20 ปี อัสนี วสันต์ "เด็กเลี้ยงแกะ" คลั่งไคล้ หรือ ศรัทธา


ในระยะเวลาที่ยาวนานขนาดนั้น แต่ยังมีจุดยืนที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง
วงการเพลงไทยยุคนี้ นักร้องใหม่ออกมากมาย เพลงออกมาหลายอัลบั้ม อายุ ความนิยมของเพลงฮิต สั้นลง นักร้องเป็นสินค้าสร้างรายได้ของบริษัทเทป หากนักร้องคนใด มีชื่อเสียง จะมีผลงานเยอะ ออกเทปอีกหลายชุดในเวลาไม่นาน ต้องมีกระแส มีจุดขาย มีข่าว ฯลฯ

อัสนี วสันต์ โชติกุล ออกผลงานเพลงชุดใหม่ เด็กเลี้ยงแกะ เป็นชุดที่ 9 ซึ่งแต่ละชุดในช่วงหลังๆ ออกมาห่างกัน 3-4 ปี

ครบรอบ 20 ปี มีเพียง 9 ชุดในนาม 2 พี่น้อง

ในขณะที่นักร้องที่เริ่มมีผลงานในรุ่นไล่เลี่ยกัน อย่างเบิร์ด นันทิดา มีทั้งอัลบั้มเพลงใหม่ เก่า 20 ชุดขึ้นไป จนนึกไม่ออกว่า มีผลงานกี่ชุดบ้าง



กรณีของศิลปิน อัสนี วสันต์ จะแตกต่างจากศิลปินเพลงไทยทั่วไป เพราะหน้าตา ไม่ใช่จุดขาย เพลงก็ทำนองง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

หลายคนยังสบประมาทว่า มีฝีมือเท่านี้หรือ แต่เพลงที่ฟังง่ายๆของทั้งคู่ ก็อยู่ในใจของคนฟังเพลงหลายคนมาตลอดหลายปี

บรรดานักร้องหลายคน มักจะตกเป็นข่าวเรื่อยๆ แต่อัสนี วสันต์ สามารถวางตัวในโลกมายาได้อย่างเหมาะสมมาก ไม่ค่อยเป็นข่าวมากนัก นอกจากเรื่องของดนตรีแล้ว ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องส่วนตัวของทั้งคู่เลย ไม่เคยมีใครรู้ว่า ทั้งคู่เดินซื้อของที่ห้างหรือเปล่า ชอบเล่นกีฬาอะไร

ทั้งๆที่มีภรรยาแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยมีใครรู้ว่า หน้าตาของภรรยาเค้าเป็นยังไง

เป็นบุคคลที่นักข่าว ตามเจาะข่าวไม่ได้ จึงไม่ค่อยจะมีข่าวที่จะสามารถขายได้เหมือนอีกหลายๆคน ยังสามารถมีชีวิตที่เป็นส่วนตัวได้จริงๆ

เวลาจะเป็นข่าว ก็เป็นข่าวชิ้นเล็กๆ เช่นการไปสร้างห้องสมุดที่โรงเรียนเดิมของทั้งคู่ที่ จ.เลย การบริจาคตามโอกาสอันควร

ซึ่งเป็นข่าวกรอบเล็กๆในหน้าบันเทิง ซึ่งหลายคนคงจะไม่ทันสังเกตเห็น เพราะข่าวบันเทิงอื่นๆจะกลบข่าวกรอบเล็กๆไปหมดแล้ว

การวางตัวที่ดี และเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นที่พึ่งพา ที่ปรึกษาของรุ่นน้อง ทำให้หลายคนชื่นชอบในตัวของทั้งคู่ แฟนแพลงที่คลั่งไคล้ ก็เกิดความศรัทธาตามมา และรวมกลุ่มกันเหนียวแน่นคอยติดตามผลงาน พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องของอัสนี วสันต์อยู่ตลอด

การแต่งตัวที่เรียบง่าย ไว้ผมทรงเดิมตลอดหลายปี และเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ถึงแม้ว่า อัสนี วสันต์ จะไม่ใช่นักร้อง ที่มีผล

งานที่ดีที่สุดในไทย ไม่ใช่เป็นศิลปินที่ดีที่สุด ไม่ใช่ศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด

แต่แนวคิด แง่มุมชีวิตที่ดีๆของทั้งคู่ เป็นต้นแบบที่ดีให้แฟนเพลงหลายคน ในยุคนี้ได้

แม้จะออกผลงานมานาน แต่หลายคนยังคงศรัทธาในความเป็นอัสนี วสันต์ ที่ยังคงรักษาความเป็นตัวของตัวเองมาได้ตลอด20 ปี

* ถ้าใน gotoknow แห่งนี้ ท่านที่สามารถเขียนบล็อก ให้ข้อมูลความรู้ได้ตลอด 1 ปี 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี

ในระยะเวลาที่ยาวนานขนาดนั้น แต่ยังมีจุดยืนที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางสิ่งเร้าอื่นๆที่หลากหลาย...

ความศรัทธาจึงควรค่าแก่การมอบให้อย่างแท้จริง

บันทึกที่เกี่ยวข้อง
1. รวมภาพจากคอนเสิร์ต 20 ปี อัสนี วสันต์ มาฝากกันแบบสุดๆ ดูกันจุใจไปเลย
2. จับ เด็กเลี้ยงแกะของ อัสนี วสันต์ ใส่ในมือคุณ



หมายเลขบันทึก: 26846เขียนเมื่อ 6 พฤษภาคม 2006 13:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 22:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)
  JJ ชอบอัสนี มากๆๆครับ

ชอบใจหัวข้อที่เขียนมากตรงคำถามที่ถามว่า"คลั่งไคล้ หรือ ศรัทธา"  เพราะกำลังนึกเปรียบเทียบพฤติกรรมของตัวเองที่ติดตามผลงานทุกชุดของอัสนี-วสันต์ มาทุกชุด พยายามติดตามข่าวและรอว่าเมื่อไหร่จะมีผลงานใหม่ ๆ ออกมา         สะสมอัลบัมทุกชุด  และก็ยังฟังเพลงเหล่านั้นตลอดมา เรียกว่าเป็นศิลปินในดวงใจเลยหล่ะ    มีภาพโปสเตอร์และภาพถ่ายพอที่จะหามาได้เก็บไว้ในอัลบัมภาพโดยเฉพาะ  ไม่เคยพลาดรายการทัวร์คอนเสิร์ต  แต่สำหรับคอนเสิร์ตเด็กเลี้ยงแกะที่จะไม่มีรายการทัวร์คอนเสิร์ตที่ขอนแก่น  ก็คงจะไม่ถึงขนาดตามไปดูนอกพื้นที่ขอนแก่น  คงจะรอหาซื้อวีดิโอหรือวีซีดีมาดูแทน เพียงแค่นี้ถามว่าคลั่งไคล้มั้ย  คิดว่าไม่น่าใช่  เรียกว่าชื่นชอบหรือจะบอกว่าเป็นเรื่องของศรัทธามากกว่า  ชอบความเรียบง่ายไม่เปลี่ยนแปลง และความเป็นธรรมดา ๆ ของเขา  สไตล์เพลงที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร  แต่นั่นหล่ะคืออัสนี-วสันต์

     

เพิ่งจะเกิดมาก็เมื่อตอน อัสนี-วสันต์ ออกอัลบั้มแรกมาได้3ปี
แต่ก็ฟังมาตลอด
พ่อเปิด ... แม่ฟัง

 

 

ซึมซับ!

 

 

คุณภาพจริงๆ
เมื่อวานเพิ่งไปดูคอนเสิร์ตมา

ไม่ชอบ
...

แต่รักมากกกกกกกกกก

เพิ่งจะเกิดมาก็เมื่อตอน อัสนี-วสันต์ ออกอัลบั้มแรกมาได้3ปี
แต่ก็ฟังมาตลอด
พ่อเปิด ... แม่ฟัง

 

 

ซึมซับ!

 

 

คุณภาพจริงๆ
เมื่อวานเพิ่งไปดูคอนเสิร์ตมา

ไม่ชอบ
...

แต่รักมากกกกกกกกกก

ไปดูคอนเสิร์ท 20 ปีอัสนี-วสันต์ มาเมื่อวานนี้ (12 พค.) ยังคงความสนุกและวิถีแบบอัสนี-วสันต์ ได้ไม่เสื่อมคลาย ขอชื่นชมกับการเชิญ อ.ดนู มาเป็นคนพิเศษ และการเลือกเพลงในช่วงนั้น คือ สาระที่แฝงไว้ในแบบอัสนี-วสันต์ จริงๆ รวมทั้งผีตาโขนและลายไทย ทีมคอรัสที่มีความสามารถและน่ารัก ทุกอย่างดูจะลงตัวดีไปหมด สมกับความคิดถึง แต่ Surprised ที่ทำให้งงไปเลย (แบบว่าหลายคนชะงัก หยุดกึก) ก็คุณเธอชุดลายทางขาวดำถุงน่องแดง ที่ออกมาวาดลวดลายแบบเต้นกันสุดชีวิต..ให้ตายไปเลย สงสัยว่าเธอมาผิดงานหรือเปล่า เธอเป็นสีสันเกินเหตุหรือไม่ สงสัยจริงๆ ว่ามีแบบนี้ทำไม ยอด/สถิติการขายบัตรไม่ได้ยืนยันบอกคณะกรรมการหรือว่าวิถีเดิมน่ะแหละขายได้ "เวลาเปลี่ยน...คน (ฟัง) ไม่เปลี่ยน" ไม่ได้ว่าพวกเธอไม่ดี เธอน่ารัก หน้าตาดีมาก เต้นสุดสวิง สุดชีวิต ท่าทางสุด ๆ มาก แต่งานนี้ ควรมีแบบนี้หรือ??? เห็นภาพเธอโฉบเฉี่ยวไปคลอเคล้าคนดนตรีแล้ว รู้สึก..มันไม่เกี่ยวกันเลย..

goodสุดๆๆๆๆๆๆๆๆไปเลย

 

จิ๊กโก๋ ยังคงอกหักอยู่ ทุกยุคทุกสมัย ล่ะครับ..
อยากบอกว่าไปดูวันที่ 12 สนุกยังไม่พอหาซื้อบัตรวันที่ 13 จนได้แพงก็เอา สนุกมาก สมกับการรอคอยรักพี่ป้อมกับพี่โต๊ะผู้ชายอะไรขี้อาย อยากเห็นภรรยาของพี่ทั้ง 2 จังเลยเมื่อไหร่จะออกมาอวดซะทีก็ไม่รู้เนอะ ขอให้มีคอนเสริตแบบนี้อีกนะขอบอกว่าไม่พลาดเด็ดขาด

เมื่อวานไปดูคอนเสิร์ตที่โคราช (20 พ.ค.49) ถึงฝนจะตกแต่แฟนพันธุ์แท้ทั้งหลายก็ไม่ยอมแพ้เดินไปซื้อเสื้อกันฝนที่บิ๊กซีแล้วก็ลุยเข้าไป  พูดเรื่องฝนตกแล้วนึกถึงความเชื่อเรื่องการนำตะไคร้มาปักให้หัวชี้ขึ้นฟ้า  เป็นความเชื่อที่คนรุ่นปู่ยาตายายเล่ามาว่าอย่างนั้นว่าฝนจะหยุดตก เมื่อครั้งคอนเสิร์ตชุดกระดี่ได้น้ำที่ขอนแก่นจำได้ว่าฝนทำท่าจะตกเช่นเดียวกันก่อนไปดูปรารภกับเพื่อนว่าน่าปักตะไคร้นะ แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะรีบไป พอไปดูคอนเสิร์ตอัสนีก็พูดเรื่องนี้นั่นก็หมายความว่าได้ยินได้ฟ้งมาจากคนรุ่นก่อนเช่นเดียวกันและเมื่อวานที่โคราชก็มีคนพูดเรื่องปักตะไคร้อีก   บรรยากาศความมันส์ท่ามกลางสายฝน  แต่ต่อมาฝนก็หยุดตก  เสียดายบางเพลงที่ไม่ได้ถูกนำมาร้องเพราะเมื่อเทียบกับที่อ่านใน list รายการเพลงที่แสดงที่กรุงเทพฯ จะมีรายการเพลงมากกว่า อย่างไรก็ตามความประทับใจในคอนเสิร์ตที่อัสนี-วสันต์มอบให้แฟน ๆ ก็เต็มที่สมกับที่รอคอย 

ดูคอนเสิร์ตที่โคราช 20 พ.ค. 49 สนุกและมันส์มากตลอด 3 ชม.เต็ม ตั้งแต่ 20.20 น. เลิก 23.30 น. วันนั้นฝนตก ๆ หยุด ๆ ตลอดวัน แต่ก็ไม่กลัว ได้เจอกับน้อง ๆ แฟนคลับที่มาจากกรุงเทพด้วย อยากให้พี่ป้อม พี่โต๊ะออกอัลบั้มมาให้ฟังและมีคอนเสิร์ตที่โคราชอีก  ลืมบอกวันนั้นได้ปิ๊กมา 5 อัน เคยดูพี่ป้อม พี่โต๊ะ 3 ครั้ง เยี่ยมมาก                                           

1. ปี 32 ได้ปิ๊ก 1 อัน เขียนว่ายินดีครับ

2. ปี 46 ได้ปิ๊ก 3 อัน เขียนว่าโคราช 18 มค.46

3. ปี 49 ได้ปิ๊ก 5 อัน เขียนว่าคอนเสิร์ต 20 ปี             

 

ต้อมและครอบครัวอินทะกนกและพี่เฉื่อยเพื่อนพี่ป้อม/พี่โต๊ะ

ไปดูคอนเสิร์ตที่โคราชฝนตกแทบตลอดเวลายืนรอดูกับลูกเมียรอตั้งแต่6.30น.ผู้ประกาศบอกว่าถ้าฝนหยุดจะให้เข้าไปในงานลูกสาวถามผมว่าพ่อจําถ้าฝนไม่หยุดแล้วเขาจะให้เราดูไหมแล้วเธอก็ทำท่าจะร้องให้แต่เราก็ได้ดูจนได้ ลูกชายผมอายุ 15 ลูกสาวอายุ12 แต่การแสดงของพี่ป้อมพี่โต๊ะก็ไม่ทำให้แฟนๆ ร็อคทั้งหลายไม่ผิดหวัง ในการแสดงมีคณะสอบถามความคิดเห็นเราถามลูกชายกับลูกสาวผมว่าฟังเพลงอัสนีตั้งแต่เมื่อไร่ลูกชายกับลูกสาวผมตอบว่าฟังตั้งแต่จำความได้ ฟังตั้งแต่อีสซึ่น เพราะว่าพ่อกับแม่เป็นแฟนเพลงพี่ป้อมมานาน นับยี่สิบกว่าปี ลูกชายลูกสาวร้องเพลงอัสนี-วสันต์ได้ทุกเพลง และวันที่ดูคอนเสิร์ตเป็นวันเกิดลูกชายด้วยซึ่งลูกชายประทับใจมาก เขาไปแย่งปิ๊กมาได้ตั้ง4-5 อันเขาดีใจมาก พ่อกับแม่มาดูตั้งหลายครั้งยังไม่เคยแย่งได้เลย เสียดายมากที่จองบัตรที่เมืองฯไม่ได้แต่ที่โคราชก็ไม่ทำให้แฟนเพลงผิดหวังแม้แต่น้อย อัสนี-วสันต์คุณยังเหมือนเดิม

จาก ครอบครัวอินทะกนก ชาวศรีสะเกษ(06-0003286)

ชอบครับ พ่อผมไปดูคอนเสิร์ตด้วย ผมไม่ได้ไป แง้ แต่ยังไงชอบผลงานของน้าๆอยู่นะครับ ออกมาล่าสุดก็พักร้อน เพลงเพราะทุกเพลงครับ ถ้ามีคอนเสิร์ตที่มันส์แบบนี้อีก รับรอง ผมจะไปดูเอาให้หายคิดถึงกันไปข้างนึงเลยครับ

สำหรับผมแล้ว ชุดแรก (กำลังเรียนอยู่ ม1 ครับ) แล้วมาถึงชุดล่าสุด สุดยอดทุกเพลง

อยู่ในใจตลอดมา.....

ติดตามงานเพลงของพี่ป้อม พี่โต๊ะ มาตลอดเลย ชอบมากๆ ฟังไม่เคยเบื่อ รักพี่ทั้ง 2 มากๆๆๆ

พี่ป้อม พี่โต๊ะ ยังคงอยู่ในใจของใครหลายๆคนอยู่เสมอครับ ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมชื่นชอบ อัสนี วสันต์ :)))

ชอบพี่ป้อมกับพี่โตะ๊มาก พยายามติดตามผลงานของพี่เขาทั้ง2คน แต่ข่าวพี่เขาน้อยมาก อยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพี่ป้อม พี่โต๊ะ แล้วภรรยาของพี่เขาทั้ง2คนด้วย พี่เขาน่าจะตั้งแฟนคลับนะ จะได้ติดตามผลงานได้ง่ายๆ ใครมีข่าวใหม่ช่วยบอกต่อด้วยนะ จะขอบคุณมาก

ชอบอัสนีและวสันต์มากเหมือนกัน

เพราะอัสนี เกิดปีเดียวกัน

คนอะไร ตัวนิดเดียว แต่เสียงทรงพลังมากเลย 

เพิ่งจะชอบอย่างมากมายประมาณเมื่อไม่นานนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนตอนลุงทั้งสองออกอัลบัมแรกๆ ตอนนั้นก็ชอบแต่ไม่เท่าตอนนี้(เสียงร้องลุงป้อม ส่วนลุงโต๊ะก็นุ่มฟังสบาย) แต่ก็ติดตามอยู่เรื่อยๆไม่คลั่งไคล้ พอได้มาดู DVD คอนเสิร์ต 20ปี ที่นี้ติดหนับเลยอ่ะ หาอัลบัมเก่ามาฟังใหม่ ความรู้สึกเปลี่ยนไปไม่เหมือนที่ฟังตอนสมัยนั้น ชอบมาก ยิ่งฟังยิ่งชอบ ฟังได้ไม่เบื่อ ที่นี้เลยเริ่มไปดูทัวร์คอนเสิร์ตสิงห์ ฯ ก็ชอบมากขึ้นอีก เป็นอีกแบบนะ เลยไม่ค่อยฟังจากอัลบัม อาศัยเปิดดู DVD คอนเสิร์ตแทน รู้สึกสนุกมีชีวิตชีวากว่า มันส์มาก ดูมาปีกว่าแล้ว ซ้ำไปซ้ำมาไม่เบื่อเลย ชอบเปิดฟังไปนั่งทำงานไป ดูจนแผ่นจะพังแล้ว สงสัยต้องไปซื้อใหม่ ชอบดูคอนเสิร์ตมาก เคยดูคอนเสิร์ตมาก็หลาย แต่ไม่เคยเห็นนักร้องหรือนักดนตรีคนไหนมีความสุขในการเล่นดนตรีได้เท่าลุงทั้งสองคนเลย ถึงจะพูดไม่เก่ง แต่เรื่องเล่นดนตรีเหมือนเป็นธรรมชาติของลุงๆเลย เกิดมาเพื่อเล่นดนตรีจริงๆ เนื้อเพลงก็ไม่เหมือนใคร คิดดูสิ มีใครเอาคำไทยๆ มาตั้งชื่อเพลง เช่น สับปะรด ปลากระดี่ ฟักทอง หรือพวกสุภาษิต เช่น เด็กเลี้ยงแกะ หรือ คำว่า บ้าหอบฟาง มาแต่งเป็นเพลงได้ แปลกมาก แต่ก็ทำได้ดี หรือ ชื่อเต็มของกรุงเทพมหานคร ก็ยังทำเป็นเพลงได้ ลำพังเมื่อก่อนต้องท่องชื่อเต็มเพื่อใช้สอบก็แทบแย่ อิจฉาเด็กรุ่นใหม่จัง สบายเลยจำได้เลย เราเดาว่าสมัยลุงป้อมลุงโต๊ะเป็นเด็ก ๆ สงสัยจะชอบวิชาภาษาไทยแน่เลย แต่ตอนนี้อยากฟังอัลบัมใหม่อ่ะ คงจะมีคำไทยๆที่เอามาแต่งเพลงมาใหม่เนอะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท