ฉันมีประสบการณ์กับระบบขายตรง (direct sell) มาบ้าง เคยขายเครื่องสำอางค์นูสกินส์จากอเมริกา ที่ขายไม่ใช่ต้องการหารายได้พิเศษหรือต้องการใช้เองหรอกนะ แต่ที่ขายเพราะมีญาติหลวมตัวไปทำธุรกิจนี้ แล้วเขาขอให้ช่วยขาย ช่วยหาสมาชิก อะไรทำนองนั้น นั่นแหละ ฉันทำอยู่ได้ไม่นานก็เลิกเพราะใจไม่รักทางนี้แถมบุคลิกไม่ให้ด้วยเนื่องจากเป็นคนที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการแต่งตัว แต่งหน้า มากนัก ประสบการณ์ที่สองกับระบบนี้คือ เคยสมัครเป็นสมาชิกและซื้อสินค้ามาใช้บ้างแต่ไม่มากส่วนใหญ่เพราะเกรงใจ แถมสินค้าที่ซื้อมาแล้วใช้ไม่หมดวางไว้จนหมดอายุต้องทิ้งไป ประสบการณ์ที่สาม ไม่ได้เป็นสมาชิกและไม่ได้อยากซื้อสินค้าแต่ญาติเขาหลวมตัวไปสมัครสมาชิกซื้ออาหารเสริมในราคาพิเศษโดยไม่อ่านเงื่อนไขให้ดี ปรากฏว่าต้องซื้ออาหารเสริมนั้นทุกเดือน เดือนละหนึ่งขวดเขากินไม่ทันก็เลยต้องมาขอร้องให้ช่วยซื้อ ก็ซื้อนะแต่ก็กินไม่หมดอีกไว้จนหมดอายุ ประสบการณ์ที่สี่ อยาก(ช่วย)สมัครเป็นสมาชิกและช่วยซื้อสินค้ากับคนที่สนิทกันแต่สู้ไม่ไหวเพราะสินค้าราคาแพงมาก ๆ (ไม่แน่ใจว่าคุณภาพจะเหมาะสมกับราคา)ก็เลยไม่ได้สมัครและไม่ได้ซื้อแต่ก็ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไร ประสบการณ์ที่ห้าเต็มใจสมัครเป็นสมาชิกและเต็มใจซื้อสินค้ามาใช้เนื่องจากมีคนที่เชื่อถือใช้แล้วและการันตีให้
เรื่องที่จะเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องของประสบการณ์ที่ห้า สินค้าที่ฉันอยากซื้อคือน้ำมันรำข้าวสกัดเย็นบรรจุเป็นเม็ดยี่ห้อหนึ่ง ฉันต้องการซื้อให้สามีรับประทานเพื่อลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาต ตามคำแนะนำของน้องสาวเนื่องจากคุณแม่ของเพื่อนเขามีอาการคล้ายกับจะเป็นอัมพฤกษ์ ทานแล้วอาการดีขึ้น อีกประการหนึ่งระยะนั้นน้ำมันรำข้าวสกัดดังมากไปที่ไหนก็จะได้ยินคนพูดถึงสรรพคุณของน้ำมันรำข้าว ฉันสมัครเป็นสมาชิกกับลูกสะใภ้ของหมอนวดที่นวดให้สามีและซื้อน้ำมันรำข้าวให้สามีรับประทาน วันหนึ่งต้องทานหลายเม็ด ไม่กี่วันก็หมดขวด เมื่อจะซื้อใหม่ก็ไปซื้อที่คลังสินค้าของบริษัทซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ที่คลังสินค้านี้จะมีผู้จัดการคนหนึ่งเป็นผู้หญิงซึ่งมักจะชวนคุยและบรรยายสรรพุณของสินค้าตัวนี้ และมักจะคะยั้นคะยอให้ฉันรับประทานน้ำมันรำข้าวด้วย การซื้อสินค้าต้องซื้อด้วยเงินสดและต้องบอกชื่อ บอกหมายเลขสมาชิกเพื่อจะได้ลดเปอร์เซ็นต์และจะมีเงินตอบแทนเข้าบัญชีให้ (แต่ไปซื้อหลายครั้งดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีเงินเข้าบัญชีให้เลยแต่ไม่เคยถามเพราะไม่ได้สนใจที่จะทำเป็นธุรกิจ) บางครั้งที่ซื้อผู้จัดการคลังสินค้าจะบอกว่าสินค้าขายดีมากทางบริษัทส่งมาให้ไม่ทัน เขาให้สั่งล่วงหน้า และขอเบอร์โทรศัพท์ไว้และถามสถานที่ที่จะให้ไปส่งสินค้า และเขาก็เคยขับมอเตอร์ไซด์เอาน้ำมันรำข้าวมาส่งให้ฉันสองครั้ง ต่อมาเมื่อฉันขับรถผ่านคลังสินค้าของบริษัทนี้ ฉันเห็นป้ายหน้าร้านกลายเป็นร้านคอมพิวเตอร์ไปเสียแล้ว และไม่มีป้ายบอกไว้ว่าคลังสินค้าของบริษัทนี้ย้ายไปอยู่ที่ไหน ต่อมาอีกนานพอสมควรฉันได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการคนนี้ถามว่าต้องการน้ำมันรำข้าวหรือไม่ ถ้าต้องการเขาจะมาส่งให้แต่เป็นน้ำมันรำข้าวอีกยี่ห้อหนึ่งซึ่งมีคุณภาพดีกว่ายี่ห้อเก่า เขาบอกว่ายี่ห้อเก่าคุณภาพไม่ค่อยดีแต่เมื่อก่อนพูดไม่ได้แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาขายยี่ห้อใหม่แล้วจึงพูดได้ แต่ฉันปฏิเสธไปว่าเดี๋ยวนี้สามีไม่ทานน้ำมันรำข้าวแล้ว ฉันถ่ายทอดคำพูดของนักขายตรงคนนี้ให้สามีฟังแล้วถามว่าน้ำมันรำข้าวที่ยังเหลืออยู่จะเอามาทานใหม่ให้หมดดีไหม สามีฉันตอบว่าทิ้งไปเถอะ อย่าเสียดายเลย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนนี้อีก แนะนำอาหารเสริมตัวใหม่จากอเมริกาเป็นอาหารเหลวบรรจุในซองพลาสติก สะดวกในการรับประทาน รสชาติดี คราวนี้แนะนำให้ฉันรับประทานเพื่อสุขภาพและทำเป็นธุรกิจด้วย เธอบอกว่าเป็นสินค้าตัวใหม่ที่มีอนาคต แต่ฉันปฏิเสธ ถ้าเป็นคุณล่ะจะตอบอย่างไร
คนบางคนก็ต้องการสร้างรายได้ด้วยการเป็นนักขาย แต่ไม่รู้วิธีการขาย รวมทั้งไม่มีจรรยาบรรณของนักขายด้วย
นี่เป็นตัวอย่างที่ดี ของพฤติกรรมที่นักขายไม่ควรทำเลยค่ะ
เป็นแอมมี่ ก็คงไม่ซื้อ แล้วยังบอกด้วยว่า
"คราวหน้าไม่ต้องโทรมาแล้วนะคะ"
ระบบสินค้าขายตรง ยังไงก็ต้องมีคนกลาง คือ คนขายตรง นั่นเอง ถ้าคนขายคนนั้น คิดแค่ตรงขายให้ได้ ใช้วิธีการหรือคำพูดอะไรก็ได้เพื่อให้ขายสินค้าได้ ก็ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือแก่ลูกค้าแล้ว ทำให้ลูกค้าไม่เชื่อทั้งคนขายและบริษัท บริษัทจะไม่รู้หรือรู้หรือไม่ว่าคนขายตรงเป็นตัวสำคัญที่ส่งต่อความน่าเชื่อถือจากบริษัทและผลิตภัณฑ์ของบริษัทออกสู่ลูกค้าทั้งขาไปและขากลับ
คุณแก้วเก่งจังค่ะอ่านเพลินเลย
ขอบคุณมากค่ะ คุณครูตุ้ม ที่ให้กำลังใจ
ผมก็ทำขายตรงอยู่ครับลองดูเว็บของผมนะครับ
ภูมิใจนำเสนอทุกเรื่องเกี่ยวกับขายตรง หรือใครอยากรีเครวเรื่องอะไรเป็นพิเศษก็ส่งอีเมลมาได้นะครับ