Keep on Digital KM …..สะกดรอยการจัดการความรู้ กรมสุขภาพจิต ตอนที่ 3


ความรู้มีอยู่แล้ว ทุกองค์กร แต่สิ่งที่องค์กรไม่มีคือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้

Keep on ..... ..Digital KM

สะกดรอยการจัดการความรู้ กรมสุขภาพจิต  ตอนที่3

                                                                                                                                   โดย.อาจารย์ธวัชชัย  ปิยะวัฒน์

 วันแรกของการอบรม ในครั้งนี้ อาจารย์ จะพูดถึง เรื่อง Introduction เกี่ยวกับ KM ก่อน ส่วนอีกวันที่เหลือ จะพูดเกี่ยวกับ tools technology   ซึ่งเรียกว่า  usability engineering  หรือ ที่เรียกว่า HCI (Human Computer Interaction) ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ ทำให้ คนทำงานด้าน ICT ทำงานน้อยลง และ มีความสุขขึ้น  อาจารย์ สุนทรี(คุณมะปรางเปรี้ยว) ก็จะทำงานอยู่ในตำแหน่ง  usability engineer  คนที่ทำงานในประเทศไทย ในตำแหน่งนี้ ณ เวลานี้ มีน้อยมาก และที่สำคัญ คนไม่องค์กรภาครัฐ ยังไม่มี

ภาพประกอบ usability engineering

http://www.persistentsys.com/Portals/0/about_ue_01.jpg

 

 

 ภาพประกอบ HCI (Human Computer Interaction)

http://www.iua.upf.es/~jblat/material/hci/hci_model.gif

เมื่อพูดถึงการพัฒนา software  หลายต่อหลายองค์กร ใช้เวลาในการพัฒนา กันหลายปี องค์กรหลาย ๆ องค์กร ทุ่มงบประมาณทั้งกำลังคนและเงิน เพื่อพัฒนา software อย่างมากมาย   ผลลัพธ์ คือนำ software มาใช้ไม่ได้  ในขณะที่องค์กร บางองค์กรใช้เวลาในการพัฒนา software  แค่นิดเดียว และ software ที่พัฒนาสามารถทำงานได้จริง

                เป็นเพราะอะไร........มันเกิด อะไร ขึ้น

          หัวข้อที่ จะ focus ต่อไป เป็นส่วนสำคัญ ที่จำเป็นต้องติดต่อกับผู้ใช้

          - Interface Design

          - Information Archetechter(IA)

          - Usability tasking

          - Social Network Community

         เพราะเป็นสิ่งจำเป็น    เมื่อไหร่..ก็ตาม ที่ต้องบริหารจัดการความรู้ โดย ระบบ offline หรือ face to face

ส่วนในโลก online  เป็นการจัดการที่ซับซ้อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย และนั้นคือ เหตุผลหนึ่งที่หลาย ๆ องค์กร เริ่มจัดการความรู้online   หลาย ๆ องค์กร ดำเนินการโดยใช้เทคโนโลยี่ทุกอย่างที่มี       บางองค์กรประสบความสำเร็จ แต่บางองค์กรไม่......Server(เครื่องคอมพิวเคอร์แม่ข่าย)แรงไม่พอ ซื้อ server ใหม่ หมดเงินไปมากมาย ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ เปลี่ยนแล้ว เปลี่ยนอีก ก็ยังไม่ work  ไม่ประสบความสำเร็จ สรุปก็คือ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ server -----ในการอบรม ครั้งนี้ จะมีคำตอบ

 

ขอเริ่มต้น ด้วย สิ่งแรกสุด คือ Human KM เพื่อให้ไม่หลงทาง และใช้เทคโนโลยี่จนละเลย คน ที่เป็นส่วนสำคัญที่สุด โดยจะเริ่มจากการบริหารจัดการความรู้  ซึ่งจะทราบกันดีอยู่แล้วทุกท่าน

เริ่มจาก การค้นหา ทุนทางปัญญา(Intellectual Capital) ทุนที่ไม่สามารถเขียนลงไปในสมุดบัญชี ได้ แต่จะเป็นทุนที่แพงที่สุดภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น องค์กรธุรกิจ หรือ องค์กรเอกชน

องค์กร เริ่มโยนสมุดบัญชีทิ้ง คนทำงานบัญชีเริ่มงง  เพราะอะไรหลาย ๆ อย่างที่เป็นเครื่องมือที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ มันไม่สามารถบันทึก บัญชีได้  สิ่งเหล่านี้เป็นตัวผลักดัน องค์กร และเป็นทุนที่แพงที่สุด   ------ทุนทางปัญญา------

 

 

ภาพประกอบ ทุนทางปัญญา(Intellectual Capital)

http://www.nesac.go.th/kms/SFE_board/picture/0054_0.gif

 

เราพยายามให้ทุนทางปัญญา หาวัตถุทางปัญญา  ซึ่งทุนเหล่านี้ ไม่ได้หายไปไหน  มันอยู่ตรงนี้...อยู่ที่ตัวคน

การวางแผนการจัดการความรู้  ทุกครั้งที่ทำต้องเริ่มจากเล็กไปหาใหญ่  จากง่ายไปหายากเสมอ  และจะทำอย่างไรให้ทุนทางปัญญา เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กัน  ให้ดีที่สุด  ง่ายที่สุด  และรวดเร็วที่สุด  ให้เกิดการเรียนรู้ที่ต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม  สร้างผลผลิตเพิ่ม    เริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ ไปหากลุ่ม ใหญ่ ๆ

สิ่งที่มีความรู้สึกว่า แปลผิดเสมอ(อาจารย์คุยกับ สสส เอง. คุยกันบ่อย หลายครั้ง) ว่า KM  ไม่ควรแปลว่า การจัดการความรู้  ซึ่งเมื่อแปลแล้วจะงง  การแปลว่าการจัดการความรู้ทีไร ก็จะทำให้งง  ในช่วงแรก ๆ คนจะงง  ว่า การจัดการความรู้ มากว่าคำว่า KM   จริง  ๆ แล้วภาษาไทยแปลตรง ๆ ไม่ได้ แปลแล้วก็จะได้เรื่องทุกที

อาจารย์พยายามแปลเสมอว่า  KM คือ การจัดการการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (จริง ๆ อยากเอาคำว่าการจัดการออกด้วยซ้ำไป) ก็จะเหลือเพียง  ---------- >  การแลกเปลี่ยนเรียนรู้(ลปรร.)

ภาพประกอบ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้(ลปรร.)

 http://www.opdc.go.th/uploads/media/17Jul-ch11-2.jpg

 

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้  ไม่ใช่การจัดการความรู้ เพราะความรู้มีคุณค่าน้อยกว่าการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

ความรู้มีอยู่แล้ว ทุกองค์กร แต่สิ่งที่องค์กรไม่มีคือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพราะฉะนั้นเราต้องไปจัดการให้เกิดตรงนี้ขึ้นมา เป็นสิ่งที่ต้องพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น  เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวว่า ความรู้ไม่มี ความรู้มีอยู่เยอะมาก และทุกองค์กร เวลานี้ อยู่ด้วยความรู้ทั้งนั้น    แต่ว่าการจัดการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ที่ยังขาดกันอยู่ จะทำอย่างไร ทั้งจากการแสวงหาความรู้จากภายนอกองค์กร  และการค้นหาความรู้ภายในองค์กร

 

                ความรู้จากภายนอกองค์กร...เช่นการอบรมในครั้งนี้ ถือเป็นความรู้ภายนอกองค์กร  การสร้างวัฒนธรรมแนวราบ  การเปิดเผย  การมีวัฒนธรรมแลกเปลี่ยนกันได้  วัฒนธรรมคุยกันได้  เมื่อไรก็ตาม ถ้ามองเห็นกำแพงขวางกันอยู่  จะทำอย่างไร ให้มัน  flow  มองความรู้เป็นเหมือนน้ำ ให้จินตนาการ ว่า น้ำไหลไม่ไหลจาก จุด a ไปจุด b  น้ำไม่ไหลเข้าหากัน ให้ทำลายกำแพงตรงนั้นซะ ทำลายให้หมด เพราะนั้นคือการจัดการความรู้

   

ภาพประกอบ การจัดการความรู้

 http://www.opdc.go.th/uploads/media/17Jul-ch11-1.jpg


     Keep on Digital KM ตอนต่อไป

ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก

http://gotoknow.org/blog/goodliving/227168

หมายเลขบันทึก: 259162เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2009 11:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

สวัสดีค่ะ

  • ไม่ว่ากันนะคะ
  • เจอสิ่งที่สนใจอยากรู้..ก็ต้องรีบเข้ามาเรียนรู้
  • พอเข้าใจบางค่ะ
  • ขอขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะพี่แสง

ตามครูคิมมาค่ะ

สวัสดี ครับ ครูคิม

ผมทานอาหารเที่ยงอิ่มแล้ว ครับ

ขอบพระคุณมาก ครับ

 

  • พี่คิดวางแผน..จำนำไปทำที่ชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่ค่ะ
  • ตอนนี้..มานั่งเสียดายโอกาสนะคะว่า..น่าจะปลูกบ้านอยู่ที่ชุมชนนั้น  ไม่น่ามาอยู่ไกล ๆ โรงเรียนและชุมชนแบบนี้เลย
  • พี่เคยทำวิจัยเพื่อท้องถิ่น..แม้ว่าทำไปแบบล้มลุกคลุกคลาน
  • แต่ก็ได้ข้อสนเทศ..ที่ท้าทายให้อยากจะลองดีอีกสักตั้งค่ะ
  • ถ้าแยกแยะระหว่าง...นักเรียน ครู และคนในชุมชนก็พอมองออกค่ะ  แต่จะนำมาบูรณาการใช้ค่ะ
  • ขอขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ แสงแห่งความดี

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อ้ายคำพูดพันอย่างนี้ผู้เฒ่าพอเข้าใจ ว่า เค เอ็ม มันอย่างนี้เอง เราก็ทำกันอยู่ กับไตรภาคี ขอบคุณแสงแห่งความดีที่ชี้แนะ นับถือ นับถึอ

เป็นการบรรยายที่เข้มข้นมากจริงๆ นะครับ

อยากไปร่วมฟังอาจารย์ธวัชชัยด้วย

แต่อ่านจากที่คุณแสงแห่งความดีเล่ามาก็พอจะบรรเทาอยากไปได้ระดับนึง (ก็ยังอยากอยู่ดี)

ขอบคุณมากๆ ครับ

  • ถ้าตัวเองเป็นน้ำ
  • ไม่สามารถไหลจาก A ไป B ได้เพราะกำแพงกั้น
  • และไม่มีปัญญาทำลายกำแพง
  • ก็คงต้องไหลไปเรื่อยๆ
  • ในทุกซอกมุมที่สามารถไหลผ่านได้
  • เพื่อไปหาจุดที่หมาย
  • อาจจะใช้เวลา  และระยะทางยาวหน่อย
  • แต่ยังไงๆ ก็ไปถึงค่ะ
  • เพราะทุกวันก็พยายามทำอยู่
  • แม้คนอื่นไม่รู้ไม่เข้าใจ
  • อย่างเข้ามา ลปรร ใน G2K นี้ไงคะ
  • ขอบคุณนะคะที่เกี่ยวก้อยเป็นเพื่อนไปเยี่ยมน้องชายขจิตที่เทพา สงขลา โน่น
  • ทำให้รู้สึกว่าอบอุ่น ไม่กลัวระเบิด   อิอิ

สวัสดีค่ะ มาติดตามสาระดีๆค่ะ

สวัสดี ครับ P

2. กอก้าน>>>ก้านกอ*:)*(แก๊งค์ก้านคอพับ)
เมื่อ จ. 04 พฤษภาคม 2552 @ 12:17

สวัสดีค่ะพี่แสง

ตามครูคิมมาค่ะ

**************************

ฝาก รูปนี้ ไว้ให้ คิด นะ ครับ

สวัสดียามบ่ายหลังอาหารเที่ยงค่ะ

อ่านแล้วสมกับเป็นแหล่งเรียนรู้โลกไซเบอร์จริง ๆค่ะ

มาส่งข่าวว่าตามไปอ่านที่ลิงก์ให้แล้วค่ะ แต่หาที่คอมเม้นท์ไม่เจอ

ขอบคุณและมีความสุขกับงานนะคะ

(^___^)

สวัสดี ครูคิม อีกครั้งP
4. ครูคิม
เมื่อ จ. 04 พฤษภาคม 2552 @ 12:31
       พี่คิดวางแผน..จะนำไปทำที่ชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่ค่ะ
  • ตอนนี้..มานั่งเสียดายโอกาสนะคะว่า..น่าจะปลูกบ้านอยู่ที่ชุมชนนั้น  ไม่น่ามาอยู่ไกล ๆ โรงเรียนและชุมชนแบบนี้เลย
  • พี่เคยทำวิจัยเพื่อท้องถิ่น..แม้ว่าทำไปแบบล้มลุกคลุกคลาน
  • แต่ก็ได้ข้อสนเทศ..ที่ท้าทายให้อยากจะลองดีอีกสักตั้งค่ะ
  • ถ้าแยกแยะระหว่าง...นักเรียน ครู และคนในชุมชนก็พอมองออกค่ะ  แต่จะนำมาบูรณาการใช้ค่ะ
  • ขอขอบคุณค่ะ

*******************************

คุณ ครูคิม มีความคิดรวบยอด ที่ดี มากเลยนะครับ

ความคิดของครู ต่อยอดได้หลายรูปแบบ

ชื่นชม ครู มาก ครับ

ขอบพระคุณ ครับ

*******************************

การเรียนรูแบบดังภาพนี้ครูต้อยชอบเพราะรูสึกเป็นอิสระไร้พรมแดน ไปทางไหนก็มีความสุข มีความจริงใจต่อการแก้ปัญหาและการสร้างสรรค์ร่วมกัน สังคมน่าอยู่ อบอุ่น และเอื้ออารีต่อกัน

สำหรับวงจรนี้ครูต้อยมองว่ามันมันเป็นวังวน

หากครูต้อยจะคิดในมุมมองของตัวเอง กลับพาให้นึกถึงบ่อน้ำ 3 บ่อทีขุดอยู่ใกล้ๆกัน เป็น 3 มุมเมือง และรายล้อมด้วยเหล่าสรรพสิ่งทั้งหลายที่มีความสัมพันธ์กับบ่อน้ำทั้งสามนี้ตามสภาพของความจริง

บ่อที่1 , 2 และ3 ต่างมีโอกาสรับน้ำฝนจากฟ้าเท่ากัน หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับฝนในขณะนั้นว่าจะตกบริเวณไหนมาก

แต่ความน่าชื่นชมกลับเกิดจากเจ้าของบ่อน้ำที่ทำท่อระบายให้น้ำไหลเดินได้ถึงกันทั้ง 3 บ่อ

รวมทั้งมีความพิเศษให้บ่อทั้ง 3  ได้มีท่อระบายออกไปรอบด้านยังสรรพสิ่งที่อยู่โดยรอบ 

พร้อมกับรับฝนใหม่เข้ามาผัดเปลี่ยนหมุนเวียน

จนเกิดความอุดมสมบรูณ์ขึ้น ในสถานที่นั้น

เริ่มมึนแล้วต้องไปออกกำลังกายแล้วค่ะ

ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบรูณ์ ทั้งกายและใจค่ะ

 

สวัสดีค่ะพี่แสง

เอาหลานมาคืนค่ะ พอดีไม่มีน้ำจะเลี้ยงแล้วค่ะ

ร้องจนบ้านแตก เลยต้องรีบมาส่งคืนครับเจ้านาย

สวัสดีค่ะ คุณแสงแห่งธรรม พยายามนำความรู้จากตัวคนออกมาเป็นหนังสือ เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้ให้คนอื่นได้รู้ ซึ่งเป็นประสบการณ์ของแต่ละคนใช่ไม๊ค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณแสงแห่งธรรม พยายามนำความรู้จากตัวคนออกมาเป็นหนังสือ เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้ให้คนอื่นได้รู้ ซึ่งเป็นประสบการณ์ของแต่ละคนใช่ไม๊ค่ะ

สวัสดีค่ะ
จริงค่ะ พอพพูด คำว่า การจัดการความรู้ แล้วงงๆ เรียกว่า การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เหมาะที่สุดค่ะ
จริงๆเรื่องนี้ ก็มีมานานแล้ว แต่เรียกคนละชื่อค่ะ

  • อธิบายเหมือนนั่งฟังคำบรรยายสดเลยค่ะ
  • เก็บใจความสำคัญได้ดีจังเลย สุดยอดจริง ๆ ค่ะ
  • ขอนำมาทบทวนช้า ๆ อีกรอบนะคะ  ยอมรับว่ามีส่วนผสมของ technical ที่ศิลาต้องปรับจูนเครื่องรับพอสมควร 
  • ขอคารวะค่ะ
สวัสดี ครับP
5. วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
เมื่อ จ. 04 พฤษภาคม 2552 @ 12:49


สวัสดีครับ แสงแห่งความดี

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อ้ายคำพูดพันอย่างนี้ผู้เฒ่าพอเข้าใจ ว่า เค เอ็ม มันอย่างนี้เอง เราก็ทำกันอยู่ กับไตรภาคี ขอบคุณแสงแห่งความดีที่ชี้แนะ นับถือ นับถึอ

***********************

คุณ วอญ่า....ทำถูกทาง มาตลอดแล้วครับ

สนับสนุน....ให้ ทำต่อไปเรื่อย ๆ นะครับ....เพราะเป็นเรื่องดีเหลือเกิน

ขอบพระคุณมาก ครับ

***********************

 

ที่จริงแล้วองค์ความรู้ในเรื่อง Human-Computer Interaction นี้เยอะมากครับ เป็นสาขาใหญ่สาขาหนึ่งที่มีเรื่องต้องศึกษาในหลายอย่างด้วยกันครับ และเป็นเรื่องสำคัญต่อการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรด้วย นี่คือสาเหตุทางทีมงาน UsableLabs พยายามนำเสนอเนื้อหาเหล่านี้ไปยังองค์กรต่างๆ ครับ

สวัสดี ครับ หล่อน้อยP

6. ซวง ณ ชุมแสง
เมื่อ จ. 04 พฤษภาคม 2552 @ 15:24
1273310 [ลบ] [แจ้งลบ]

เป็นการบรรยายที่เข้มข้นมากจริงๆ นะครับ

อยากไปร่วมฟังอาจารย์ธวัชชัยด้วย

แต่อ่านจากที่คุณแสงแห่งความดีเล่ามาก็พอจะบรรเทาอยากไปได้ระดับนึง (ก็ยังอยากอยู่ดี)

ขอบคุณมากๆ ครับ

************************

ตอนนี้ มีงานเข้ามามากมาย ครับ

ตอนที่ 4 เกือบออกแล้ว ครับ

ขอบคุณ ครับ ที่ติดตาม...เหมือนหนัง เหมือนละคร เลย นะครับ

************************

สวัสดี ครับP
7. มนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)
เมื่อ จ. 04 พฤษภาคม 2552 @ 21:08
  • ถ้าตัวเองเป็นน้ำ
  • ไม่สามารถไหลจาก A ไป B ได้เพราะกำแพงกั้น
  • และไม่มีปัญญาทำลายกำแพง
  • ก็คงต้องไหลไปเรื่อยๆ
  • ในทุกซอกมุมที่สามารถไหลผ่านได้
  • เพื่อไปหาจุดที่หมาย
  • อาจจะใช้เวลา  และระยะทางยาวหน่อย
  • แต่ยังไงๆ ก็ไปถึงค่ะ
  • เพราะทุกวันก็พยายามทำอยู่
  • แม้คนอื่นไม่รู้ไม่เข้าใจ
  • อย่างเข้ามา ลปรร ใน G2K นี้ไงคะ
  • ขอบคุณนะคะที่เกี่ยวก้อยเป็นเพื่อนไปเยี่ยมน้องชายขจิตที่เทพา สงขลา โน่น
  • ทำให้รู้สึกว่าอบอุ่น ไม่กลัวระเบิด   อิอิ

**************

คุณ มนัญญา พูดเพียงประโยคเดียงที่ว่า

"อย่างไร ก็ไปถึง"

เพราะ นั้น คือ เข็มมุ่ง....เมื่อมีเข็มมุ่งแล้ว

แม้น...ภูเขาที่สูงขวางอยู่ตรงหน้า....สายน้ำก็จะทะลักมาหาครับ

ขอบพระคุณ คุณ มนัญญา มาก นะ ครับ

เดี๋ยวเรา...คงได้เกี่ยวก้อย กันอีก  เร็ว ๆ นี้

สวัสดี ครับ P

8. ทรายชล
เมื่อ จ. 04 พฤษภาคม 2552 @ 21:45


สวัสดีค่ะ มาติดตามสาระดีๆค่ะ

 

************

กลับมาแล้ว

ดีใจ ครับ

จะได้ ช่วยกัน ขุดคุ้ย ความดี

ระลึกถึง ครับ

*************

สวัสดี ครับ P

10. คนไม่มีราก
เมื่อ พ. 06 พฤษภาคม 2552 @ 13:12

อ่านแล้วสมกับเป็นแหล่งเรียนรู้โลกไซเบอร์จริง ๆค่ะ

ขอบคุณ มากเลยครับ

อยากให้ มีกัลยาณมิตร มาอ่าน บันทึก ที่เกี่ยวกับเรื่อง แบบนี้เยอะ จังครับ

มีหลายๆ บันทึกที่นี่  ....GTK ....ทุก ๆ ท่านเขียนได้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ขอบพระคุณ ครับ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท