ให้ความรักก่อนให้ความรู้


ให้ความรักก่อนให้ความรู้

       นักเรียนเปลี่ยนหน้าเข้ามาให้ผู้เขียนสอนทุกปี ทั้งสอนทั้งเป็นครูที่ปรึกษา จากประสบการณ์การสอนและดูแลช่วยเหลือนักเรียนมานาน ได้ข้อสรุปชัดเจนว่า การสอนที่ได้ผลดีมีประสิทธิภาพ หรือนำไปสู่การแก้ปัญหานักเรียนได้นั้น ครูจะต้องมอบความรักให้นักเรียนก่อนที่เราจะให้ความรู้เขา

       . เมื่อพบนักเรียนเป็นครั้งแรก ในชั่วโมงแรกที่เข้าสอน ควรบอกเขาด้วยความจริงใจว่า ครูดีใจที่ได้สอนนักเรียนห้องนี้(ทั้งที่ห้องนี้เกเรสุดๆก็ตาม)

       . ต้องบอกนิสัยของเราให้นักเรียนทราบ เช่น ครูเป็นคนตรงไปตรงมานะ มีอะไรก็พูดตรงๆ เตือนตรงๆ ซึ่งการพูดตรงบางคนอาจจะไม่ชอบ แต่มีเจตนาดีกับเธอเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น ฉะนั้นเธอไม่ควรโกรธครู เพราะครูไม่มีวันโกรธเธอ

       . บอกกติกาการเรียนด้วย การเข้าห้อง มารยาทในการเรียน เช่น ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ขณะเรียน เข้าห้องให้ตรงเวลา เข้าช้าต้องมีเหตุผลที่ฟังได้ ถ้าไม่มีเหตุผลอันสมควร ครูจะให้เธอออกกำลังกาย ผู้ชายวิดพื้น ผู้หญิงสก็อตจ๊ำ หรือ ร้องเพลง ฯลฯ

       . เธอสามารถโต้แย้ง เถียง ครูได้แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ ครูผิดครูขอโทษเธอได้  เป็นต้น

       . แสดงให้เห็นว่าอย่างชัดเจนว่า ครูมีความจริงจัง   จริงใจ มีเมตตา มีเหตุผล ยุติธรรม และอภัยให้บ้างเพื่อให้เขามีโอกาสปรับปรุงตนเอง และเข้าช่วยเหลือเขาทันทีเมื่อมีปัญหาการเรียน หรือปัญหาอื่นๆ ด้วยความจริงใจ

       . ทักทาย ยิ้มแย้มแจ่มใสกับเขา และพยายามรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเขา ให้เขาเห็นว่า ครูเห็นความสำคัญของเขา ครูรักและเป็นห่วงเขา

       . เยี่ยมเยียนเมื่อป่วย ซักถามสารทุกข์สุกดิบ

       . แล้วครูจะได้ใจเขาเช่นเดียวกัน เรื่องต่างๆก็ง่ายแล้ว เมื่อเขารักเรา เขารักวิชาเรียนด้วย เขาให้เราปกครองดูแลด้วยความเต็มใจ ทุกอย่างก็ลงตัว

       . ผู้เขียนเคยพูดกับเพื่อนครูเสมอๆว่า นักเรียนไม่ใช่  สิ่งของ ที่เสียไปแล้วทิ้งไป แต่เขามีชีวิตจิตใจ ให้คิดเสมอว่า ถ้าเขาเป็นลูกของเรา หลานของเรา เราจะทำกับเขาอย่างไร เราทุกข์กับเขาเพราะเขาเกเร พ่อแม่ของเขาทุกข์ใจกว่า   คิดอย่างนี้ได้จะเป็นกำลังใจให้ครูมุ่งมั่นในการพัฒนานักเรียนของเราค่ะ

       . มามอบความรักก่อนมอบความรู้กันเถอะ

หมายเลขบันทึก: 268352เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2009 19:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 12:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

ให้ความรักก่อนให้ความรู้ นึกถึงชื่อหนังสือเล่มหนึ่งชื่อแบบนี้เลยค่ะ

คนแต่งคือ คนไร้กรอบค่ะ

20090513001429_109 
เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ควรสร้างความอบอุ่นแก่ลูกศิษย์ ให้เกิดความไว้วางใจ มีความสนิทสนม อยากเรียน อยากเข้าใกล้...ขอให้กำลังใจค่ะ...

สวัสดีค่ะคุณ berger0123

.ขอบคุณค่ะที่เข้ามาทักทาย

.หนังสือเรื่องให้ความรักก่อนให้ความรู้ ยังไม่เคยอ่านแต่อยากอ่านจัง จะได้นำกลยุทธ์มาใช้บ้างค่ะ

.ครูสมพร สอนลิง เคยใช้กับลิงด้วยค่ะ ให้ความรักมันก่อน แล้วค่อยสอนเก็บมะพร้าว

เคยไปดูคุณลุงสมพรสอนลิงมาแล้วค่ะ ได้ผลดีมากเลยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณนงนาท

.ดีใจค่ะที่เข้ามาทักทายและให้กำลังใจ ดิฉันจะสู้ต่อไปค่ะ

สวัสดีค่ะ

ให้ความรักก่อนให้ความรู้ คนไร้กรอบแต่ง โดยเอามาจากแนว ครูสมพร สอนลิงค่ะ

หนูเองยังไม่เคยอ่านเลยนะ

สวัสดีค่ะคุณberger0123

.ขอบคุณมากนะคะที่บอกแหล่งความรู้ให้ ถ้ามีโอกาสคงจะได้อ่านแน่นอนค่ะ

แจ้งกติกาก่อนการเรียน
ตกลงกันแล้วต้องปฏิบัติ
ใครทำไม่ได้ต้องมีเหตุผลชี้แจงได้
ทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส ฯลฯ

เป็นวิธีการที่ดีมากครับ

  • โห
  • ไม่ทันซะแล้วครับ แต่ไม่เป็นไร
  • เข้ามาสวัสดียามเย็นและเห็นด้วยครับ
  • กับคำว่า ให้รักก่อนจะเรียนรู้
  • สวัสดีค่ะคุณชาคริต

    .ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาอ่านบันทึก ทักทาย และให้กำลังใจ

    .จะทำต่อไปค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณพลัดถิ่น

    .สวัสดียามเย็นค่ะ

    .ขอบคุณค่ะที่ให้เข้ามาทักทายและให้กำลังใจ

    .ความรักช่วยได้หลายๆอย่างค่ะ

    ให้ความรักก่อนความรู้คือครูแท้

    รักแน่วแน่ศิษย์ทุกคนจนจบฝัน

    เมตตาธรรมค้ำจุนคุณอนันต์

    สู้บากบั่นจึงบอกค่าคำว่า"ครู"

    สวัสดีค่ะคุณบวร

    .ขอบคุณสำหรับกลอนเพราะ ๆ ซาบซึ้งจริงๆค่ะ

    .และใช่เลย...นี่คือครู

    อ่านวิธีการของครูติ่ง  ทำให้นึกถึงครูสมพรค่ะ

    ครูสมพรสอนลิง

     

    • ให้ความรักก่อนเรียนรู้
    • ให้ความไว้วางใจ
    •  ให้เคยชินกับสิ่งที่เรียนรู้   (มะพร้าวแก่เท่านั้น)
    • ให้เรียนรู้ตามลำดับจากง่ายไปหายาก 
    • ให้กำลังใจให้รางวัลเมื่อทำสำเร็จ 
    • เพิ่มระยะเวลาในการเรียนรู้ไปตามอายุของลิง

    สวัสดีค่ะพี่จุ๋ม (ภาทิพ)

    .เคยพานักเรียนไปวิทยาลัยฝึกลิงหลายครั้ง เพื่อเรียนรู้การฝึกลิงของคุณลุงสมพร ได้ความรู้และได้รับคุณธรรม ยังซาบซึ้งไม่ลืมเลย

    .ยังจำได้คุณลุงให้ความรักกับลิงก่อนสอนลิง ท่านบอกว่าจากเดิมลิงยอมให้อยู่ไกล เมื่อให้ความรักก็ยอมให้อยู่ใกล้ๆ

    .เมื่อลิงรักและไว้วางใจก็ยอมให้ลุงสอน เรียนรู้จากเรื่องง่ายก่อนเรื่องยาก

    .คุณลุงใช้ทฤษฎีการวางเงื่อนไข(คุณลุงไม่ได้บอก คิดเอาเอง) เพราะลุงให้ฝึกให้ลิงเก็บมะพร้าวสุกสีน้ำตาลเท่านั้น ในวิทยาลัยไม่มีมะพร้าวสีเขียวเลย

    .ให้รางวัลเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจ และสอนคุณลักษณะลิงอีกนะคะ ถ้าสิ่งใดที่ลุงยังไม่ให้ อย่างหยิบไปกินเอง (นม)

    .นักเรียนก็ไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ว่าเราไม่สามารถจัดสิ่งแวดล้อมให้เด็กได้เหมือนลุงสมพรที่ให้ลิงพบแต่มะพร้าวสีน้ำตาลเท่านั้น นักเรียนยังเจออะไรต่างๆนอกชั้นเรียนที่ตรงกันข้ามกับที่สอนในชั้นเรียน

    .ขอบคุณพี่จุ๋มมากๆที่นำเรื่องราวของลุงสมพรมาระลึกนึกถึง เคารพและชื่นชมและเอาเป็นแบบอย่างค่ะ คุณลุงเป็นครูชั้นยอดค่ะ เสียดายที่ท่านเสียชีวิตแล้ว

    .เคยเป็นที่ปรึกษาและสอนนักเรียนเกเรบ่อยๆ ความรักช่วยได้มากทีเดียว

    สวัสดีค่ะ

    ความรักสร้างสิ่งดีๆ เด็กๆก็ต้องการความรักจากครูนะคะ

     

    สวัสดีค่ะคุณแดง

    .ขอบคุณสำหรับดอกไม้สวยๆ ดอกชวนชมสวยมาค่ะ

    .ขอให้คุณแดงมีความสุขมากๆนะคะ

    สวัสดีค่ะอาจารย์

    ขอบคุณที่มาให้กำลังใจนะคะ

    เราจะทำสิ่งที่ดีๆให้กับเด็กนะคะ

     

     

    สวัสดีค่ะ

    มายกมือสนับสนุนค่ะ...

    ความรักจะเป็นฐานกำลังสำคัญในการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ค่ะ

    (^___^)

    สวัสดีค่ะ

    ขอบคุณนะคะคำแนะนำดีๆค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณแดง

    .ขอบคุณค่ะที่นำดอกไม้ ความสดชื่นมาให้เสมอ สวยมากค่ะ

    .เราต่างก็ทำงานเพื่อเด็กนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้เสมอ

    .โชคดีมีสุขนะคะ

    สวัสดีค่ะคุณไม่มีราก

    .ขอบคุณมากๆสำหรับกำลังใจให้นำมาให้เสมอค่ะ

    .จะทำเพื่อนักเรียนของเราต่อไปค่ะ

    ดีครับ ให้ความรักก่อนให้ความรู้

    สวัสดีค่ะคุณsmall man

    .ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่าน ทักทาย แสดงความคิดเห็น และถือว่าเป็นการให้กำลังใจกัน

    .มีอะไรก้เสนอแนะ หรือเติมเต็มได้นะคะ

    สวัสดีค่ะ

    หนูสอนนักเรียน ชั้น ป.2 นักเรียนซนมากค่ะ มีนักเรียน 50 คนในหนึ่งห้องเรียน เป็นห้องที่เด็กเรียนอ่อนที่สุดในสายชั้น และมีนักเรียนสมาธิสั้นคนหนึ่ง เขาจะไม่ค่อยทำตามข้อตกลงของห้อง และก็เลยทำให้เพื่อนๆคนอื่นๆดื้อตามไปด้วย เคยศึกษาวิธีการแก้ปัญหาหลายๆวิธีเหมือนเป็นวิธีการในอุดมคติ นำมาปฎิบัติจริงๆไม่ได้ เราพยายามใช้เหตุผลเด็กๆรับทราบแต่ยังไม่ปฎิบัติตาม เหมือนกับว่าถ้าเราใจดีเด็กๆก็ยิ่งห่างไกลจากคำว่าระเบียบวินัย ซึ่งต้องเหนื่อยมากขึ้นในการต้อนกลับมาให้อยู่ในกฎระเบียบ จึงต้องสอนไปด้วยดุไปด้วย ทำให้รู้สึกแย่มากๆ ส่วนที่ซนมากๆถึงขนาดเราดุ เขาก็ยังไม่หยุด แถมยังทำกิริยาไม่น่ารัก สอบถามผู้ปกครอง ผู้ปกครองก็ไม่เห็นว่าผิดปกติเป็นธรรมดาของเด็ก แต่เมื่อเขาอยู่รวมกับเพื่อนๆเราจะเห็นความแตกต่างชัดเจนว่าเด็กกลุ่มนี้ เขาไม่เหมือนเด็กทั่วๆไปอย่างมาก ทำยังไงดีค่ะ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท