ปกติผู้เขียนเป็นคนตื่นไม่สาย แต่ก็ไม่เคยต้องตื่นเช้าขนาดนี้ แท๊กซี่มารับตรงเวลาตามนัด การเหมาที่นี่อาจจะไม่เหมือนที่อื่น หากไม่เปิดแอร์คิด 700 บาท แต่หากอยากเย็นสบายก็เพิ่มอีก 100 บาท ค่าแอร์คะ (แต่ผู้ที่เป็นข้าราชการที่จะต้องเบิกค่าพาหนะ โปรดระวังด้วย เพราะเบิกได้สูงสุด 500 บาทเท่านั้นค่ะ) ปกติแท๊กซี่นั่ง 6 คน ไม่รวมคนขับ ไปหาดใหญ่คนละ 100 บาท หากจะให้ไปส่งที่สนามบินก็เพิ่มอีก 100 บาท แท๊กซี่ที่นี่ไม่ธรรมดานะค่ะ ส่วนใหญ่เป็นเบนซ์ทั้งนั้น แต่อายุค่อนข้างจะเป็นวัยกลางคนสักหน่อย เพราะบางคันที่เคยเหมา ถึงจะยอมจ่ายค่าแอร์ แต่คนขับก็ไม่เปิดให้ ไม่ใช่อะไร แอร์เสียค่ะ...
ผู้เขียนนั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ ถึงสนามบิน ขึ้นเครื่องไปลงที่สุวรรณภูมิ ถึงแล้วก็ไปต่อคิวเรียกแท๊กซี่ ยอมจ่ายเพิ่ม 50 บาท หากไม่อยากจ่ายเพิ่มก็ไปเรียกแท๊กซี่ที่มาส่งผู้โดยสาร แต่คิดว่าแบบนี้ดีกว่าและปลอดภัยด้วย
คนขับคุยเก่ง พอขึ้นรถ ผู้เขียนถามว่า หากเจอผู้โดยสารที่เรียกไปใกล้ ๆ จะไม่ขาดทุนหรือ เพราะในบัตรคิวเขียนไว้ว่าเขามาคอยตั้งแต่ 8 โมง นี่ตั้ง 10 โมงแล้ว เขาบอกว่า ไม่เป็นไรหากไม่เกินชั่วโมงก็ไม่ต้องเข้าคิวใหม่มาต่อได้เลย แล้วเขาก็เล่าอีกว่า เขายอมเสียเวลาเข้าคิวเพราะปลอดภัยกว่า เวลาผู้โดยสารเรียกไปที่ไหน ๆ ก็ตามเช็คได้
ผู้เขียนก็แปลกใจ เพราะปกติเราต้องการความปลอดภัยจึงใช้บริการแท๊กซี่ชนิดนี้ ไม่คาดว่าจะทำให้แท๊กซี่ปลอดภัยด้วย เพราะใบที่ผู้เขียนได้รับจะมีทั้งชื่อคนขับและเบอร์รถเรียบร้อย แต่คนขับแท๊กซี่จะไม่มีชื่อผู้โดยสาร
เขาบอกว่า พี่ไม่สังเกตหรือมีกล้องตั้ง 6 ตัว ตรงประตู ที่พี่ยืนเข้าคิวก็มี ที่ส่งตั๋วให้แท๊กซี่ก็มี แถมเวลาที่ขึ้นแท๊กซี่ก็มีเสร็จสรรพ ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะไม่รู้ว่าเป็นใคร หากแท๊กซี่หายหรือถูกทำร้ายก็ตามได้ เออ....ปลอดภัยทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็นึกไม่ออกว่าผู้โดยสารจากสนามบินจะไปทำร้ายแท๊กซี่ทำไม
เพราะความช่างคุย คราวนี้ไม่ถามเขาก็เล่าเองว่า เขาเคยทำงานในบริษัทประกันชีวิตมาก่อน เลยเอาวิชาชีพที่เคยทำมา มาปรับใช้กับกลุ่มแท๊กซี่ เขาบอกว่า แท๊กซี่ใน กทม. มีประมาณ 100,000 คัน อยู่ที่สุวรรณภูมิประมาณ 7,000 คัน โดยแยกเป็นกลุ่ม ๆ อีกประมาณ 30 กลุ่ม มาเฟียเยอะ ในกลุ่มของเขาเป็นกลุ่มย่าโม ตั้งชื่ออย่างนี้คงเดาออกนะค่ะว่า ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดไหน แต่ตัวเขาเองมาจากสุรินทร์ สมาชิกในกลุ่ม 109 คน ได้มีการตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือกันเองในกลุ่ม
เรื่องแรกเป็นการเก็บเงินโดยเก็บวันละ 50 บาท เก็บทุกวัน 3 เดือน รวมคนละ 4,500 บาท รวมทั้งกลุ่มก็เกือบห้าแสนบาท บริหารจัดการเงินนี้โดยการสร้างเต้นท์ เป็นที่พักให้คนในกลุ่มเวลามารอเข้าคิว มีทีวี มีที่นอน มีที่ซักผ้า ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในกลุ่มได้เป็นอย่างดี เงินก้อนนี้ให้สมาชิกกู้ได้ด้วย โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 กู้ได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน ต้องมีคนค้ำด้วย 1 คน มีเงินปันผลเมื่อสิ้นปี
นอกจากนี้จากการที่เขาเคยขายประกันชีวิตมาก่อน และเห็นว่าคนขับแท๊กซี่ไม่มีสวัสดิการอะไรเลย ก็เลยชักชวนให้มาทำประกันชีวิต ให้คนที่อยากทำประกัน หยอดเงินใส่กล่อง โดยมีสมุดจดไว้ด้วยว่าใส่ไปเท่าไร จะมีคนเก็บไว้ให้ เมื่อเงินครบทำประกันได้ ก็จะจัดการทำประกันชีวิตให้ กิจกรรมของกลุ่มที่พูดถึงทำมาเกือบ 2 แล้ว ไม่รับสมาชิกเพิ่มเพราะไม่อยากมีปัญหาในการบริหาร เพราะไม่ได้ทำแบบจดทะเบียน ทำแบบไว้วางใจกัน เปิดบัญชีธนาคารใส่ชื่อ 3 คน เวลาเบิกต้องเซ็นชื่อ 2 คน
ผู้เขียนถามว่าแล้วกรรมการที่ทำงานอยู่ได้รับอะไรบ้าง เขาบอกว่าได้รับความภูมิใจและหากกู้เงินไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
นี่คงเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ตัวอย่าง ที่ก่อตั้งกลุ่มเพื่อช่วยเหลือกันเอง ความยืนยาวของกลุ่มคงจะขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ของกรรมการและสมาชิก เผอิญว่ารถถึงกรมอนามัยเสียก่อนเลยไม่ได้ถามว่า บริหารมา 2 ปี มีปัญหาอะไรรึเปล่า...แต่ก็ยังถือว่าได้กำไรแล้วสำหรับวันนี้
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
เสาะ
วันนั้นเราบอกแล้วว่าไปนอนบ้านเราก็ได้ ก็ไม่ยอม แต่ไม่เป็นไรได้เนื้องานอีกเยอะใช่ใหมคะ เจอเทกซี่ดีก็ดีไปเคยเจอเทกซี่ที่สุวรรณภูมิ ไก่ไปกับลูกสาวคนเล็กเที่ยวค่ำ ถึงสุวรรณภูมิประมาณ 4 ทุ่ม เรียกเทกซี่จากคิวบวกเพิ่ม 50 บาทเหมือนกัน พอเค้าเห็นเราเป็นคนไทยเค้าว่าอย่างไรรู้ไหมคะ เค้าบอกว่าวันนี้ซวย ไก่เลยถามว่าซวยอะไรเค้าบอกที่ได้ผู้โดยสารที่เป็นคนไทย และลงแค่ที่ห้วยขวาง
ขอบคุณค่ะที่เข้าไปคอมเม้นท์กัน
เลยได้เข้ามาอ่านประสบการณ์ที่น่าสนุกของพี่
ขอบคุณนะค่ะ