Humanketing!!!


ในอนาคตอีก 5 – 6 ปีข้างหน้า หลายๆ หน่วยงานไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน จะตื่นตัวและให้ความสนใจกับเรื่องของ “คน”

 

อย่าเพิ่งสงสัยกับหัวข้อครับ!!!

ผมใช้การผสมคำ

ระหว่างคำว่า Human กับ Marketing

กลายเป็น Humanketing

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 5 – 6 ปีที่แล้ว

Trend การตลาด ถือว่ามาแรง

ใครๆ ก็ต้องเรียนด้านการตลาด หรือบริหารธุรกิจ

ไม่ได้เรียนถือว่าตกยุคอย่างแรง!!!

 

แต่ปัจจุบันนี้ และในอนาคตอีก 5 – 6 ปีข้างหน้า

หลายๆ หน่วยงานไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน

จะตื่นตัวและให้ความสนใจกับเรื่องของ คน

มากเสียยิ่งกว่าด้านการตลาด

 

อาจจะพูดได้ว่า อีกหน่อย

การตลาดจะเริ่มซบเซาลงบ้าง

เพราะจะเสียรังวัดให้การด้านทรัพยากรมนุษย์!!!

 

คนถือเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนองค์การ

ต่อให้กลยุทธ์การตลาดจะเลิศเลอเพียงใด

หาก คน ไม่ปฏิบัติ หรือเต็มใจด้วยแล้ว

ไม่มีทางที่กลยุทธ์การตลาดนั้นๆ จะเติบโตทะลุเป้า!!

 

และในเมื่อศาสตร์ด้านการตลาด

ก็เป็นศาสตร์องค์การขาดไม่ได้

เรื่องของกำลัง คน องค์การก็ขาดไม่ได้เช่นกัน

จะทำอย่างไรเพื่อให้ทั้งสองแนวทางนี้สามารถบรรจบกันได้

ก็ต้องหานิยามให้ชัดเจนขึ้น

 

ผมจึงใช้คำว่า Humanketing

มาแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

และให้เห็นได้ว่า ทั้งสองด้านนี้

สามารถเกี่ยวโยงถึงกันได้ อย่างไม่ยากเย็น

 

หากนำหลักด้านการตลาดมาใช้กับคน เราก็สามารถทำได้

เพราะในปัจจุบันนี้ คน ถือเป็นสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่ง

ต้องสร้างให้ คน กลายเป็นผลิตภัณฑ์ให้ได้

 

สิ่งที่ผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ

การ PR ให้ทราบถึงความสามารถหรือคุณค่าของ คน

 

จะมีขั้นตอนกรรมวิธีเช่นไร ในการ PR ขึ้นอยู่กับความกล้า

กล้าที่จะเสี่ยง หรือกล้าที่จะคิดแตกต่างครับ

 

ลองสังเกตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ออกสู่ท้องตลาด

จำเป็นที่จะต้องใช้การ PR ในการสร้างชื่อเสียงให้กับสินค้า

ต้องให้มืออาชีพเข้าช่วย

เพราะเราไม่มีทางที่จะเก่งได้ทุกอย่างครับ

ก็รู้จักการค้นหาสายสัมพันธ์ในการทำงาน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านสื่อมวลชน

หากใครที่สามารถเข้าสู่ด้านสื่อมวลชนได้

ย่อมได้เปรียบกว่า เพราะเริ่มที่จะรู้ความเคลื่อนไหวของสื่อ

 

รู้ว่าตอนนี้แนวทางการตลาดต้องการอะไรมากที่สุด

และอะไรกำลังเป็นที่นิยมสูงสุด

หมั่นติดตามข่าวสารรอบด้าน เพื่อจะได้สามารถปรับตัวได้ทันครับ

 

การที่ คน จะทำงานแบบย่ำอยู่กับที่ หมดสมัยเสียแล้ว

ต้องมีความเก่งมากกว่า 1 ด้าน จึงจะเป็นที่ต้องการขององค์การ

ซึ่งได้เคยกล่าวไว้แล้วในบทความ

คนดังไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่ง

 

ลองนำแนวทางนั้นมาใช้ ก็จะกลายเป็น Humanketing

ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

หมายเลขบันทึก: 260152เขียนเมื่อ 9 พฤษภาคม 2009 18:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

คนดัง คนเก่ง ทำงานหนัก  แต่ไม่ส่งเสริม  องค์กร  ซบเซบ เพราะขาดแรงจูงใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท