คลังปรับแผนแก้ปัญหาขาดสภาพคล่อง
ขอดึงเฉพาะเงินกองทุนที่คลังมีอำนาจบริหารเท่านั้น
ลั่นไม่แตะเงินกองทุนของกระทรวงอื่นหวั่นมีปัญหาขัดแย้ง
นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า
แผนการดึงเงินกองทุนต่างที่ไม่ได้ใช้
และฝากไว้ในธนาคารพาณิชย์หาประโยชน์จากดอกเบี้ย
ให้มาฝากไว้ที่กระทรวงการคลังเพื่อแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องเบิกจ่ายในระยะยาว
ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้ว
โดยกระทรวงการคลังจะดึงเงินกองทุนเฉพาะกองทุน
ที่กระทรวงการคลังมีอำนาจบริหารและสั่งการโดยตรงเท่านั้น
ซึ่งมีประมาณ 50 กองทุน ส่วนจำนวนเงินเป็นเท่าไร
อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเนื่องจากยังมีการคาดเคลื่อนอยู่มาก
เช่น บางกองทุนแจ้งไว้ในวันที่ 31 มีนาคม มีเงินฝากธนาคาร 200
ล้านบาท แต่มาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ใช้ไปแล้วเหลือ 20 ล้านบาท
เป็นต้น
นายบุญศักดิ์ กล่าวว่า
สำหรับกองทุนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงอื่นประมาณ 40 กองทุน
กระทรวงการคลังยังจะไม่เข้าไปดำเนินการ
เนื่องจากมีความยุ่งยากที่จะตรวจสอบว่า
กองทุนต้องใช้เงินลงทุนเมื่อไร เป็นเงินจำนวนมากน้อยขนาดไหน
ถ้าไปดึงเงินกองทุนจะทำให้การ ดำเนินการของกองทุนมีปัญหาได้
ก็ให้ดำเนินการในส่วนของกองทุนที่กระทรวงการคลังดูแลไปก่อน
ซึ่งมีกองทุนขนาดใหญ่ ได้แก่ กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
ที่มีเงินหมุนเวียนแต่ละปี 2-3 หมื่นล้านบาท เทียบกับกองทุนทั้งหมด 90
กองทุนของทุกกระทรวง
มีเงินประมาณ 7 หมื่นล้านบาท
นายบุญศักดิ์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะเสนอเรื่องให้ นายศุภรัตน์
ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง
เพื่อดำเนินการพิจารณาและนำเสนอหลักการให้กับ นายทนง พิทยะ
รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อนุมัติอีกครั้ง
เพื่อวางแผนดำเนินการในขั้นปฏิบัติการต่อไป
ซึ่งน่าจะเริ่มได้ปีงบประมาณ 2550
“ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ดูรายรับ รายจ่าย
ของประเทศในปีหน้า เพื่อนำมาวางแผนการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2550
คาดว่ารายได้ยังเป็นตามเป้าที่วางไว้ ส่วนการเบิกจ่ายจะต้องระมัดระวัง
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง” นายบุญศักดิ์ กล่าว
นายบุญศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการบริหารสภาพคล่องการเบิกจ่ายในปี
2549 คาดว่าจะไม่มีปัญหาเหมือนกับเดือนมีนาคมและเมษายนอีกแล้ว
เพราะปลายเดือนเมษายนนี้จะมีเงินปันผลจากบริษัท ปตท. ประมาณ 1.3
หมื่นล้านบาท เข้ามาทำให้การบริหารสภาพคล่องดีขึ้น
จากปัจจุบันที่หน่วยราชการเบิกจ่ายวันละประมาณ 3-4 พันล้านบาท
เดือนละ 1-1.2 แสนล้านบาท
สำหรับปัญหาการเบิกจ่ายค่าจ้างลูกจ้างของส่วนราชการ
ได้แก้ไขปัญหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับงบประมาณปี 2550
กระทรวงการคลังเสนอประมาณการรายได้ไว้จำนวน 1.476 ล้าน ล้านบาท
โตขึ้นกว่าปี 2549 ที่ตั้งไว้ 1.36 ล้านล้านบาท 8.5%
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังได้ประมาณการรายได้ 3
ปีล่วงหน้า คือในปี 2551 จำนวน 1.601 ล้านล้านบาท ปี 2552 จำนวน 1.737
ล้านล้านบาท และปี 2553 จำนวน 1.885 ล้านล้านบาท
โพสต์ทูเดย์ 1 พฤษภาคม 2549
ไม่มีความเห็น