ถึงวันนี้ “โครงการ KM-NCD Network” คืบหน้ามาถึงจุดที่สามารถชักชวน เชื่อมโยงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจากหลายภาคส่วนมา “ร่วมกันวางแผนการดำเนินงาน” เพื่อพัฒนาเครือข่ายฯ ด้วยเครื่องมือ “แผนที่ผลลัพธ์” หรือ Outcome Mapping - OM โดยจัด workshop ไปเมื่อวันที่ 1-3 เมย. ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เราได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานจากกันและกัน รวมทั้งได้ “แผนที่กลยุทธ์” คร่าวๆ ที่จะใช้เป็นกรอบการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันต่อไปได้
ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ “คุณหมอฉายศรี” ในฐานะหนึ่งใน “แกนนำ” หลักของโครงการฯ และผู้เขียนได้นัดหมายพูดคุยกันหลายครั้ง โดยมีประเด็นหลักๆ ที่แลกเปลี่ยนกันอยู่ 2 ประเด็น คือ
เรื่องแรก คือ การดำเนินงานขั้นต่อไปของโครงการฯ หลังผ่าน OM Workshop มาแล้วประมาณ 1 เดือน พบว่า สมาชิกเครือข่ายที่เข้าร่วม workshop หลายท่านได้โทรศัพท์มาติดตามถามไถ่ว่า “เรา” จะทำอะไรกันต่อ และจะมีอะไรให้ช่วยในการขับเคลื่อนการดำเนินงานก้าวต่อไปของเครือข่ายได้บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากสำหรับน้ำใจไมตรี รวมไปถึงความกระตือรือร้นของสมาชิกเครือข่าย ผู้เขียนคิดว่า กระบวนการเรียนรู้ร่วมกันใน OM Workshop น่าจะมีส่วนจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่มีเป้าหมายการทำงานในเรื่องเดียวกัน ต้องการที่จะเชื่อมโยงและจับมือกันทำงานในแนวระนาบอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องมากขึ้น
แผนการปฏิบัติงานขั้นต่อไปของโครงการฯ มีอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นการชักชวนและสนับสนุนให้หน่วยงานที่สนใจจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกันใน OM Workshop ไปสานต่อ เพื่อสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนรู้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อในชุมชน โดยในปีแรกนี้เรามุ่งหวังให้เกิดเครือข่าย 3 ระดับคือ 1) “เครือข่ายมหาวิทยาลัย” ที่เน้นประเด็นของการพัฒนาหลักสูตรเพื่อสนับสนุนการพัฒนาทีมบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า (PCU) ในการสนับสนุนระบบบริการป้องกันและจัดการดูแลโรคไม่ติดต่อ 2) “เครือข่ายพื้นที่ปฏิบัติการ” เน้นสร้างความเข้มแข็งและขยายผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ด้วยกัน และ 3) “เครือข่ายกระทรวงสาธารณสุข” เน้นการเชื่อมโยงและเพิ่มความเข้มข้นของการทำงานร่วมกันระหว่างกรม กองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้มีความใกล้ชิดและต่อเนื่องมากขึ้น เพื่อจะได้ไปสนับสนุนการดำเนินงานของพื้นที่อีกทีหนึ่ง โดยการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในของแต่ละเครือข่ายให้เป็นไปอย่างอิสระ ส่วนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้ามเครือข่ายเราขอความร่วมมือว่าแต่ละเครือข่ายน่าจะมี blog ไว้สำหรับบอกเล่าเรื่องราวการทำงานสู่กันและกันอย่างน้อยเครือข่ายละ 1 blog
ส่วนที่ 2 เป็นการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “เรื่องเล่าความสำเร็จ” การดำเนินงานลดเสี่ยง ลดโรคไม่ติดต่อในชุมชน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างเตรียมการกันอยู่ว่าจะจัดอย่างไร เมื่อไหร่ และที่ไหนดี
เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องของการเสริมทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานเพื่อขับเคลื่อนเครือข่ายร่วมกัน ผู้เขียนศึกษาเรียนรู้จากคำแนะนำของ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช เรื่อง “โครงสร้างและการจัดการของเครือข่ายจัดการความรู้” (การจัดการความรู้ฉบับนักปฏิบัติ หน้า 196-197) ที่บอกไว้ว่า ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวสำหรับโครงสร้าง และการจัดการของเครือข่ายจัดการความรู้ที่จะประสบความสำเร็จ แต่มีข้อแนะนำ ดังนี้
- มี “คุณเอื้อ” ของเครือข่าย...
- มีทรัพยากรและแผนการปฏิบัติงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในหน่วยงานและภายในเครือข่าย…
- มี “คุณประสาน” ของเครือข่าย ทำงานร่วมกับ “คุณอำนวย” ของแต่ละหน่วยงาน
- มี “คุณลิขิต” ของหน่วยงานและของเครือข่าย ...
- มี “พื้นที่ประเทืองปัญญา” ทั้งพื้นที่แบบ F2F และ B2B ทั้งที่เป็นของหน่วยงานและเครือข่าย
- มีฐานข้อมูลความรู้สำหรับใช้งานร่วมกัน...
- มีการประเมินกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผลกระทบต่องาน ต่อคน และต่อฐานข้อมูลความรู้ขององค์กรและของเครือข่าย...
จากโครงสร้างดังกล่าวนี้ จะพบคำว่า “คุณเอื้อ” “คุณอำนวย” “คุณประสาน” และ “คุณลิขิต” ที่ล้วนเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและจัดการเครือข่าย ซึ่งในความจริงแล้วสมาชิกเครือข่ายที่มาจับมือทำงานร่วมกันในระยะแรกนี้ต่างก็มีพื้นฐานด้านการจัดการความรู้ที่แตกต่างกันไป หลายๆ คนอาจจะคุ้นชินกับคำเหล่านี้ดีอยู่แล้ว แต่สำหรับอีกหลายคนอาจยังไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของคนสำคัญเหล่านี้ซักเท่าไหร่ “คุณหมอฉายศรี” จึงปรารภว่า เราจะมีการเสริมทักษะเหล่านี้ให้กับสมาชิกเครือข่ายที่สนใจได้อย่างไรบ้าง ซึ่งผู้เขียนคิดว่าในเบื้องต้นถ้าเราจะเข้าไปเรียนรู้ในเครือข่าย gotoknow ก่อน นอกจากเราจะได้แนวทางในการจัดกระบวนการเรียนรู้ในเรื่องนี้แล้ว เรายังจะได้เรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์จริงไว้เป็นทุนก่อนด้วย ซึ่งผู้เขียนลองค้นดูใน gotoknow ก็พบว่ามีคนเขียนเรื่องเหล่านี้อยู่มากมาย เช่น
แต่ถ้าแหล่งเดียวมีครบทุก “คุณ” ก็ต้องอ่าน ที่นี่ และจากหนังสือของ อ.วิจารณ์ 2 เล่ม คือ การจัดการความรู้ฉบับนักปฏิบัติ และ KM วันละคำ ครบถ้วนและละเอียดมากๆ
ปลาทูแม่กลอง
11 พฤษภาคม 2552
ไม่มีความเห็น