'มูลนิธิแสง-ไซ้กี'นำแพทย์ลงรักษาชาวบ้านคลองท่อม


'มูลนิธิแสง-ไซ้กี'นำแพทย์ลงรักษาชาวบ้านคลองท่อม 12 พ.ค. 2552
'มูลนิธิแสง-ไซ้กี'นำแพทย์ลงรักษาชาวบ้านคลองท่อม
 

มูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล จับมือกรมการแพทย์ และนศ.วปอ. 27 จัดทีมแพทย์ลงพื้นที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ออกตรวจรักษาโรคชาวบ้าน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” พบเกือบพันรายป่วย

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย อ.คลองท่อม จ.กระบี่ นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผวจ.กระบี่ เป็นประธาน เปิดการตรวจรักษาฟรีของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล โดยคณะแพทย์ นักศึกษา วปอ.27 ร่วมกับ กรมการแพทย์ รพ.ราชวิถี รพ. สมิติเวช รพ.เลิดสิน รพ.จุฬาฯ รพ.สงฆ์ รพ. เมตตาประชารักษ์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงและก้าวขึ้นสู่ปีที่ 60 แห่งพระบรมราชาภิเษก ทั้งนี้คณะแพทย์ วปอ.27 ประกอบด้วย ศ.นพ.เทพนม เมืองแมน, นพ.ประมุข จันทวิมล พญ.ฉวี สิงหวิสัย, นพ.ทวี ลิมปะวัชระ นพ.วิเศษ วชิรพงศ์ ตรวจรักษาโรคทั่วไป และยังมี พญ.รุจา เสวิกุล จาก รพ.สมิติเวช นพ.ธนู ลอบันดิส จาก รพ.   เลิดสิน มาตรวจเด็กที่เจ็บป่วย นพ.สุทัศน์ ดวงดีเด่น จาก รพ.เลิดสิน นำเครื่องมือเลเซอร์มาตรวจรักษามะเร็งผิวหนัง นพ.วิชัย วิจิตรพรกุล ผู้เชี่ยวชาญโรคนิ้วล็อก จะมาให้การตรวจและรักษาโรคนิ้วล็อกโดยไม่ต้องผ่าตัด
 
ส่วนคณะแพทย์จาก รพ.ราชวิถี นำโดย นพ.สุกิจ พันธ์พิมานมาศ, นพ.ชัยรัตน์ โภคาวัฒนา, นพ.สุวิทย์ เกียรติเสวี, นพ.ทวี รัตนชูเอก, นพ.จีรศักดิ์ วรรณประเสริฐ, นพ.สิริพงศ์ สิริกุลพิบูลย์, นพ.เฉลิมพล บุญมี และยังมี พญ.ฐิรดา ทองใบ จาก รพ.จุฬาฯ มาตรวจส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ ด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อตรวจหามะเร็งในกระเพาะอาหารและลำไส้ และอัลตราซาวด์ ตับ ม้าม ไต สามารถตรวจความผิดปกติได้อย่างละเอียด
 
นอกจากนั้นยังมี นพ.ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข นำคณะมาช่วยตรวจโรคจอประสาทตา ตรวจโรคตาทั่วไป และตรวจเบาหวานในดวงตาด้วย ส่วนโรคทางหู มีคณะแพทย์จาก รพ.สงฆ์ นำโดย พญ.วราภรณ์ ภูมิสวัสดิ์ นพ.กฤษณะ พันธ์ ธนกรไพศาล มาร่วมคณะ และยังมีคณะแพทย์จาก รพ.สวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี มาช่วยตรวจสุขภาพจิตคนไข้ พร้อมด้วยหน่วยทันตกรรมจาก รพ.จุฬาฯ นำโดย ทันตแพทย์หญิงอรอนงค์ กิจไกเศศศักดิ์ และ รพ.กระบี่ มาช่วยตรวจโรคในช่องปากและทำฟันให้ด้วย นอกจากนั้นยังมีทีมตรวจวัดสายตาประกอบแว่น   จาก รพ.เมตตาประชารักษ์ นำทีมแว่นแก้ว ร่วมตรวจสายตาและแจกแว่นตาให้ฟรีอีกด้วย
 
ด้านนางประพีร์ ปุ้ยพันธวงศ์ ประธานมูลนิธิแสง-ไซ้กี เหตระกูล กล่าวว่า ในวันนี้  มีประชาชนมารับการตรวจโรคทั่วไป 759 ราย รักษานิ้วล็อก 35 ราย 40 นิ้ว ตรวจรักษาโรคผิวหนังด้วยเครื่องยิงเลเซอร์ 240 ราย และตรวจอัลตราซาวด์ตับ 61 ราย พบเป็นนิ่ว 2 ราย ไขมันสูง 10 ราย ส่องกล้อง 83 ราย พบเชื้อในกระเพาะ 7 ราย กระเพาะอักเสบ 17 ราย มีพยาธิ 1 ราย ทำฟัน 150 ราย ต้องขอขอบคุณ คณะแพทย์ทุกท่าน คุณเพ็ญรัตน์ โชติกพุกกะนะ รองผู้ว่าการ กฟภ. และนายทรงพล ยุวนิชยา   กุล ผอ.กฟภ.เขต 2 นครศรีธรรมราช ที่สละเวลาอันมีค่าร่วมเดินทางมาให้บริการตรวจรักษาชาวกระบี่ ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสร้างกุศล ร่วมกันแล้ว ยังเป็นการพร้อมใจกันสร้างกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระ พลานามัยที่แข็งแรง อยู่เป็นพระมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป ขอบคุณการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ให้การสนับสนุนกำลังคน และพาหนะในการเดินทางของคณะแพทย์ทุกครั้งด้วย ซึ่งคณะแพทย์ วปอ. 27 ได้ออกให้การตรวจรักษาชาวบ้านในชนบทที่ห่างไกลติดต่อกันมาเป็นเวลา 22 ปีแล้ว และจะยังคงทำต่อไป.

หมายเลขบันทึก: 260996เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2009 01:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 10:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

คนค้นคน...ชีวิตไม่ใช่นิยาย

.

สุดยอดแห่งการสู้ชีวิต (บ.อาปีโก้ ระยอง)

....แต่อ่านแล้วอยากร้องไห้เลยจริงๆ

ได้อ่านแสงไฟในเศษฟืน เรื่องราวชีวิตจริงของหญิงชราสู้ชีวิต ทำให้นึกถึงคนใกล้ๆตัว เราบ้าง

ลุงปราโมชย์ ชายชรา อายุ 59 ปี ที่ชีวิตใกล้วัยเกษียณ แต่ในความจริงแทนที่จะได้ใช้ ชีวิตพักผ่อนในปั้นปลาย อยู่กับลูกหลานอย่างมีความสุข

ไม่อาจทำเช่นนั้นได้..ทุกวันที่เรามาทำงานที่อาปีโก้ ระยอง ภาพที่เห็นจนชินตา คือลุงที่ดูแลสวน อยู่กลางแดดเปรี้ยงๆ

ที่แม้แต่คนหนุ่มสาวอย่างเรายังทนแทบไม่ไหว แต่ลุงยังคงทำงาน พร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนว่างานที่แกทำสำคัญกว่า

ความลำบากของร่างกาย ทำให้น้องคนหนึ่ง ( น้องชิต ) อดที่จะเข้าไปพูดคุยกับแกไม่ได้

จากการถามเรื่องราว ทำให้เราได้รับรู้ว่า ความลำบากที่เคยเห็นจาก Forward mail ที่ผ่านๆมาอยู่ใกล้เราแค่นี้เอง

เราได้รู้ว่าชิวิตของลุงนั้นต้องอยู่อย่างลำบากในเพิงสังกะสีเก่าๆ ขนาด 3 X 3 เมตร ที่สร้างขึ้นชั่วคราวของแคมป์คนงาน

ไม่ต่างจากกองขยะ ที่ทั้งอุดอู้ สกปรก และหากวันไหนฝนตก จากสภาพที่เห็น “ บ้าน “ ที่แกอยู่ไม่สามารถกั้นฝนอะไรได้เลย

แต่ลุงก็ต้องทนอยู่ต่อไป เพราะคำตอบจากปาก ด้วยเสียงสั่นเครือ..” ลุงไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน “

ลุงมี 3 ชีวิตที่ต้องหาเลี้ยงป้าที่ป่วยด้วยโรคเก๊าต์ ด้วยความที่ไม่มีเงิน เมื่อโรครุมเร้าไม่อาจพาไปรักษา

จนอาการ ป่วยเรื้อรังจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

ต้องนอนป่วย จนหลานสาว อายุไม่ถึง 10 ขวบดี ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน เพื่อมาดูแลย่าของตน

ส่วนหลานคนเล็ก ก็ถึงวัยเข้าโรงเรียน แต่ด้วยความขัดสนทำให้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้

ด้วยการที่อาศัยอยู่ที่แคมป์คนงาน ลุงทำงานเพียงคนเดียว แต่มี 3 คนที่ต้องดูแล ทำให้มีคำเสียดสีจากคนงานแคมป์เดียวกัน

ว่า ทำงานคนเดียว กินใช้น้ำ ไฟ ตั้ง 3 คน แต่ลุงก็ต้องก้มหน้ารับและไม่อาจตอบโต้ คำนินทา เสียดสี จากเพื่อนร่วมแคมป์

ด้วยกลัวว่าหากต้องย้ายไป ป้าและหลานต้องลำบากยิ่งกว่านี้..และที่สำคัญ จะไปอยู่ที่ไหน?

สัปดาห์ก่อนนู้น เรากับน้องๆได้มีโอกาสไปดูสภาพที่อยู่ของลุง

ตอนนั่งรถไปก็คุยกับลุงไป

ลุงบอกว่าที่จริงมีลูกถึง 6 คน แต่เมื่อเติบโตมีครอบครัวก็ไม่มีใครกลับมาเหลียวแล

หลายปีก่อนลูกชายที่หายไปนานกลับมา พร้อมเด็กน้อย 2 คนและบอกลุงว่าได้เลิกกับแฟน

จึงมาหาลุงเพื่อขออาศัยชั่วคราว พร้อมฝากลูกไว้..จากนั้นก็ได้หายไป และไม่เคยกลับมาดูแล หรือแม้แต่ส่งเงินมาให้ลูกอีกเลย

แต่ลุงรักหลาน 2 คนนี้มากถึงกับบอกว่าลุงตายไม่เป็นไร แต่ขอให้หลานกินอิ่มท้องก็พอ..

วันนั้นพี่นิดซื้อขนมให้ลุงตอนเที่ยง พอตอนเย็นยังเห็นห่อขนมอยู่

พี่นิด : ลุง ไม่กินล่ะ..ไม่ชอบเหรอ

ลุง : ลุงเก็บไว้ให้หลาน..เค้าไม่ค่อยได้กิน..เก็บไว้ไห้เค้าคงดีใจ ทำเอาคนซื้อให้น้ำตาซึม …

.......เห็นในรถเงียบ ชิต เลยทำลายความงียบ

ชิต : ลุง..เมื่อเช้านี้กินข้าวกะอะไร

ลุง : กินกับแกง

ชิต : แล้วตอนเที่ยงล่ะ

ลุง : .....( เงียบ ) ..ลุงกินมื้อเดียว..ลุงไม่มีตังค์ ตอนเช้ายืม รปภ. 10 บาท เลยซื้อแกงได้ถุงเดียวเลยกิน มื้อเดียว

..คราวนี้ทั้งรถเงียบเลย....

ชิต...ทำลายความงียบ.. .อีกรอบ

ชิต : แล้วเย็นนี้จะกินกับอะไร

ลุง: ( ยิ้ม ...ยกถุงผักบุ้งที่เก็บหลังโรงงานให้ดู ) นี่ไง..ลุงเก็บมาเยอะ..กินกับน้ำพริก

พี่นิดตาแดงๆ.. จะร้องไห้…

ภาพแรกที่เราเห็นเมื่อลงรถ เห็นหลานสาวพยุงป้ากินข้าวอยู่ใน “ บ้าน “

ป้ากินข้าวเปล่ากับน้ำ คือ น้ำจริงๆ ..น้ำเปล่าที่เราดื่มเนี่ยแหละ แต่ป้าเทใส่ถ้วย

เหมือนกับข้าว แล้วก็เอาข้าวเปล่าคลุกน้ำในถ้วยกิน

ชิตเอายามาให้ ลุงกับป้าอ่านหนังสือไม่ออก ต้องเรียกหลานที่จบป.3 ครึ่งมาช่วยจำ

ป้าร้องไห้จนเราจะร้องตาม…

หลานเอ้ย...ตั้งใจทำงานนะลูก..อย่าให้ต้องมีชีวิตเหมือนยาย ( แกแทนตัวเองว่ายาย..)

วันนั้นเรากลับมาพร้อมกับความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจ..และคิดว่า พอมีทางไหนที่จะช่วยลุงได้

แม้เพียงความช่วยเหลือเล็กๆ แต่มันคือ คุณค่าที่ยิ่งใหญ่ ที่ได้ให้กับชายชราคนหนึ่ง พร้อมกับอีก 3 ชีวิตที่ต้องดูแล

เราส่งเมลล์นี้มา ด้วยความที่อยากช่วยเหลือลุง แต่ไม่รู้จะช่วยด้วยวิธีไหน

อยากให้เพื่อนๆช่วยForward mail นี้ต่อกันไปเรื่อยๆ

เผื่อว่าคนที่อยู่แถวอมตะซิตี้ ระยอง หรืออาจห่างไกลกว่านั้นแต่มีใจที่จะช่วยเหลือ 4 ชีวิตที่กำลังลำบาก

ถ้าเพื่อนไม่ได้ผ่านไปก็ช่วยForward mail นี้ต่อๆกันไปที

ถือว่าเป็นการทำบุญเท่าที่เราทำได้ เผื่อว่าวันหนึ่ง

จะมีใครสักคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือ

ลุงปราโมชย์ ให้เป็นอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท