เก็บมาเล่าจาก โครงการ ม.ชีวิต


วิสัยทัศน์ (vision) ภาพฝัน หรือภาพจริง...ใครบอก?

วิสัยทัศน์ ภาพฝันกับความเป็นจริง

PDF

พิมพ์

ส่งเมล

เขียนโดย ดร . เสรี พงศ์พิศ   

Sunday, 31 May 2009

สยามรัฐรายวัน  26 พ.ค. 2552

 

วิสัยทัศน์เป็นคำที่ใช้กันมากจนเป็นที่คุ้นเคยแล้ววันนี้ แม้ความหมายที่แต่ละคนเข้าใจอาจจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว
         
วิสัยทัศน์แปลจากภาษาฝรั่งอังกฤษว่า “
vision” (วีชั่น) ซึ่งถ้าแปลตามตัวก็หมายถึงการมองเห็น มาจากรากศัพท์ภาษาละติน (videre) ที่มาของคำว่า วิดิโอ ที่เรามาเรียกกันว่า วิดิทัศน์ ซึ่งแปลซ้ำกันสองคำ “วิดิ” ก็แปลว่าเห็น “ทัศน์” ก็แปลว่าการมองเห็น เลยไม่รู้ว่าเอาเอาละตินปนสันสฤตไปทำไมให้วุ่นวาย เช่นเดียวกับคำว่า “วิสัยทัศน์” ก็น่าจะเป็นการเอาคำสองคำ (ที่แปลว่าเห็น) เหมือนกันมาผสมกัน
         
เดิมทีคำว่า “วีชั่น” เป็นคำที่ใช้ในวงการศาสนา แปลว่า “ภาพนิมิต” ภาพไม่ธรรมดาที่คนสื่อสารกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์เพื่อเป็นสัญญาณบอกอะไรบางอย่าง หรืออาจเรียกว่า “ภาพฝัน” เพราะเป็นภาพที่ปรากฎเหมือนความฝัน
         
คนที่สามารถมองเห็นภาพนิมิตเช่นนี้ไม่ใช่คนธรรมดา มีความสามารถพิเศษ เป็นคนพิเศษ อาจเป็นคนที่สวรรค์เลือกให้เป็นผู้แทนเพื่อบอกอะไรให้แก่มนุษย์
 
        
อธิบายที่มาของคำนี้เสียยาวเพื่อจะได้บอกว่า วันนี้เราใช้คำว่า วิสัยทัศน์เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนคนหนึ่งมีความสามารถพิเศษ มองเห็นอะไรบางอย่างที่คนธรรมดามองไม่เห็น หรือว่าเห็นได้คมชัดกว่า ลึกกว่า กว้างกว่า พูดกับใครก็ประทับใจผู้คน เพราะดูเหมือนว่าคนคนนี้มีสายตาที่เห็นทั้งใกล้และไกล ไม่มีอะไรขวางกั้นการมองเห็นของเขาได้
  
       
ด้วยเหตุนี้ ภาพที่เขามองจึงมีรายละเอียด มีแง่มุมที่ดึงดูดใจผู้คน พูดไปแล้วคนอยากร่วมมือ อยากทำให้ภาพฝันนั้นเกิดเป็นจริง คนมีวิสัยทัศน์จึงเป็นคนที่มีเสน่ห์ มีแรงดึงดูดใจผู้คนให้เดินตาม เป็นคนที่มีพลัง ซึ่งผู้คนเชื่อว่า เขาสามารถ “เนรมิต” สิ่งต่างๆ ที่เขาบอกผู้คนได้ “เนรมิต” ให้เป็นอย่าง “ภาพนิมิต”

ผู้นำจำนวนมากเป็นคนมีความฝัน มีภาพฝันสวยงาม แต่ไม่ใช่ทุกคนมีวิสัยทัศน์ คนมีวิสัยทัศน์เป็นคนที่ไม่ได้เก่งแต่ฝัน แต่สามารถทำให้ฝันนั้นเป็นจริงด้วย เพราะเขาสามารถมองเห็นวิถีไปสู่เป้าหมาย และรู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว วิถีกับเป้าหมายเป็นสิ่งเดียวกัน เพียงแต่ “วิถี คือ เป้าหมายที่กำลังเกิดขึ้นจริงวันนี้และยังไม่สมบูรณ์” เท่านั้น (means is the end in the becoming) มีผู้นำจำนวนไม่น้อยที่ฝันเก่ง แต่ไม่สามารถทำให้ความฝันเป็นจริงได้ ฝันแบบนี้ไม่น่าจะเป็นวิสัยทัศน์ น่าจะเป็นแค่ฝันกลางวัน หรือฝันเฟื่องมากกว่า เพราะทำให้เป็นจริงไม่ได้

ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ คือ คนที่สร้างความฝันจากความเป็นจริง วิสัยทัศน์หรือภาพฝันของเขาจึงสามารถสัมผัสได้ เพราะเขาเอามาจากความเป็นจริง เขาเข้าถึงชีวิตจิตใจของผู้คน เข้าถึงปัญหาความทุกข์ร้อนของพวกเขา เข้าถึงความปรารถนา ความต้องการ ความใฝ่ฝันและความฝันของผู้คน เขาซึมซับสิ่งเหล่านี้มาเป็นของเขา และสร้างภาพนิมิตมาจากฐาน “ข้อมูล” ดังกล่าว

ผู้นำเช่นนี้ถึงได้ “ใจ” ของประชาชน เป็นผู้กุมหัวใจของชาวบ้านได้ สิ่งที่เขานำเสนอต่อประชาชนจึงไม่ใช่โครงการที่ทำเพื่อตัวเขาเอง แต่เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของปวงประชาจริงๆ

ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์จริงไม่หลอกประชาชน คนมีวิสัยทัศน์แต่ขี้โกงก็มี คนแบบนี้อาจจะหลอกได้บางครั้งและบางคน แต่ไม่สามารถหลอกทุกคนและตลอดไปได้ วันหนึ่งคนก็จะจับได้ว่า สิ่งที่คิดว่าเป็นวิสัยทัศน์ ที่แท้ก็เป็นแค่ฝันเฟื่อง ภาพหลอกภาพหลอนเท่านั้นเอง หรือภาพที่ใช้เพื่อให้ได้ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม

วันนี้สังคมมีความซับซ้อนมาก ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์อาจจะไม่มีความรู้รอบด้านทุกเรื่อง แต่เรียนรู้ด้วยใจเปิดกว้าง และรู้จักหาคนเก่งๆ มาช่วยคิด ช่วยสร้างภาพนิมิต ภาพที่สะท้อนความจริงของสังคมไม่ว่าระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น ภาพที่มีพลังสร้างแรงดึงดูดและแรงบันดาลใจให้คนอยากร่วมมือ

หมายเลขบันทึก: 266046เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2009 11:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 07:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท