จะซ่อมรถที่พัง...
หรือว่า...เสริมดั้ง
อะไรกันแน่...สงสัย ???
มีอะไรให้คิด ลองอ่านดูนะคะ...
ในการเรียนรู้ของผู้เรียน ทุกคนมีสิทธิที่จะได้เรียนรู้ให้เต็มความสามารถ
ตามความต้องการ ความสนใจ แต่ว่าการรับรู้ของแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป
ตามศักยภาพของเขาเหล่านั้น ไม่มีผู้เรียนคนใดโง่ เพียงแค่เราผู้เป็นครูไม่เข้าใจผู้เรียน
หรืออาจเข้าไม่ถึงความต้องการของผู้เรียน ฉะนั้นคุณครูต้องรู้จักผู้เรียนให้ดีทุกคน
ก่อนที่จะเริ่มให้เขาได้เรียนรู้ ในสาระที่คุณครูจะดำเนินการสอนซึ่งมีขั้นตอนในการวิเคราะห์ผู้เรียน
ก่อนซ่อมหรือเสริมดังนี้
ประการที่หนึ่ง เริ่มต้นด้วยการวินิจฉัยผู้เรียน วิเคราะห์จุดบกพร่องของแต่ละคน
เพื่อวางแผนพัฒนาจุดบกพร่องนั้นๆ โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน จำนวนข้อทดสอบไม่มากนัก
เพื่อให้เหมาะสมกับเวลา
ประการที่สอง เมื่อทราบจุดบกพร่องแล้ว คุณครูสามารถดำเนินการสอน
อาจมีการปรับสาระ ตามความเหมาะสม เพื่อให้เป็นไปตามลำดับความยากง่าย
ตลอดจนเสริมและจัดลำดับการพัฒนาให้กับผู้เรียน
ประการที่สาม คุณครูดำเนินการทดสอบอีกครั้งหลังเรียน
เพื่อประเมินผลความก้าวหน้าของผู้เรียนแต่ละคน และหาจุดพัฒนา
คุณครูไม่ควรดูเฉพาะคะแนนเท่านั้น ควรดูวิธีทำงานของผู้เรียน ดูรูปแบบการตอบที่ผิด
เขียนผิด ทำผิดด้วย เพราะเราต้องหาสาเหตุ
ประการที่สี่ คุณครูควรทบทวนความรู้อีกครั้ง แต่ควรใช้วิธีที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากที่สุด
เช่น การอภิปราย การแข่งขันตอบปัญหา หรือวิธีที่เหมาะสม ควรเสริมคนเก่ง ให้กำลังใจผู้เรียนที่ด้อยกว่า
ตลอดจนเสริมแรงบ่อยๆ
ณัฐิกานต์...
ชวนคิด...
"...เมื่อคุณเห็นปลา ถูกน้ำซัดมาเกยตื่น
หรืออยู่บนชายหาดที่แดดร้อนแผดเผา...เกล็ดกำลังจะแห้งขอด...
หากจะมีน้ำใจสักนิด... ช่วยจับปลาเกินตื่นเหล่านั้น ลงทะเลให้ได้น้ำ ได้อาหาร
เราก็ยังจะมีทรัพยากรที่มีคุณค่า ไว้คอยจรรโลง สังคมและโลกได้ต่อไป
จริงไหมคะ..."
สวัสดีค่ะ พี่หน่อย
เก็นด้วยทุกอย่าง ไม่กล้าขัดใจเดี๋ยวไม่ชวนไปทานของฟรี
สวัสดีค่ะ
มาอ่านเรื่องดี ๆ ของคุณครูค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(^___^)