ผู้เขียนเคยถามเส้นทางกับเจ้าหน้าที่เก็บเงินที่ทางด่วนหลายครั้ง ได้รับคำตอบชัดเจน รวบรัด ด้วยการยิ้มแย้ม เต็มใจตอบ ที่สำคัญเป็นคำตอบที่ถูกต้องทุกครั้ง
และเมื่อต้นเดือนมานี้ เมื่อมีโอกาสไปเที่ยวเมืองน่าน ได้ประทับใจกับการบอกทางของชาวเมืองน่านมาก (โดยเฉพาะครูใหม่เป็นผู้ตั้งข้อสังเกตนี้) ตั้งแต่มัคคุเทศน์น้อยที่วัดภูมินทร์ เด็กปั๊มน้ำมัน แม่ค้าสาวร้านผ้าทอ ทุกคนล้วนบอกทางได้อย่างคล่องปากและแม่นเปรี๊ยะ โดยใช้สี่แยกไฟแดงเป็นหลักหมุดเหมือนกันหมด
ทั้งเจ้าหน้าที่ทางด่วนและคนเมืองน่านมีภาพการรับรู้เส้นทางเหมือนกันหรือเปล่า
เขาบันทึก "ภาพ" ผังใยทางด่วนไว้กับตัวกันด้วยวิธีใดหนอ หากเจ้าหน้าที่ทางด่วนใช้วิธี "ท่องจำ" ก็ต้องนับว่ามีความจำดีมากทีเดียว
ส่วนชาวเมืองน่าน ตั้งแต่รุ่นเด็กจนถึงผู้ใหญ่ ทำไมจึงใช้แบบแผนคำอธิบายทางได้ดีและเหมือนกัน
แล้วทำไมชาวกรุงเทพจึงมักบอกทางไม่รู้เรื่อง (ขอโทษนะคะ, คุณเคยถามหาร้านค้าในห้างจากประชาสัมพันธ์ห้างหรือเปล่า)
คำถามสุดท้าย ไม่เกี่ยวข้องกับคำถามข้างต้น แต่มีคำตอบค่ะ
แล้วเคยไหมที่กลับไปไม่ถูก หาก็ไม่เจอ หมายถึงตำแหน่งที่จอดรถ ทั้งๆ ที่เพิ่งจอดเมื่อไม่นานนี้แท้ๆ เชียว สำหรับข้อนี้ผู้เขียนมีคำแนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคาร
พวกเขาจะวิทยุถึงกัน ประสานงานให้อย่างเต็มที่ ถือเป็นภาระกิจสำคัญ ทั้งที่เป็นเรื่องของการขาดสติชั่วครูของเราแท้ๆ เคยได้รับคำตอบจาก รปภ.ห้างเซ็นทรัล ชิดลมว่า พวกเขาจะทำแผนที่บริเวณที่รับผิดชอบ และทำรายการรถที่เข้ามาจอดไว้เป็นระยะๆ ด้วย
รปภ.แต่ละที่ มีความแตกต่างกันมาก ที่ประทับใจมากที่หนึ่งคือ ที่อาคารจอดรถของสุกี้เท็กซัส เยาราช บริการดีเยี่ยม ผู้เขี่ยนชอบไปหาของอร่อยแถวนั้นบ่อยๆ ก็ประทับใจทุกครั้ง ว่างๆ คงต้องขอสัมภาษณ์สักหน่อยแล้ว
ตั้งคำถามไปหลายข้อ มีคำตอบบ้าง ไม่มีบ้าง ขอนำเสนอบันทึกการเดินทางที่เพิ่งผ่านมา เป็นการกระจายความสุข เปลี่ยนบรรยากาศบ้างนะคะ
ปิดภาคฤดูร้อนนี้ผู้เขียนและเพื่อนร่วมทางอีกสองคนได้เดินทางไปเมืองน่าน พวกเรากลับมาพร้อมกับหมายมั่นลั่นปากไว้ว่าจะต้องกลับไปอีกหลังหมดฝนนี้ให้ได้ และคราวนี้จะเลาะริมโขงไปให้ถึงเชียงรายเชียว (ขอขอบพระคุณคุณหมอชาตรี เจริญศิริ และคุณต่าย ที่ให้ความเอื้อเฟื้อตลอดที่อยู่ที่น่านค่ะ)
คณะเดินทางสามคนแบ่งหน้าที่กันคือ ครูใหม่เป็นเหรัญญิกและ DJ ครูนัทเป็นฝ่ายโภชนาการและจัดซื้อ ส่วนผู้เขียนเป็นพนักงานขับรถและช่างภาพ เป็นการสร้างและแบ่งงานตามความพอใจเป็นตัวตั้งจึงไม่มีใครทำหน้าที่เนวิเกเตอร์เต็มตัว
และเมื่อมัวแต่เพลิดเพลินกับทัศนียภาพข้างทางตามประสาคนเมือง เหมือนนกไม่เคยเจอฟ้า ปลาไม่เคยพบมหาสมุทร จึงได้รับผลคือต้องกลับรถ กลับทางกันหลายครั้งหลายครา ซึ่งเป็นที่มาของคำถามมากมายข้างบนนั่นเอง...จบ
แถมอีกนิด....มีรูปมาฝากค่ะ
ทัศนียภาพ ที่ครูนัทให้นิยามว่า สวยแบบไม่เกรงใจใคร
สองภาพข้างบนนี้ เป็นต้นอะไรกันบ้างก็ไม่ทราบนะคะ
ข้างล่างนี้คือที่วัดหนองบัว
มาครั้งนี้ได้เรียนรู้ว่าคราวหลังอย่าลืมเอาขาตั้งกล้องมา จึงถึงจะกลั้นใจอย่างไรมือก็สั่นได้ภาพมัวอยู่ดี