลุ่มงานต่าง ๆ ให้มากที่สุด  และมีลำดับชั้นการบริหารน้อยที่สุด  และต้องเปลี่ยนแปลงองค์การเพื่อรองรับและก้าวให้ทันความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี  สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้  ล้วนเป็นสิ่งท้าทายและมีอิทธิพลต่อความอยู่รอดขององค์การในศตวรรษที่ 21 เป็นอย่างมาก (ธวัช  บุณยมณี, 2550) 

แรงกดดันที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (Force for Change)  Robbins (1996,  อ้างถึงใน  ธวัช  บุณยมณี, 2550: 142-144)  ได้สรุปให้เห็นถึงปัจจัยกระตุ้น  หรืแรงกดดันที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง  ดังนี้

1.       ลักษณะของแรกกดดันจากงาน (Nature of the work force)  เช่น  ความหลากหลายทางวัฒนธรรม  ความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ  

2.       เทคโนโลยี (Technology)  เช่น  ความเจริญก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์  แนวคิดเรื่องการจัดการคุณภาพ  การปฏิรูปองค์การ

3.       ความชะงักงันทางเศรษฐกิจ (Economic Shocks)  เช่น  การตกต่ำของตลาดหลักทรัพย์  การแกว่งตัวของอัตราดอกเบี้ย

4.       การแข่งขัน (Competition)  เช่น  การแข่งขันแบบโลกาภิวัตน์  การรวมตัวกันของกลุ่มต่างๆ

5.       แนวโน้มของสังคม (Social Trends)  เช่น  การเข้าสู่สถาบันระดับอุดมศึกษามากขึ้น  การชะลอการต่างงาน

6.       การเมืองของโลก (World Politics)  เช่น  การเปิดประเทศ  ความขัดแย้งหรือการรุกรานกันของประเทศต่างๆ

แบบจำลองภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง  รูปแบบการเปลี่ยนแปลงสามารถจำแนกออกเป็น  3 ลักษณะ  คือ  การเปลี่ยนแปลงจากบนลงล่าง  จากล่างขึ้นสู่เบื้องบน  และแบบบูรณาการ (Schermerhorn, 2002:480 อ้างถึงใน  ธวัช  บุณยมณี, 2550)

1.       การเปลี่ยนแปลงจากบนลงล่าง (Top-Down Change)  เป็นการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงที่มาจากผู้บริหารระดับสูง  ความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับ  ความสมัครใจหรือความเต็มใจของพนักงานระดับกลางและระดับล่าง  ทางธุรกิจเรียกว่า  ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงแบบอี (Theory E Change)

2.       การเปลี่ยนแปลงจากล่างขึ้นบน (Bottom-Up Change)  เป็นการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงที่มาจากทุกระดับในองค์การและได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับต้นและระดับกลางในฐานะที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง  ทางธุรกิจเรียกว่า  ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงแบบโอ (Theory O Change)

3.       การบูรณาการภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Integrated Change Leadership)  เป็นการนำประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงจากบนลงล่างและจากล่างขึ้นบนมาใช้  การริเริ่มจากระดับบนมีความจำเป็นในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงแบบแผนดั้งเดิม  การริเริ่มจากระดับล่างเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างความสามารถของสถาบันเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

 

 

หมายเลขบันทึก: 271427เขียนเมื่อ 27 มิถุนายน 2009 13:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 19:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

หวัดดีจ้าเข้ามาเยี่ยม

สวัสดีคับครูต้อยมีความรู้เรื่องการบริหารการเปลี่ยนแปลงแนะนำผผมหน่อยคับ

๐๘๔๐๓๗๕๙๙๘

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท