จริงหรือที่ว่า - ปราชญ์..แพ้..คนหน้าด้าน?!


 

เคยได้ฟังคำคมแสบๆ คันๆ จากนักกฎหมายคนหนึ่ง เขาบอกว่า

 

"ปราชญ์แพ้คนหน้าด้าน"

 

โดยมีเรื่องเล่าประกอบว่า บางครั้งที่ต้องไปอยู่ในวงเสวนากับบางคนที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายน่าสงสัย

แต่คนๆ นั้นก็ตะแบงไปเรื่อยๆ แบบว่าเอาสีข้างเข้าถู....

แถมยังอาจใช้กลเม็ดพวกมาก...ก็ลากกันไป

คนที่ใช้เหตุผลก็โดนลดความน่าเชื่อถือโดยถูกโจมตีมุมโน้นมุมนี้

 

ยิ่งพวกตะแบงนี่ก็วางมาดนิ่งๆ ดูน่าเชื่อถือ...

บางทีก็ทำให้คนที่รู้ทัน (แต่พูดออกมาไม่ได้ เช่น ไม่อยากมีคดีฟ้องร้องเป็นเรื่องราว) ถึงกับฮึด

หลุดอารมณ์เสียออกมา

ก็ทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงไป...

 

กลายเป็นว่าคนที่พูดความจริง แต่หลุดใช้อารมณ์ - ไม่ค่อยมีคนเชื่อ

ส่วนคนที่พูดจริงบ้าง เท็จบ้าง แต่นิ่งๆ ดูดีมีชาติตระกูล - มีคนฟังเยอะ

 

เป็นงั้นไป!

 

บันทึกนี้เขียนขึ้นเพราะรู้สึกว่าตัวเอง

แม้จะไม่ใช่ปราชญ์

แต่อาจสุ่มเสี่ยงตกอยู่ในสถานการณ์ทำนองเดียวกัน

เพราะคนที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคมนั้น

ดันมีคนเชื่อถือเยอะ (เข้าข่ายเจ้าลัทธิทีเดียว!)

แถมมีนายทุนใหญ่หนุนหลังอีกต่างหาก...

 

ทำยังไงดีเน้อ?

(รำพึง)


 

 

หมายเลขบันทึก: 269938เขียนเมื่อ 22 มิถุนายน 2009 10:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 03:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

พบได้มากตามพันทิพและ manager ค่ะพี่ ไม่ได้ใส่ความ แต่มันเป็นจริง ยกตัวอย่างเช่น หนังสือวิชาการที่คนซี้ซั้วเขียนแล้วคนเชื่อเยอะ พอมีคนลุกขึ้นนำความจริงมาแสดงกลับกลายเป็นบางครั้งคนที่เอาความจริงมาบอกซวยซะอีก เพราะคนที่เขียนมีคนสนับสนุนแบบโง่ๆ เยอะ อ่านแล้วเชื่อเลย เพราะเคยอ่านเล่มเดียว แบบนี้มีให้เห็นบ่อยค่ะ

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วให้นึกถึงหนังสือบางเล่มค่ะ

ไม่ต้องแจงชื่อ คนวงใน และมีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ ก็รู้ดี...

ได้แต่คอยชี้แจงคนใกล้ตัว เพื่อน หลาน พี่  ๆ บางคนที่พอจะบอกได้...ยังถูกย้อนกลับว่า รู้มากกว่าเขาหรือ...ได้แต่ทำตาปริบ ๆ บางเรื่องไม่กล้าบอกว่ารู้มากกว่า เพราะไม่รู้จริง แต่เรื่องที่บอกได้ว่าไม่ใข่ ก็มีให้เห็นอยู่...นี่นา

ถือเสียว่า...ใครทำอะไร รู้อยู่แก่ใจ...และจะได้รับผลแห่งการกระทำนั้นด้วยตัวเอง....สักวัน

(^___^)

สวัสดีครับ ซูซาน Little Jazz

         อืมม...ทั้งสองแห่งคือ Pantip และ manager นี่ เป็นสถานที่อโคจรสำหรับพี่ครับ อันหล้งนี่เคยโดนด่าฟรีด้วย (แม้จะไม่มาก แต่ก็ทำให้เลิกเข้าไปเลย ;-))

         กลยุทธ์พวกมากลากไปนี่ใช้ได้ผลเสมอครับ ส่วนเราถ้าเป็นฝ่ายน้อยกว่า ครั้นจะหาใครเป็นเพื่อน ปรากฏว่าคนอื่น (ที่ฉลาด + เฉลียว กว่าเรา) ดันเผ่นไปก่อนแล้ว!

         ขอบคุณมากครับที่แวะมาให้กำลังใจ ^__^

สวัสดีครับ คุณ คนไม่มีราก

        ถูกต้องที่สุดครับ เรื่องที่ไม่ใช่แน่ๆ มีให้เห็นตำตา ก็ยังมีคนหลงเชื่อกันอยู่ได้ น่าทึ่งทีเดียวครับ สังคมไทยนี่

        ผมว่าน่าห่วงตรงที่ว่า แม้แต่คนที่ชอบอ่านหนังสือ แต่ก็ยังไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันทางปัญญาเท่าที่ควร (อ้นนี้ว่าตัวเองด้วย เพราะบางครั้งก็เผลอเชื่ออะไรไปง่ายๆ เหมือนกัน ;-))

        เมื่อวานนี้ผมเหลืออดครับ หลังจากที่เจอลูกตะแบง ไม่รู้ตัวว่าทำความเสียหายให้ภูมิปัญญาคนที่ไม่รู้เท่าทัน เลยตูมใส่คู่กรณีไปว่า

        "คุณปฏิบัติธรรมประสาอะไร....แต่กลับไม่ซื่อตรงต่อความจริง"

        (แรงไปหรือเปล่าหว่า...อิอิ)

        ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ เดี๋ยวจะนำภาพไปฝากบ้าง ;-)

เคยได้ยินเรื่องคล้ายกันนี้

แต่เปลี่ยนหัวเรื่องเป็น "ปราชญ์"กับ"เปรต"

น่าจะพอเทียบเคียงได้

เพราะชื่อว่า"เปรต"แล้วก็หน้าด้านเหมือนกัน

ต่ำกว่าเดรัจฉาน ด้านกว่าสัตว์นรก เที่ยวเร่ร่อนเกาะบุญคนอื่นกิน

ทำตัวเป็นกาฝากสังคม หรือพูดว่ากาฝากภพภูมิอื่นคงได้

ที่กล่าวมานี้มุ่งให้เรามองตัวเอง พิจารณาว่าตัวเราให้อะไรแก่สังคมบ้าง

แน่นอนว่ามนุษย์เราล้วนแต่มีความเห็นแก่ตัวแบบเปรต

แต่หน้าด้านให้มีขอบเขตจะได้ไหม

ขอเป็นกำลังใจให้ดร.บัญชา มีกำลังสู้มวลหมู่"เปรต"ต่อไป

สวัสดีครับ คุณ 'คนเห็นด้วย'

       ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ผมกำลังรวบรวมและขัดเกลาแง่มุมทางวิชาการให้เข้มแข็ง ก๋อนออกไปเจอกับขบวนการบิดเบือนข้อเท็จจริงพวกนี้

       ต้องจับให้ได้แบบ "ดิ้นไม่หลุด" ครับ...เขาถึงจะยอม...

       เรื่องนี้ได้ใช้เมตตาธรรมไปแล้ว พบว่า 1 ปีผ่านไป เขายังเหมือนเดิมครับ...แต่ก็เข้าใจได้ครับ ชื่อเสียงกับผลประโยชน์ที่ได้มามันคุ้มที่จะด้านต่อไป...

       ใช้คำว่า "เปรต" อาจจะแรงไปนิดครับ เพราะเขาก็ยังเป็นปุถุชนอยู่ เพียงแต่กิเลสหนามาก....ขนาด (อ้างว่า) ปฏิบัติธรรมแล้วนะเนี่ย

       ขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับกำลังใจ ^__^

มีเยอะค่ะพวกที่ชอบแสดงตัวว่าปฏิบัติธรรม แต่เมื่อใช้จิตสัมผัสแล้วไม่ใช่แก่นธรรม เป็นเพียงรูปที่เขาสร้างขึ้น สิ่งที่อาจารย์พบ จะทำให้อาจารย์มองเห็นมิตรแท้ในกระแสลวงของเขาผู้นั้น เพราะกัลยาณมิตรของเราอย่างแท้จริงจะดูออก ว่าอะไรคือแก่น อะไรคือกระพี้ ให้กำลังใจนะคะ

สวัสดีครับ คุณ Giant bird

         ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ จริงๆ แล้วพยายามหลีกเลี่ยง แต่บางกรณีก็มีเหตุ เพราะเห็นว่าจำเป็นต้องแก้ไขบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกต้องครับ

         เรื่อง 'รูปที่เขาสร้างขึ้น' นี่น่าทึ่งจริงๆ นะครับ หลอกได้แม้แต่ผู้มีสติปัญญาดี มิน่าเล่าถึงต้องมีครูบาอาจารย์คอยชี้แนะ มิฉะนั้นอาจจะเตลิดเปิดเปิงได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ (แต่แม้จะมีอาจารย์ชี้แนะ ก็เตลิดเปิดเปิงได้ ดังมีตัวอย่างให้เห็นจะๆ มาแล้ว)

สงบเย็นอย่างเป็นเราไงคะอาจารย์ นกว่าอาจารย์รู้เขาอยู่แล้ว และเมื่ออาจารย์รู้เราอย่างรวดเร็ว ตามทันอารมณ์ตนเอง ณ ห้วงเวลาที่ รูปลวงมากระทบ ปราชญ์เช่นอาจารย์จัดการได้อย่างสงบงามแน่นอนทีเดียวเชียวล่ะค่ะ นกเชื่อเช่นนั้น เพราะ ณ วันนี้วันที่อาจารย์สะสมคุณความดีมามากมาย ทุกคนยอมรับ ยกย่องอย่างจริงใจ การเผชิญสภาวะท้าทายอาจห่างหายไปบ้าง อย่าเลี่ยงเลยค่ะ เขาแสดงให้ดูก็ดูเขาไปเถอะค่ะ สักวันไม่ช้า ก็เร็ว ความจริงก็ต้องปรากฏอยู่ดีล่ะค่ะ นกชอบดูคนแสดง เพราะพวกนี้จะเปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนบทบาทไปเรื่อย พวกถือดี อย่างเราๆ ถืออยู่อย่างเดียวคือความดี

การเอาชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคือการเอาชนะใจตนเอง เมตตาธรรมที่อาจารย์ใช้น่าจะเจ๋งสุดแล้วล่ะคะ เมตตาให้เขาแสดงไป

(ภาคมาร จนกว่าอาจารย์จะรวบรวมและขัดเกลาแง่มุมทางวิชาการให้เข้มแข็งเพียงพอที่จะล้มล้างขบวนการบิดเบือนข้อเท็จจริงของเขาแบบ "ดิ้นไม่หลุด" แล้วค่อยเชือดเนอะ)

สวัสดีครับ คุณ Giant bird

          ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่ผ่านมานี่ผมก็พยายามดูว่าตัวเองรู้สึกยังไง...ไม่พอใจ? โกรธ? อิจฉา? ฯลฯ และได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ไม่พอใจมากๆ เพราะทนเห็นการบิดเบือนความจริง และการหลอกลวงคนไทยจำนวนมากโดยใช้เทคนิคการตลาดไม่ได้ครับ

          ตอนนี้ยังนิ่งๆ อยู่ครับ ผมกำลังศึกษาประเด็นทางวิชาการบางอย่างให้เข้าใจและลึกเพียงพอที่จะจัดการกับเรื่องนี้ (และอาจจะแถมเรื่องอื่นๆ ด้วย)

          ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมครับ ^__^

มีความรู้สึกเหมือนพวกเรากำลังเป็นเสรีไทย วางแผนช่วยชาติอยู่นะคะเนี่ย ให้กำลังใจต่อเนื่องและยาวเลยนะคะ หวังว่าอาจารย์คงเมตตาเล่าสู่กันฟังอีกนะคะ สำหรับความก้าวหน้า

สวัสดีครับ คุณนก Giant bird

         เรื่องนี้เป็นเพียงประเด็นหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตครับ 

         ไว้ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไร จะแจ้งไปให้ทราบนะครับ

ดี จัง ถึงจะเข้ามาอ่านทีหลังคนอื่นเป็นปี แต่ก็ดีใจมากที่ได้แนวคิดดีดี เพราะกำลังเผชิญกับสถานการณ์นี้อยู่ เอาหล่ะจะไม่สติแตกแล้ว ยุบหนอ พองหนอ ต้องนิ่งไว้ ต้องนิ่งไว้ ขอบคุณนะค่ะ

สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์ หมอเมฆ   

อาจดูเหมือนว่าแพ้..  แต่ขอเราอย่าจิตตก อย่าแพ้ใจตัวเอง ใครจะมองอย่างไร ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ..  มูนเชื่อว่า  คนที่ทำไม่ดีกับคนอื่น ต่อให้เขาแสดงออกมาว่าเป็นผู้ชนะอย่างไร ลึกๆ แล้ว เขาย่อมต้องรู้สึกติดค้างคนที่เขาได้ตั้งใจทำร้าย..   มูนเชื่อว่าฟ้าดินต้องคุ้มครองคนทำดีให้ได้แต่สิ่งที่ดีค่ะ..   อย่างน้อย เมื่อเราเจอใครที่ให้ร้ายทำร้ายเรา ก็ทำให้เราได้มีโอกาสเห็นแล้วว่า เขาเป็นคนไม่ดี เราก็หลบหลีกห่างไกลเขาได้ทัน และไม่เปิดโอกาสให้เขาทำร้ายเราอีก..   อะเสวะนาจะพาลานัง.. ค่ะ  อิ อิ    เป็นกำลังใจให้ท่านอาจารย์นะคะ  ขอพรพระคุ้มครองท่านอาจารย์ ให้มีความสุขมากๆ ค่ะ      Heartthatface

อิ อิ แพ้เป็นพระ ชนะเป็นแพะ มีกันเยอะแยะ ที่หอคอยงาช้าง กับ ในห้องประชุมหรูหรา เก้าอี้ตัวใหญ่ๆ ที่ไม่เคยครบองค์ประชุม ถ้าไม่มีโหวตค่ะ ;) ชมน้องฟ้ากะนายเมฆ ดีกว่าค่ะ บายใจ

สวัสดีครับ อาจารย์สัญญาลักษณ์

         ดูเหมือนว่าอาจารย์เข้าใจประเด็นเพราะเจอกับตัวเอง เอาใจช่วยครับ เดี๋ยวนี้ได้รับทราบคนที่เอาสีข้างเข้าถูเยอะจริงๆ....อิอิ

สวัสดีครับ คุณมูน

       ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็น & กำลังใจครับ ตอนนี้ผมไม่ค่อยกังวลเรื่องนี้แล้ว (เพราะมีเรื่องอื่นให้กังวลแทน)

สวัสดีครับ คุณปู ณ อันดามัน

       ชอบครับ 'แพ้เป็นพระ ชนะเป็นแพะ' ;-) งั้นเสมอกันก็เป็นแกะสินะครับ 555

       จริงด้วยครับ ไปดูฟ้า ชมเมฆ ดีฝ่า....อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท