นิราศครูกลอนสุนทรภู่


 

                                                             นิราศถ้อยร้อยความตามรอยสาร

เรียนรู้รสบทครูภู่เกริกกานท์                          ติดรสตาลหวานล้นจนแกะรอย

แกะเมืองแกลงแหล่งแรกเริ่มแตกหนุ่ม            เดินดงดุ่มตามบิดามิล้าถอย

ได้พบปะหลายปีที่รอคอย                              แต่เลื่อนลอยเพราะมารดาต้องมาไกล

"ชะรอยกรรมทำสัตว์ให้พลัดพราก"             สามชีวิตจำจากด้วยเงื่อนไข

ฝากเรื่องราวพัทยาคราพงไพร                         ก่อนศิวิไลซ์เปลี่ยนชัฏเป็นพัทยา

ไปพระบาทวาดคำจำแจ่มจิต                          ฝากแง่คิดด้วยตาลผ่านภาษา

หากคบคนคำหวานพาลเจ็บมา                        ต้องรักษาช้ำฟกเหมือนตกตาล

 ภูเขาทองมองเศร้าคราวตกอับ                     คนแวดล้อมลี้ลับเสียงขับขาน

สิ้นแผ่นดินสิ้นรสสุคนธมาลย์                        สิ้นโปรดปรานอุปถัมภ์คอยค้ำจุน

ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์                           มีคนรักรสถ้อยคอยเกื้อหนุน

แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายคุณ                           จะเป็นบุญบาปเกาะเพราะพูดจา

นิราศวัดเจ้าฟ้าพาสงสัย                                 สุนทรภู่เขียนหรือไม่ใคร่ค้นหา

หรือหนูพัดหัดตามรอยบิดา                              คราอำลานิเวศเชตุพน

 พอออกเรือเมื่อตะวันสายัณห์ย่ำ                   ละอองน้ำค้างย้อยเป็นฝอยฝน

ตะลึงเหลียวเปลี่ยวเปล่าเมื่อคราวจน             มีแต่คนร้างลาพาเร้ารอน

"ถึงต้องง้าวหลาวแหลนสักแสนเล่ม              ให้ติดเต็มตัวฉุดพอหลุดถอน

แต่ต้องตาพาใจอาลัยวรณ์                          สุดจะถอนทิ้งขว้างเสียกลางคัน"

นิราศอิเหนาร้างเร่เสน่หา                               พระพายพรากบุษบาพาโศกศัลย์

เฝ้าติดตามถามองค์เทพเทวัญ                          เจ็ดเดือนผันผ่านไปไม่พบพาน

"เสียงสินธุดุดั้นลั่นพิลึก                                สะท้านสะทึกโถมฟาดฉาดฉาดฉาน

ที่น้ำโจนโผนพังดังสะท้าน                           บ้างพุซ่านสาดสายสุหร่ายริน

คะนึงถึงนุชบุษบาแม้นมาเห็น                       จะลงเล่นลำธารละหานหิน

ฝูงปลาทองท่องไล่เล็มไคลกิน                       กระดิกดิ้นดูงามตามกระบวน

ปลาเนื้ออ่อนอ่อนกายขึ้นว่ายเกลื่อน               ไม่อ่อนเหมือนเนื้อน้องประคองสงวน

ปลานวลจันทร์นั้นก็งามแต่นามนวล               ไม่งามชวนชื่นเช่นระเด่นดวง"

นิราศสุพรรณสรรโคลงสี่มีลูกเล่น                     สัมผัสในโดดเด่นเน้นทุกห้วง

 "จำใจจากพรากนุชดุจแตกทรวง                 ฟ้าฟาดดวงใจสลายใต้โทษกร"

"สงสารสายเนตรน้องนองชล                        ลเนตรพี่เพียงฝอยฝนทุกข์ค่อน"

"บอนปากยากจะแก้ไม่สิ้นลิ้นบอน"               "เนื้ออ่อนห่อนซู่เนื้อนวลน้องหญิงงาม"

นิราศประธมคมคำสรร                                  "ถวิลวันจันทร์ทิวาขึ้นห้าค่ำ

ลงนาวาคลาเคลื่อนออกเลื่อนลำ                    พอเสียงย่ำยามสองกลองประโคม

น้ำค้างย้อยพรอยพรมเป็นลมว่าว                  อนาถหนาวนึกเคยได้เชยโฉม

มาลับเหมือนเดือนดับพยับโพยม                  ยิ่งทุกข์โทมนัสในใจรัญจวน  "

  "น้ำค้างพรมลมชายระบายโบก                 หอมดอกโศกเศร้าสร้อยละห้อยหวน

เหมือนโศกร้างห่างเหเสน่ห์นวล                    มาถึงสวนโศกช้ำระกำทรวง

เห็นรักน้ำคร่ำคร่าไม่น่ารัก                          จะเด็ดหักเสียก็ได้เขาไม่หวง

แต่ละต้นผลลูกดังผูกพวง                            ก็โรยร่วงเปล่าหมดไม่งดงาม

เหมือนรักคนคนรักทำยักยอก                      จะเก็บดอกเด็ดผลคนก็ขาม

แม้นยางลูกถูกหัตถ์ก็กัดลาม                       เหมือนรำรามรักรายริมชายพงฯ"

 นิราศเมืองเพชรเกร็ดชวนคิดปริศนา              เรื่องเวลาย้อนหายังพาหลง

ไปทำไมกับใครให้งวยงง                                ก็ยังคงทิ้งปริศนาอย่างท้าทาย

 เพียงเกริ่นกล่าวคราวอาสาพาคิดย้อน              "โอ้รอนรอนอ่อนแสงพระสุริย์ฉาย

ท้องฟ้าคล้ำน้ำค้างลงพร่างพราย                 พระพายชายชื่นเชยรำเพยพาน

อนาถหนาวคราวอาสาเสด็จ                        ไปเมืองเพชรบุรินที่ถิ่นสถาน"

 นิราศรักคมถ้อยรอยถิ่นตาล                            คมคำขานลีลาภาษางาม

"ลำเจียกเอ๋ยเคยชื่นระรื่นรส                         ต้องจำอดออมระอาด้วยหนาหนาม

ถึงคลองเตยเตยแตกใบแฉกงาม                   คิดถึงยามปลูกรักมักเป็นเตย

จนไม่มีที่รักเป็นหลักแหล่ง                           ต้องคว้างแคว้งคว้าหานิจจาเอ๋ย

โอ้เปลี่ยวใจไร้รักที่จักเชย                           ชมแต่เตยแตกหนามเมื่อยามโซ"

เล่าเรื่องลิงยิ่งมองเห็นเช่นเดี๋ยวนี้                     ลิงวิ่งรี่เสนอหน้ามาอะโข

 เกาะกอดแม่ท้องกิ่วหิวพุงโร                          ทั้งเล็กโตแย่งยื้อจากมือเลย

"โอ้พ่อแม่แต่ชั้นลิงไม่ทิ้งบุตร                     เพราะแสนสุดเสน่หานิจจาเอ๋ย

ที่ลูกอ่อนป้อนนมนั่งชมเชย                        กระไรเลยแลเห็นน่าเอ็นดู"

เรื่องของปูครูเล่าเร้าใจล้น                            เหมือนได้ยลชิดใกล้ได้เห็นอยู่

ระบบนิเวศเชี่ยวชาญเช่นกานท์ครู                    สุนทรภู่คือนักปราชญ์ศาสตร์ครบครัน

"โอ้เอ็นดูปูไม่มีซึ่งศีรษะ                              เท้าระกะก้อมโกงโม่งโค่งขัน

ไม่มีเลือดเชือดฉะปะแต่มัน                          เป็นเพศพันธุ์ไร้ผัวเพราะมัวเมา

แม้นเมียออกลอกคราบไปคาบเหยื่อ             เอามาเผื่อภรรยาเมตตาเขา

ระวังดูอยู่ประจำทุกค่ำเช้า                           อุตส่าห์เฝ้าฟูมฟักเพราะรักเมีย

ถึงทีผัวตัวลอกพอออกคราบ                       เมียมันคาบคีบเนื้อเป็นเหยื่อเสีย

จึงเกิดไข่ไร้ผัวเที่ยวยั้วเยี้ย                          ยังแต่เมียเคลื่อนคล้อยขึ้นลอยแพ

สมเพชสัตว์ทัศนาพฤกษาสล้าง                    ล้วนโกงกางกุ่มแกมแซมแสม

สงัดเหงาเปล่าเปลี่ยวเมื่อเหลียวแล               เสียงแอ้แจ้จักจั่นหวั่นวิญญาณ์ฯ

  ถึงคลองนามสามสิบสองคดคุ้ง                  ชะวากวุ้งเวียนซ้ายมาฝ่ายขวา

ให้หนูน้อยคอยนับในนาวา                          แต่หนึ่งมาถ้วนสามสิบสองคด

อันคดอื่นหมื่นคดกำหนดแน่                        เว้นเสียแต่ใจมนุษย์สุดกำหนด

ทั้งลวงล่องอเงี้ยวทั้งเลี้ยวลด                        ถึงคลองคดก็ยังไม่เหมือนใจคนฯ"

กว่าสองร้อยขวบปีที่ครูพราก                            คมคำฝากกินใจในทุกหน

รอยนิราศหยาดหยดรสหวานล้น                        ไร้รอยชนชาญเห็นเช่นเฉกครู

ขอคุณครูนักปราชญ์นิราศรัก                            สู่ห้วงพักสรวงสวรรค์ชั้นเพริศหรู

รักพรั่งพร้อมล้อมนางฟ้าโฉมตราตรู                   อย่าหดหู่เช่นบั้นปลายก่อนวายชนน์

จงสุขศานต์ขับเพลงพิณ ณ ถิ่นสรวง                 เทพทั้งปวงหลงใหลในเวหน

เหล่าอัปสรพร้อมพรั่งดั่งต้องมนต์                     ขอมรรคผลสู่ฉิมพลีวิมานเอย

หมายเลขบันทึก: 271203เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2009 13:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

IN RUSSIA HAVE ONE THE SAME OUR POET (SOONTONPOO) 200YRS AGO

นิราศร้างห่างไห้อาลัยหวน

สองร้อยปีจากไปไทยคร่ำครวญ

เฝ้าโหยหวนโหยหาวิชากลอน

แม้ตัวตายชื่อยังยั่งยืนอยู่

สุนทรภู่ฝากกานท์เป็นงานสอน

คล้ายผูกพันห่วงหาเอื้ออาทร

ล่วงไปก่อนกลอนยังอยู่"ภู่"เกริกไกร

แวะมาซึมซับบทกลอนที่เรียงร้อยให้บรมครูกลอนสุนทรภู่

เยี่ยมครับ

สวัสดีค่ะคุณ  niran   ผอ บวร  และ คุณสมาร์ท เปรมการ 

ขอบคุณที่แวะมาร่วมย้อนรอยนิราศค่ะ 

ยี่สิบหกมิถุนาเวียนมาครบ

น้อมเคารพครูกลอนอักษรสาส์น

บรมครู"สุนทรภู่"ครูแห่งกานท์

ผู้ผลงานลือเลื่องกระเดื่องแผ่นดิน

อันอ้อยตาลหวานซึ้งนำผึ้งสด

จืดกว่ารสอักษราภาษาศิลป์

นิราศทั้งเก้าเรื่องเรืองระบิล

เห่กล่มจินต์สี่ฉบับขับกล่อมกรรณ

นิทานห้าเสภาสองสนองจิต

สุภาษิตสามเรื่องประเทืองขวัญ

อภัยนุราชบทละครตอนสำคัญ

มีอยู่หนึ่งเช่นกันละครงาน

สวัสดีค่ะ หนุ่มเมืองดาบ  ขอคุณมากๆค่ะที่มาร่วมระลึกถึงครูกลอนสุนทรภู่ 

ขอคาราวะครูกลอนสุนทรภู่

ผู้รอบรู้ศาสตร์อักษรกลอนนิราศ

ยูเนสโก้ยกท่านยอดนักปราชญ์

ช่วยประกาศประเทศไทยให้เฉิดฉาย

26 มิ.ย. 52 นี้

ครบรอบปีสุนทรภู่พรรณราย

ครูภาทิพสรรเสริญได้ซึ้งใจ

ทำให้ไทยทุกคนระลึกครู

ครูศรีนวน แสนทนันชัย

กลอนครูเพราะมากคะ

ขอกราบบรมครูกลอนท่านสุนทรโวหาร

มีเรื่องราวกล่าวขวัญในตำนาน ต่างวิจารณ์กันไปในนานา

ทั้งเรื่องดีเรื่องชั่วทั่วทุกเรื่อง อาจขัดความขุนเคืองเรื่องปัญหา

ลูกจึงขอกราบถวายกายขมา โปรดอภัยข้าผู้ร่ำเรียน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท