GotoKnow

เมื่อไม่รู้ทิศ ไม่รู้ทาง

orange alright
เขียนเมื่อ 28 เมษายน 2549 23:26 น. ()
แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2556 17:21 น. ()
สิ่งที่คนไม่รู้ทิศไม่รู้ทาง ต้องการมากที่สุดคือ คำอธิบายที่ชัดเจน แจ่มกระจ่าง และถูกต้อง

ผู้เขียนเคยถามเส้นทางกับเจ้าหน้าที่เก็บเงินที่ทางด่วนหลายครั้ง  ได้รับคำตอบชัดเจน รวบรัด ด้วยการยิ้มแย้ม เต็มใจตอบ  ที่สำคัญเป็นคำตอบที่ถูกต้องทุกครั้ง      

และเมื่อต้นเดือนมานี้  เมื่อมีโอกาสไปเที่ยวเมืองน่าน  ได้ประทับใจกับการบอกทางของชาวเมืองน่านมาก (โดยเฉพาะครูใหม่เป็นผู้ตั้งข้อสังเกตนี้) ตั้งแต่มัคคุเทศน์น้อยที่วัดภูมินทร์  เด็กปั๊มน้ำมัน  แม่ค้าสาวร้านผ้าทอ  ทุกคนล้วนบอกทางได้อย่างคล่องปากและแม่นเปรี๊ยะ  โดยใช้สี่แยกไฟแดงเป็นหลักหมุดเหมือนกันหมด 

ทั้งเจ้าหน้าที่ทางด่วนและคนเมืองน่านมีภาพการรับรู้เส้นทางเหมือนกันหรือเปล่า  

เขาบันทึก "ภาพ" ผังใยทางด่วนไว้กับตัวกันด้วยวิธีใดหนอ  หากเจ้าหน้าที่ทางด่วนใช้วิธี "ท่องจำ" ก็ต้องนับว่ามีความจำดีมากทีเดียว

ส่วนชาวเมืองน่าน  ตั้งแต่รุ่นเด็กจนถึงผู้ใหญ่  ทำไมจึงใช้แบบแผนคำอธิบายทางได้ดีและเหมือนกัน

แล้วทำไมชาวกรุงเทพจึงมักบอกทางไม่รู้เรื่อง  (ขอโทษนะคะ, คุณเคยถามหาร้านค้าในห้างจากประชาสัมพันธ์ห้างหรือเปล่า)

คำถามสุดท้าย  ไม่เกี่ยวข้องกับคำถามข้างต้น  แต่มีคำตอบค่ะ

แล้วเคยไหมที่กลับไปไม่ถูก หาก็ไม่เจอ  หมายถึงตำแหน่งที่จอดรถ  ทั้งๆ ที่เพิ่งจอดเมื่อไม่นานนี้แท้ๆ เชียว   สำหรับข้อนี้ผู้เขียนมีคำแนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคาร 

พวกเขาจะวิทยุถึงกัน ประสานงานให้อย่างเต็มที่ ถือเป็นภาระกิจสำคัญ  ทั้งที่เป็นเรื่องของการขาดสติชั่วครูของเราแท้ๆ  เคยได้รับคำตอบจาก รปภ.ห้างเซ็นทรัล ชิดลมว่า  พวกเขาจะทำแผนที่บริเวณที่รับผิดชอบ  และทำรายการรถที่เข้ามาจอดไว้เป็นระยะๆ ด้วย

รปภ.แต่ละที่  มีความแตกต่างกันมาก  ที่ประทับใจมากที่หนึ่งคือ ที่อาคารจอดรถของสุกี้เท็กซัส  เยาราช  บริการดีเยี่ยม  ผู้เขี่ยนชอบไปหาของอร่อยแถวนั้นบ่อยๆ  ก็ประทับใจทุกครั้ง  ว่างๆ คงต้องขอสัมภาษณ์สักหน่อยแล้ว

 

ตั้งคำถามไปหลายข้อ มีคำตอบบ้าง  ไม่มีบ้าง  ขอนำเสนอบันทึกการเดินทางที่เพิ่งผ่านมา  เป็นการกระจายความสุข  เปลี่ยนบรรยากาศบ้างนะคะ

ปิดภาคฤดูร้อนนี้ผู้เขียนและเพื่อนร่วมทางอีกสองคนได้เดินทางไปเมืองน่าน  พวกเรากลับมาพร้อมกับหมายมั่นลั่นปากไว้ว่าจะต้องกลับไปอีกหลังหมดฝนนี้ให้ได้  และคราวนี้จะเลาะริมโขงไปให้ถึงเชียงรายเชียว (ขอขอบพระคุณคุณหมอชาตรี เจริญศิริ และคุณต่าย ที่ให้ความเอื้อเฟื้อตลอดที่อยู่ที่น่านค่ะ)

คณะเดินทางสามคนแบ่งหน้าที่กันคือ  ครูใหม่เป็นเหรัญญิกและ DJ  ครูนัทเป็นฝ่ายโภชนาการและจัดซื้อ ส่วนผู้เขียนเป็นพนักงานขับรถและช่างภาพ  เป็นการสร้างและแบ่งงานตามความพอใจเป็นตัวตั้งจึงไม่มีใครทำหน้าที่เนวิเกเตอร์เต็มตัว

และเมื่อมัวแต่เพลิดเพลินกับทัศนียภาพข้างทางตามประสาคนเมือง  เหมือนนกไม่เคยเจอฟ้า ปลาไม่เคยพบมหาสมุทร  จึงได้รับผลคือต้องกลับรถ กลับทางกันหลายครั้งหลายครา ซึ่งเป็นที่มาของคำถามมากมายข้างบนนั่นเอง...จบ

แถมอีกนิด....มีรูปมาฝากค่ะ 

ทัศนียภาพ  ที่ครูนัทให้นิยามว่า สวยแบบไม่เกรงใจใคร 

สองภาพข้างบนนี้  เป็นต้นอะไรกันบ้างก็ไม่ทราบนะคะ 

ข้างล่างนี้คือที่วัดหนองบัว

มาครั้งนี้ได้เรียนรู้ว่าคราวหลังอย่าลืมเอาขาตั้งกล้องมา  จึงถึงจะกลั้นใจอย่างไรมือก็สั่นได้ภาพมัวอยู่ดี

คำสำคัญ (Tags): #การเดินทาง 

ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย