ครูอู๋ได้ไปเข้ารับ การอบรมผู้บริหารที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อต้นปี ๒๕๔๙ และกลับมาเขียนบทความเรื่อง "ประสบการณ์จากมหาวิทยาลัยมิสซูรี – เซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกากับการวิจัยในมหาวิทยาลัยไทย" อาจนานไปหน่อย แต่ขอหยิบยกข้อความบางตอนที่คิดว่ายังไม่ล้าสมัยมาถ่ายทอดให้เพื่อนได้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของประเทศไทยดังต่อไปนี้คะ
ข้อที่น่าสังเกตและเป็นจุดเด่นของมหาวิทยาลัยมิสซูรี – เซนต์หลุยส์ แม้เพียงการสัมผัสจากคณะผู้บริหารระดับสูง คือ การให้ความสนใจสนับสนุนด้านการวิจัยอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งการเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้บริหารด้านการทำงานวิจัย กล่าวคือ ในหัวข้อการบรรยายทุกเรื่องจะต้องกล่าวถึงเรื่องการทำงานวิจัยแทรกซึมอยู่ตลอด เสมือนงานวิจัยเป็นหัวใจ และเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตของงานต่างๆของบุคคลในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิชาการ การจัดการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตร การพัฒนาชุมชน การพัฒนานักศึกษา การประเมินบุคลากร หรือแม้แต่การอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรม สำหรับแบบอย่างที่ดีของผู้บริหารด้านการทำงานวิจัยนั้น ตัวอย่างท่านอธิการบดีเพียงคนเดียวก็อธิบายภาพของมหาวิทยาลัยมิสซูรี – เซนต์หลุยส์ ได้ชัดเจนเกินพอแล้ว ท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยมิสซูรี – เซนต์หลุยส์ ศาสตราจารย์ โทมัส เอฟ จอร์จ (Professor Tomas F. George) นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า นอกจากจะเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดของUM-SL ซึ่งต้องมีบทบาทของอธิการบดี ผู้นำชุมชน และผู้บริหารที่หางบประมาณให้มหาวิทยาลัยเป็นหลักแล้ว ยังมีการทำงานวิจัยอย่างสม่ำเสมอ ท่านเป็นศาสตราจารย์ด้านเคมีและฟิสิกส์ รวมทั้งเป็นนักวิจัยที่มุ่งมั่นกระตือรือร้นในการทำงานเพื่อพัฒนาทฤษฎีและเทคนิคทางคณิตศาสตร์ ผสมผสานกับคอมพิวเตอร์ เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ ด้าน Chemical / materials Laser physics ซึ่งประยุกต์ไปสู่วิทยาการด้านนาโนเทคโนโลยี
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย Assistant Professor Dr. Chittrapa Kundalaputra ใน จิตราภาคุยสบายๆสไตล์นักวิจัย
ถ้าบุคลากรในมหาวิทยาลัยไทยโดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยราชภัฏ ราชมงคล มีความคิดและการปฏิบัติแบบนี้ก็วิเศษเลยนะ ขณะนี้นะมีบางคนไม่ทำวิจัยแล้วชอบว่า(นินทา)คนทำวิจัยด้วย
จุ๋งเองค่ะ