moopum
นางสาว ประภาพร moopum ศรีสมบูรณ์

ลับคมความคิด...แก้วิกฤตด้วย Mind Map


mind Map

 

  Tony Buzan กูรูด้านความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก ฝากหลักคิดดีๆ ในการมาเยือนเมืองไทยเมื่อเร็วๆ นี้
       
       ๐ ธัญญา ผลอนันต์ ที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ กระตุ้นองค์กรระดมสมองด้วย Mind Map
       
       ๐ เครื่องมือที่ทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้น เมื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเอง
       
       การนำ Mind Map มาใช้เป็นเครื่องมือช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ของโทนี่ บูซาน (Tony Buzan) ถูกถ่ายทอดให้แพร่หลายมาหลายปีแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ ปรมาจารย์ทางด้านความคิดสร้างสรรค์ของโลก เดินทางมาเมืองไทยในโครงการ 'Grand Asia Tour' เพื่อมาเปิดเวิร์คชอป พร้อมทั้งแนะนำหนังสือต่างๆ ที่เขียนขึ้น และมีการแปลเป็นภาษาไทยหลายเล่ม
       
       ๐ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้
       

       โทนี่ บูซาน ปรมาจารย์ทางด้านความคิดสร้างสรรค์ของโลก ผู้คิดค้นการใช้ Mind Map กล่าวว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดในปัจจุบัน ประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยต่างได้รับผลกระทบ เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่มีวิธีคิดที่ถูกต้องจะทำให้ดำเนินชีวิตอย่างห่อเหี่ยว และรู้สึกไม่กระตือรือร้นในการทำงาน แต่ถ้ามีความคิดในแบบยอมรับการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าสภาพการณ์เศรษฐกิจตกต่ำซึ่งทำให้บริษัทหรือตนเองจะเดือดร้อน แต่น่าจะมีทางออกใหม่ๆ ลู่ทางใหม่ๆ หรือวิธีการใหม่ๆ ซึ่งสามารถจะมองหาพบได้ แทนที่จะเศร้าหรือทุกข์ร้อน
       
       เมื่อมีความคิดเช่นนี้ จากนั้นการนำเครื่องมือในการคิด คือ Mind Map มาใช้จะช่วยหาทางออกต่างๆ ได้มากขึ้น
       
       เมื่อคิดว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ จะทำให้มีทางออกมากมาย เพราะฉะนั้น วิธีการคิดคือการนำทรัพยากรที่มีอยู่ออกมาและคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง
       
       ยกตัวอย่าง มีข่าวลงในสื่อว่า มีนักกฎหมายที่ทำงานในธนาคารแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ที่ทำงานมา 16 ปี ตั้งแต่เรียนจบมา และเพิ่งจะถูกให้ออกจากงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกตกใจเพราะไม่รู้จะไปหางานทำใหม่ได้อย่างไร แต่สนใจการเรียนรู้ และชอบเขียน Mind Map จึงเริ่มไปคุยกับโรงเรียนต่างๆ ว่าจะไปสอนการเขียน Mind Map ให้กับเด็กๆ เขาได้อาชีพใหม่ กลายเป็นครูสอน Mind Map นี่คือตัวอย่างที่เป็นมุมมองของการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์
       
       สาเหตุของการตกต่ำทางเศรษฐกิจมาจากการศึกษาในยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมที่เน้นการสร้างคนงานเพื่อเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม และสร้างคนเพื่อรับใช้ผู้ครองเมืองหรือเจ้านาย เพราะฉะนั้น การศึกษาในตอนนั้นจึงเน้นให้คนทำมาหากินและรู้จักอาชีพที่ทำตามคำสั่งเสมอ แต่เมื่อประมาณ 50 ปีที่ผ่านมาเข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสาร ทำให้การศึกษาเปลี่ยนไปสู่การเน้นให้คนเรียนรู้ค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อนำไปใช้ แต่ในยุคปัจจุบัน การศึกษาเป็นเรื่องของการที่ต้องใช้ปัญญา ต้องมีวิธีคิดแก้ปัญหาในแบบที่ไม่ต้องทำตามคำสั่งใคร เพราะมีปัญหาใหม่ๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต
       
       เมื่อเราผ่านยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมและยุคข้อมูลข่าวสารมาแล้ว จะต้องค้นคว้าหาเครื่องมือใหม่ในการดำเนินชีวิต โดยเริ่มจากการต้องเชื่อว่าสมองของคนเรามีศักยกาพสูงทุกคน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรจึงจะลับสมองให้คม ซึ่งการลับสมองมีหลายวิธี แต่ต้องศึกษาและนำมาฝึกหัด เพื่อจะให้ได้ผล แต่แน่นอนว่าในครั้งแรกๆ ย่อมจะผิดพลาดและทำไม่สำเร็จบ้าง แต่ทุกครั้งต้องถือว่าเป็นเรื่องดี และหาทางแก้ไขในสิ่งที่พลาด แล้วทำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสำเร็จ เพราะฉะนั้น
       
       เมื่อตอนที่เป็นเด็กทุกคนต้องพยายามนับครั้งไม่ถ้วนที่จะหัดเดิน และไม่มีเด็กคนไหนที่จะล้มเลิกความพยายาม และในระหว่างที่ยังเดินไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าล้มเหลว แต่เป็นการทดลอง เพราะฉะนั้น ในช่วงการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นบ่อยในชีวิตเราอยู่แล้ว หลายๆ อย่างเลวลงๆ ถ้าถูกไล่ออกจากงาน แต่ข้างนอกยังคงมีงานมากมาย ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ยังมีการประกาศโฆษณาหางาน บางคนคิดว่าในวิกฤตยังมีโอกาส เมื่อคิดว่ามีโอกาสสมองจะมองหาโอมาส ขณะที่เมื่อทำผิด เมื่อล้มเหลว จะมีคนพูดเหมือนกันหมดว่าล้มเหลวครั้งใหญ่ แต่มีคนบอกว่าได้เรียนรู้จากความล้มเหลวนั้น
       
       โธมัส เอดิสัน ไม่ได้คิดประดิษฐ์หลอดไฟ แต่คิดให้โลกมีแสงสว่างในเวลากลางคืน เพื่อให้มนุษย์ทุกคนเห็นทุกอย่างได้ตลอด 24 ชั่วโมงเมื่ออยากเห็น เขาพยายามทุกอย่างเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโลกไปสู่โลกที่ดีกว่า ในขณะที่ เพื่อนบอกว่าเขาทำเป็นพันพันอย่างซึ่งใช้ประโยชน์ไม่ได้ จะต้องหยุดความล้มเหลวดีกว่า แต่เขาบอกว่าเขาไม่เคยล้มเหลวแม้แต่สักครั้งเดียว สิ่งที่เขาทำคือเขาได้พยายามทดลองนับพันๆ ครั้ง แต่ใช้ไม่ได้ เขาจึงรู้ว่าอะไรที่ทำแม้ใช้ไม่ได้มากกว่าใครๆ เขาจึงเป็นคนที่อยู่ใกล้และรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่จะทำได้มากที่สุด เพราะฉะนั้น เขาไม่ได้ล้มเหลว แต่เรียนรู้จากความผิดพลาด
       
       'สมองของเราออกแบบมาเพื่อการเปลี่ยนแปลง ถ้าเรามีวิสัยทัศน์ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกที่ดีกว่า เราจะรักการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น และจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลง'
       
       ๐ สู่องค์กรสร้างสรรค์
       

       สำหรับการบริหารจัดการในองค์กร ธัญญา ผลอนันต์ ผู้อำนวยการ Buzan Licensed Instructor และที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ กล่าวว่า การใช้ Mind Map ทำให้ผู้บริหารสามารถสื่อสารความคิดออกและความฝันออกมาเป็นภาพให้เห็นได้ ซึ่งชัดเจนกว่าการพูด เพราะภาพความคิดมีความเชื่อมโยงกันไปสู่เป้าหมาย นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ในการระดมสมอง เพราะการระดมสมองแบบเดิมมีจุดอ่อนโดยเฉพาะในสังคมไทย ลูกน้องจะไม่กล้าขัดแย้งหรือแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง เมื่อหัวหน้าพูด
       
       แต่การระดมสมองแบบใหม่คือการให้ได้คิดเงียบๆ เพื่อเขียนความคิดลงกระดาษ แล้วเอามากองรวมกันและมาเขียนเป็นความคิดใหม่ ทำให้ไม่ต้องเกรงหรือกลัวอะไร ในขณะที่ทุกคนมีความคิดดีๆ อยู่แล้ว ทำให้ได้นำออกมาใช้ประโยชน์ให้กับองค์กร เพราะฉะนั้น Mind Map จึงเป็นเครื่องมือให้ทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วม โดยไม่มีอุปสรรค
       
       'ถ้าผู้บริหารสั่งเก่ง พนักงานทำตามคำสั่งได้เป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งถ้าสั่งไม่เก่ง พนักงานไม่รู้ความคิด ทำให้ทำแบบผิดๆ และถ้าผู้บริหารคิดผิดอีกด้วย ยิ่งทำให้เกิดผลเสีย เพราะฉะนั้น การรวบรวมความคิดก่อน เพื่อให้เห็นข้อที่ควรแก้ไขหรือควรทำอย่างรอบด้าน จะทำให้สามารถแก้วิกฤตได้อย่างรอบคอบ เป็นการรวมพลังสมองมาช่วยกันคิด'
       
       'เพราะฉะนั้น Mind Map จึงเป็นเครื่องมือช่วยแก้ปัญหาในยามวิกฤตได้ และเป็นการลับคมความคิดที่มีอยู่ให้เฉียบแหลมได้อย่างดี ด้วยการใช้ทรัพยากรคนที่มีอยู่ขององค์กร นอกเหนือจากความคิดของผู้บริหารแต่เพียงส่วนเดียว'
       
       วิธีการนำ Mind Map สู่องค์กร ควรจะมีการจัดฝึกอมรมอย่างถูกวิธี โดยให้ทีมงานทั้งหมดเรียนรู้พร้อมกันไป เพราะถ้าบางส่วนรู้ บางส่วนไม่รู้ จะไม่เกิดการแบ่งปันความคิดดีๆ ให้กัน ซึ่งการลงทุนให้บุคลากรในองค์กรได้เรียนรู้ในเรื่องนี้เป็นความคุ้มค่าเพราะผลตอบแทนที่ได้คือบุคลากรที่มีอยู่เดิมสามารถคิดและทำได้มากกว่าเดิม
       
       อย่างไรก็ตาม การเขียน MindMap ไม่ใช่เรื่องยากและยังทำให้เกิดความเพลิดเพลิน อาจจะเริ่มด้วยการคิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความคิดและเรียกว่ากิ่งแกน จากนั้น การแตกความคิดหรือหัวข้อสำคัญในเรื่องนั้นออกไปเรียกว่ากิ่งแก้ว ต่อไป จึงแยกย่อยไปอีกเรียกว่ากิ่งก้อย เพื่อเป็นการฝึกในเรื่องที่จับต้องได้ก่อน ซึ่งเมื่อทำบ่อยขึ้นจะเริ่มคิดเรื่องที่ยากขึ้น เช่น ไอเดียต่างๆ ที่จับต้องไม่ได้ และทำให้เกิดความคิดหลากหลาย แล้วนำมาเลือกเฟ้นความคิดที่ใช้ได้เพื่อนำมาทดลองใช้ โดยการใส่สีสันต่างๆ เข้าไปด้วยจะทำให้สนุกสนานและเห็นความคิดเด่นชัดขึ้น
       
       'การเขียน Mind Map ไม่มีถูกผิด มีแต่สวยหรือไม่สวย การเขียนบ่อยๆ ทำให้คล่องขึ้น แม่นยำขึ้น เพราะการแตกความคิดในบางครั้งอาจจะไม่ตรงกับเรื่องหรือประเด็นที่เราต้องการ ซึ่งการเขียน Mind Map จะไม่มีการลบ แต่ถ้าเขียนผิดที่ เราขีดฆ่าทิ้งแล้วเอาคำนี้ไปเขียนที่อื่น เพราะเป็นการบอกสมองเราว่าเราทำผิด ซึ่งเป็นการเรียนรู้ แต่ถ้าเราลบทิ้ง คำนั้นจะหายจากหน้ากระดาษ จะไม่ได้เรียนรู้ว่าผิด และคราวหน้ากลับมาดูจะได้ไม่ผิดซ้ำ'
       
       การเขียน Mind Map เป็นการเขียนด้วยคำหนึ่งคำ ไม่ใช่วลีหรือประโยค ทำให้แตกความคิดออกไปได้มาก เช่น คำว่า 'กล้วย สามารถแตกความคิดออกไปได้มากมาย ช่วยสร้างและบันทึกความคิดลงในกระดาษได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การลับคมสมองหรือทำให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้การเขียน Mind Map เป็นเรื่องง่ายมาก เพียงวันเดียวสามารถเขียนเป็น แต่คนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเขียน Mind Map เพราะเขียนแล้วไม่ได้นำไปใช้
       
       'อย่าบอกว่าในองค์กรเรามีแต่คนไม่เก่ง เพราะสมองของคนเรามีศักยภาพเยอะมาก เพียงแต่เราใช้ไม่เป็นหรือไม่อยากเปลี่ยนแปลง ไม่อยากทำ แต่เมื่อเราฝึกฝนถูกต้องบ่อยครั้ง เราจะได้ใช้เต็มที่และทำให้เกิดผลในที่สุด' ธัญญา ย้ำในตอนท้าย

หมายเลขบันทึก: 269896เขียนเมื่อ 22 มิถุนายน 2009 00:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 20:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

P

สวัสดีค่ะน้องmoopum

ข้อคิดดีๆของTonyBuzan เมื่อก่อนเข้าใจว่าไม่มีลิขิต คือให้ใช้แนวคิดได้ แต่ก็ได้ยินผู้ใหญ่พูดว่าเขาก็หวงชื่อเรียกเหมือนกัน

เลยยังไม่ทราบว่า ตกลงเขาให้ใช้หรือไม่ แต่พี่ก็แอบใช้มานาน แล้วเพราะทำให้คิดออก คิดได้เรื่อยๆ คิดต่อไปโดยไม่หยุดก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางความคิดสู่รูปธรรม

สนใจแต่ไม่ค่อยเข้าใจ ช่วยเขียนอีกบันทึกได้ไหม อธิบายวิธีการเขียน mind Map แล้วจะติดตามอ่าน ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณที่นำความรู้มาให้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท