ความสุขจากการให้


ชายหนุ่มรู้แล้วว่า "ความสุขจากการให้" หมายถึงอะไร

ชายหนุ่มคนหนึ่งมีชีวิตที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ
หน้าตาหล่อเหลา มีการศึกษาสูง

มีงานการที่มั่นคง มีความก้าวหน้าในอนาคต

มีคนรักใคร่รอบข้าง เรียกว่าใครเห็นใครรู้เป็นต้องอิจฉา


วันหนึ่งชีวิตที่สมบูรณ์แบบของชายคนนี้ยิ่งสุดยอด

สมบูรณ์แบบมากขึ้น เมื่อพี่ของเขายอมควักเงินก้อนโต

ซื้อรถสปอร์ตคนงามเป็นของขวัญให้กับน้องชาย


ไม่ต้องบอกว่าเจ้าตัวจะยินดีปรีดาแค่ไหน

เพราะรถสปอร์ตสุดหรูคันนี้ ชายหนุ่มนายนี้ฝันอยากได้

เป็นเจ้าของมาตลอดชีวิต


เมื่อความฝันเป็นจริง

สิ่งที่ชายหนุ่มคิดทำอย่างแรกคือ ขับเจ้ารถสปอร์ตตระเวน

ไปตามที่ต่างๆให้สมอยาก

ใจหนึ่งต้องการทดสอบแรงม้าที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องเครื่อง

ว่าจะมีเรี่ยวแรงเต็มกำลังแค่ไหน อีกใจก็แน่นอนว่า

ใครที่มีรถสวยแรงขนาดนี้ คงไม่บ้าเก็บเอาไว้ดูตามลำพัง

ที่โรงรถในบ้าน


ขับโฉบเฉี่ยวไปมาสักพัก ก็ถึงเวลาพักทั้งเครื่องและคน

ชายหนุ่มจัดแจงจอดรถข้างถนน ระหว่างกำลังพักผ่อนอิริยาบถ

เขาเห็นเด็กคนหนึ่งเดินลูบๆคลำๆรอบรถคันงาม

ด้วยกิริยาท่าทีชื่นชอบรถสปอร์ตอย่างเห็นได้ชัด


ชายหนุ่มรู้สึกภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ

สิ่งที่หลายต่อหลายคนใฝ่ฝัน เขาเดินยืดอกมาที่รถ

พร้อมพูดจาทักทายเด็กคนนั้นด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

ดั่งขุนศึกผู้ชนะสงคราม


"ระวังหน่อยน้อง เดี๋ยวเป็นรอย"เขาบอก

เด็กคนนั้นมองไปยังชายหนุ่มเจ้าของเสียง

ก่อนจะพูดตอบ "รถของพี่เหรอ สุดยอดจริงๆ"


"แน่นอน" เขาตอบ

"พี่ซื้อมาราคาเท่าไหร่" เด็กคนเดิมถาม

คนอื่นอาจต้องควักสตางค์ซื้อเอง

แต่พี่ไม่ต้อง เพราะพี่ชายพี่ซื้อให้เป็นของขวัญ"

"
โอ้โห! ดีจัง ผมอยาก...."


เด็กคนเดิมพูดตะกุกตะกักชะงักในตอนท้าย

ชายหนุ่มคิดในใจว่า เด็กคนนี้คงไม่กล้าพูดต่อ

เพราะที่เด็กอยากจะพูดแต่ยั้งปากยั้งคำไว้นั้น
คงต้องการบอกว่าอิจฉาตัวเขาเอง

อยากจะเป็นอย่างเขาบ้าง


...
มีพี่ที่แสนดีซื้อรถสุดหรูให้เป็นของขวัญ...

แต่สิ่งที่ชายหนุ่มคิดกลับผิดถนัด


"
โอ้โห ดีจัง ผมอยาก....เป็นอย่างพี่ชายของพี่จัง"

เด็กคนนั้นพูด "ผมจะได้ซื้อรถให้น้องชายผมนั่งบ้าง"

ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง ในสังคมทุกวันนี้

ที่ใครๆตั้งหน้าตั้งตาแต่จะรับ หรือบางคนไม่ยอมรอ

ใช้กำลังความได้เปรียบแย่งชิงของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง

แต่เด็กคนนี้กลับคิดสวนทางใครๆ

...
เขาอยากเป็นผู้ให้ มากกว่าเป็นผู้รับ...


....
ชายหนุ่มมองเด็กด้วยความรู้สึกทึ่งและพูดออกมาทันทีว่า


"
อยากนั่งรถเล่นกับฉันไหม"

"
ครับ อยากมากเลย"


หลังจากขับรถเล่นอยู่พักหนึ่ง

เด็กชายหันมาพูดด้วยดวงตาวาวแวว


"
คุณจะกรุณาขับรถไปหน้าบ้านผมได้ไหมครับ"

ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ

เขาคิดว่าเขารู้ดีว่าเด็กหนุ่มต้องการอะไร

เขาคงต้องการให้เพื่อนบ้านเห็นว่าเขาได้นั่งรถคันโตกลับบ้าน

แต่ชายหนุ่มคิดผิดอีกแล้ว


"
คุณจอดตรงบันไดนั่นล่ะครับ" เขาวิ่งขึ้นบันได

จากนั้นสักครู่จึงกลับมาแต่เขาไม่ได้วิ่ง

เขาอุ้มน้องตัวเล็กๆที่ขาพิการมาด้วย

และวางน้องลงที่บันไดล่าง กอดไว้และชี้ไปที่รถ


"
นั่นไง บัดดี้ รถคันที่พี่เล่าให้ฟัง

พี่ชายของเขาซื้อให้เป็นของขวัญ

เขาไม่ต้องเสียตังค์เลย สักวันหนึ่งพี่จะซื้อให้น้องบ้าง

น้องจะได้ดูของสวยๆงามๆด้วยตาของน้องเองเหมือนที่พี่เคยเล่าให้ฟัง"


ชายหนุ่มลงจากรถ แล้วอุ้มเด็กน้อยขึ้นรถ

พี่ชายปีนตามขึ้นมานั่งใกล้และแล้วทั้งสามก็เริ่มออกเดินทาง


ชายหนุ่มรู้แล้วว่า "ความสุขจากการให้" หมายถึงอะไร

 

ขออภัย เป็นเมล์ที่ส่งต่อกันมา ไม่สามารถบอกผู้เขียนได้

อย่างไรก็ตาม ครูแดง ขอขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้

คำสำคัญ (Tags): #ความสุข
หมายเลขบันทึก: 268741เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2009 12:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 07:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

9   ผู้เขียนมีมุมมองที่ให้คติหลายอย่างนะคะ...

สวัสดีค่ะ พี่แดง

อ่านแรกๆก็รู้สึกเป็นเรื่องธรรมดาๆ

อ่านต่อๆมาให้รู้สึกพิศวงงงงวย..คิด..คิด..

อ่านจบเรื่อง..อืม..สุขใจจัง..

น้ำตาคลอ..บวกรอยยิ้ม..ที่มุมปาก..

ยิ้มกับตัวเอง.."การเป็นผู้ให้..ดีจังเลยค่ะ"..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท