ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้น


ความสำเร็จที่เราเพียรพยายามเป็นเวลา ๓ เดือนกว่า ๆ ที่เราต้องมุมานะกับการที่ต้องดูตำราต้องฝึกฝนและต้องปฏิบัติ ทั้งหมดที่ทำมาไม่เสียเปล่า

ตอนที่ 21

 วัยทำงาน  

             เมื่อกลับถึงบ้านรู้ว่าในการสอบนั้นมีทั้งข้อเขียนและปฏิบัติ ข้อเขียนเป็นวิชาความรู้ทั่วไป ความรู้วิชาชีพ(บัญชี) ภาษาอังกฤษ  ส่วนปฏิบัติพิมพ์ดีดภาษาไทย และอังกฤษ  สิ่งที่ต้องฝึกฝนทบทวนก็คือพมิพ์ดีด แต่ก็ไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ เพราะสมัยเรียนพิมพ์ได้ดีพอสมควร แต่ที่สำคัญจะไปฝึกที่ไหนล่ะ สมัยนั้นที่อุตรดิตถ์ ร้านที่ให้เช่าเครื่องพิมพ์ดีดนั้นไม่มีเลย  อาศัยว่าที่ทำงานของพ่อมีเครื่องพิมพ์ดีดจึงไปฝึกที่ทำงานพ่อ  ไปเกือบทุกวันจนคิดว่าตนเองพอจะสู้กับคนอื่นได้

ผมจำไม่ค่อยจะได้ว่าวันที่สอบนั้นเป็นวันที่ ๒๕ หรือวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๒๒  แต่จำได้ว่าสอบเสร็จ ๑ อาทิตย์เรียกตัวเข้าทำงานเลย  ที่รู้เพราะว่าในประวัติการเข้าทำงานเขียนไว้อย่างนั้น  ว่าเข้างานตั้งแต่วันที่ ๓ ธันวาคม  ๒๕๒๒  

บรรยากาศวันสอบผมไปถึงสถานที่สอบเป็นคนแรก จะไม่ให้มาคนแรกได้อย่างไร ออกจากอุตรดิตถ์ประมาณ ตี ๓  ถึงแม่เมาะประมาณตี ๔ กว่า ๆ นั่งรออยู่สถานีรถไฟประมาณชั่วโมงกว่า  ๆ  ถึงจะเข้าไปที่ทำการเหมืองแม่เมาะ  ก่อนเข้าห้องสอบก็ตื่นเต้นบ้างเล็กน้อย  ยิ่งพอสอบภาคปฏิบัติตื่นเต้นสุด ๆ  ไปสอบครั้งนี้ใช้เวลาสอบทั้งหมดตั้งแต่ ๘ โมงเข้าถึงบ่ายสามโมงรวมทั้งสอบสัมภาษ์เรียบร้อย ผมมาสอบครั้งนี้ไม่ผิดหวังวันเดียวรู้เรื่อง  เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมห้องสอบบอกไม่ต้องกลับหากใครจะรอผลสอบประมาณ ๕ โมงเย็นจะประกาศผล  ผมลืมบอกไปว่าในการสอบครั้งนี้รับเข้าทำงาน ๕ คน เมื่อเทียบกับจำนวนผู้สอบ ๓๐ กว่าคนถือว่ารับเยอะพอสมควร  สาเหตุที่คนมาสมัครน้อยอาจจะเป็นเพราะว่าในประกาศรับสมัครลงไว้ว่ารับสมัครลูกจ้างชั่วคราวระยะยาว  ตอนนั้นผมฟังจากทีวีผมไม่ได้ยินหรอกว่าชั่วคราวระยะยาว  ได้ยินว่าลูกจ้างก็รีบมาทันที

เวลาสำคัญมาถึงเมื่อเจ้าหน้าที่นำผลการสอบออกมาติดผลปรากฏว่าผมสอบได้ที่ ๑  มีเพื่อน ๆ ที่สอบด้วยด้วยกันแสดงความยินดีรวมทั้งผู้ที่สอบได้ด้วยกันต่างคนต่างก็แสดงความยินดีซึ่งกันและกัน  เป็นอีกครั้งที่น้ำตาแห่งความดีใจไหลออกมา  ในประกาศให้ผู้ที่สอบได้มารายงานตัวพร้อมทำงานตั้งแต่วันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๒๒  เป็นต้นไป

เมื่อทราบผลเป็นที่เรียบร้อยผมเดินทางกลับบ้านด้วยความภาคภูมิใจในความสำเร็จที่เราเพียรพยายามเป็นเวลา ๓ เดือนกว่า ๆ  ที่เราต้องมุมานะกับการที่ต้องดูตำราต้องฝึกฝนและต้องปฏิบัติ  ทั้งหมดที่ทำมาไม่เสียเปล่า  พอถึงบ้านเห็นหน้าพ่อแม่ และน้องบอกข่าวดีให้ทุกคนทราบ แต่ละคนดีใจกันเป็นที่สุด  แต่ลึก ๆ แล้วผมเองรู้อยู่กับใจว่ามันเป็นแค่ลูกจ้างระยะยาว  ผมขออนุญาตที่จะอธิบายเพิ่มเติมเรื่องการเรียกชื่อลูกจ้าง หรือพนักงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ในสมัยนั้นสักนิด การเรียกชื่อมีลูกจ้างชั่วคราวระยะสั้นมีกำหนดระยะเวลาแน่นอน  ลูกจ้างชั่วคราวระยะยาวจ้างไปจนกว่างานโครงการจะแล้วเสร็จ  ลูกจ้างทดลองงาน  (ทำครบ ๙๐ วันจะพิจารณาว่าสมควรที่บรรจุเป็นพนักงานหรือไม่) ผมเองยังไม่ได้บอกกับทางบ้านว่าเป็นลูกจ้างชั่วคราวระยะยาว เพราะคุย ๆ กับเจ้าหนาที่แล้วบอกว่าโครงการนี้ยาวมาก  ๕  ปีอาจจะยังไม่จบ ผมเลยไม่บอกกับทางบ้าน

วันที่ต้องเดินทางจากบ้านอีกครั้งเพื่อไปทำงาน  ผมไปก่อนล่วงหน้าที่จะเป็นวันทำงาน ๑ วัน สิ่งที่เตรียมไปมีเสื้อผ้าและผ้าห่มผืนบาง ๆ เท่านั้น  เมื่อไปถึงตระเวนหาที่อยู่ให้ใกล้ที่ทำงานมากที่สุด แถว ๆ เหมือง  ก็คือหมู่บ้านเวียงสวรรค์พอดีเจอเพื่อนที่รู้จักเป็นรุ่นน้องที่เขาจำผมได้ผมบอกวัตถุประสงค์เค้า เค้าก็พาไปหาห้องเช่าให้เป็นห้องเล็ก ๆ ไม่มีอะไรเลยในห้องกว้างสักสองเมตร ยาวสักสามเมตรเห็นจะได้ และเป็นชั้นล่าง (ใต้ถุน) อีกต่างหาก  ข้างบนนั้นจะมี ๔ ห้องเป็นห้องเช่าทั้งหมดข้างล่างมีห้องเดียว  ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม   จริง ๆ แล้วห้องที่ผมอยู่นั้นเป็นเพียงที่เก็บไม้สัก  คือเอาไม้มาตอกเป็นห้องไว้ก้นตำรวจจับก็เท่านั้นเองไม้นี่หนาปึกแผ่นใหญ่มาก ๆ ดูเหมือนเล้าหมู  มันจะเป็นอะไรก็แล้วแต่มันก็เป็นที่นอนของผม  ที่สำคัญค่าเช่าแค่ ๓๐๐ บาท เมื่อเห็นห้องว่าในห้องไม่มีอะไรผมไปหาซื้อเสื่อ และหมอนโดยรุ่นน้องที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันพาไปซื้อ  

คืนแรกที่แม่เมาะ ที่ผมเคยได้ยินคนอื่นเค้าพูดกันว่าหนาวเข้ากระดูกเป็นอย่างไรคืนนั้นผมได้รับรู้ได้สัมพัสอากาศที่สุดแสนจะหนาว เสื้อยืดที่เอาไปใส่จนหมดรวมทั้งเสื้อกันหนาวด้วยยังไม่หายหนาว  คืนนั้นนอนไม่ค่อยหลับเพราะอากาศที่เย็นมาก ๆ ทำให้ผมหลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืน  ประมาณตีห้าได้ยินเสียงห้องข้างบนตื่นขึ้นมาพร้อมกับเด็ก ๆ ที่ต้องเตรียมตัวเพื่อจะไปโรงเรียนกัน 

เช้านั้นผมอาบน้ำเหมือนไม่ได้อาบเพราะน้ำมันเย็นเหมือนน้ำแข็งแค่ล้างหน้าเอาน้ำรูปตัวนิดหน่อยก็แทบไม่ไหวแล้ว  เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อยแต่งตัวพร้อมที่จะไปทำงานผมเดินไปทำงานเพราะที่ทำงานอยู่ไม่ไกลเดินประมาณสักสองร้อยเมตรเห็นจะได้  ติดกับที่ทำงานมีร้านขายข้าวชื่อร้านโกคิ้ม (เจ้าของฉายามึงจะแหลกหรือไม่แหลก ) เพราะมีอยู่ร้านเดียวเป็นคนจีนที่ติดสอยห้อยตามมากับหัวหน้าโครงการจากกระบี่  

พอถึงที่ทำงานรายงานตัวเพื่อเข้าทำงานทั้งหมด ๕ คน  หัวหน้ากองบัญชีให้ผมเลือกเป็นคนแรกว่าผมจะอยู่แผนกไหน มีแผนกตรวจจ่าย แผนกการเงิน และแผนกงบประมาณและรหัสบัญชี   ผมเลือกอยู่แผนกงบประมาณและรหัสบัญชี  ผมทำงานได้ประมาณสองเดือนมีโทรเลขจากทางบ้านมาถึงที่ทำงานให้กลับบ้านด่วน  ผมเองตอนนั้นไม่รู้เหมือนกันว่ามีเรื่องอะไร             

คำสำคัญ (Tags): #สอบ
หมายเลขบันทึก: 263809เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2009 20:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 21:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • ขอบคุณครับคุณปรเมศร์ที่แวะเข้ามา
  • ขอบคุณครับอาจารย์พิมญดา ได้อาจารย์ดีครับผม

 

ด้วยจิตคาระวะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท