ตั้งแต่กลางเดือน มกราคม 2552 ผมได้เข้าไปเรียนปริญญาเอกที่ AIT
(Asian Institute of Technology) www.ait.ac.th ของ School of
Management (SOM) เป็นการเรียนปริญาเอกทางด้านบริหารธุรกิจ
ขอเล่าภาพรวมของหลักสูตรก่อนนะครับ ในหลักสูตรปริญญาเอกทาง SOM-AIT
มีอยู่ 2 หลักสูตร คือ Ph.D. และ DBA. คือเป็นการแบ่งตามกลุ่มผู้เรียน
ถ้า Ph.D.
สำหรับอาจารย์หรือผู้ที่ต้องการทำงานทางด้านการทำวิจัยภายหลังจบการศึกษา
ส่วน DBA. นั้น จะเน้นกลุ่มผู้ที่ทำงานอยู่ในองค์การภาคธุรกิจ
เน้นประสบการณ์ในการทำงานเพื่อนำมาแลกเปลี่ยนกัน แต่อย่างไรก็ตามทั้ง
2 หลักสูตรก็ยังต้องทำวิจัย และส่งตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ
ระดับนานาชาติ (International Journal) จึงสามารถจะจบการศึกษาได้
ระยะเวลาในการศึกษาก็ประมาณ 3-4 ปี
สำหรับผมอยู่ในหลักสูตร Ph.D.ครับ โดยตัวหลักสูตรกำหนดให้เรียน Course
Work 18 หน่วยกิจ แบ่งเป็นวิชาบังคับสำหรับหลักสูตรปริญญาเอก 12
หน่วยกิต และวิชาเลือกอีก 6 หน่วยกิต ซึ่งวิชาเลือกมีตั้งแต่ 2-3
หน่วยกิต ดังนั้นจำนวนวิชาที่ต้องเรียนจึงไม่แน่นอนครับ
หลังจากนั้นก็เป็นการทำวิจัยภายในการดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษาครับ
สำหรับบันทึกนี้เป็นรายละเอียดการเรียนในภาคนี้ครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง
กรณีของผมนั้นเป็นกรณีที่เข้าเรียนกลางภาคปีการศึกษาครับ
ปกติทางSOM-AIT จะรับนักศึกษามาเรียนมากในรุ่นที่จะเข้าเดือนสิงหาคม
ส่วนผมเข้าเรียนในเดือนมกราคม
จึงเข้าไปเรียนร่วมกับรุ่นก่อนที่มีอยู่ประมาณ 12 คน
นักศึกษาเข้าในเดือนมกราคมมีอยู่ 3 คนครับรวมผมด้วย
พอเรียนไปสักประมาณเดือนกว่า มีนักศึกษาหนึ่งคนตัดสินใจขอลาออกครับ
ทำเอาแทบใจหายเลยครับว่าเกิดอะไรขึ้น
สาเหตุนั้นนักศึกษาท่านนั้นบอกว่าชอบการทำงานในภาคธุรกิจมากกว่า
จึงรีบตัดสินใจตอนนี้ดีกว่า เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้
เอาละครับถึงวิชาที่เรียนในภาคนี้ซะที
วิชาแรก Management of Education
จุดประสงค์ของวิชานี้คือช่วยให้นักศึกษามีการเตรียมตัวเมื่อกลับเข้าไปทำงานในมหาวิทยาลัยแล้ว
ซึ่งอาจต้องทำหน้าที่ในฐานะผู้บริหารบริหารจะได้มีความรู้
และทักษะที่สำคัญไว้ก่อน
ในวิชานี้อาจารย์ให้อ่านบทความเกี่ยวกับการบริหารสถาบันการศึกษา
เน้นที่บทบาทของการเป็นผู้นำในการกระตุ้นจูงใจ
ให้เกิดการพัฒนาทั้งการสอนและการทำวิจัย
ในการเรียนในห้องนั้นจะเป็นการเรียนแบบสัมมนา คือ
เป็นการพูดคุยและรับฟังมุมมองจากเพื่อนๆในห้อง
วิชานี้นอกจากจะทำให้เข้าใจในระบบและวิธีการบริหารการศึกษามากขึ้น
ยังได้แลกเปลี่ยนวิธีการบริหารจากเพื่อนนักศึกษาที่มาจากต่างมหาวิทยาลัยอีกด้วย
ในวิชานี้ก็ต้องมีการทำรายงานส่งสองฉบับ
ฉบับแรกเป็นเรื่องการอธิบายสถานการณ์ในมหาวิทยาลัยที่เราทำงานอยู่
หรือ สถาบันการศึกษาที่เราสนใจโดยให้ดูถึงจุดอ่อน-จุดแข็งต่างๆ
ต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยตามที่ได้พูดคุยกันในชั้นเรียน
และมีการนำเสนอผลของการค้นคว้าในรายงานให้อาจารย์และเพื่อนๆในห้องฟังด้วย
ส่วนฉบับที่สอง
เป็นการเสนอแนะวิธีการในการแก้ไขปัญหาตามที่ได้รายงานไว้ในฉบับแรกครับ
ซึ่งอาจารย์ให้ไปหาข้อมูลมาสนับสนุนการวิเคราะห์และการเสนอแนะวิธีการของเราอีกด้วยครับ
วิชาที่สองเป็นวิชา Academic Writing for Business Research
เป็นวิชาที่เตรียมความพร้อมให้นักศึกษาเข้าใจและสามารถเขียนดุษฎีนิพนธ์ได้
มีทั้งการให้ความรู้ในห้อง
และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการส่งบทความไปตีพิมพ์ในต่างประเทศ
การเลือกวารสาร การรับมือกับความเห็นของ Reviewer และ Editor
ในวารสารนั้นๆ
โชคดีที่เพื่อนในห้องมีประสบการณ์ในการส่งบทความไปเข้าร่วมประชุมและตีพิมพ์มาแล้ว
จึงเป็นการพูดคุยและแลกเปลี่ยนที่สนุกและได้ความรู้มาก
นอกจากนั้นวิชานี้อาจารย์ให้ไปเลือกบทความวิชาการที่เราสนใจแล้วนำมาวิเคราะห์การนำเสนอของผู้เขียน
ให้ดูจุดเด่น จุดด้อยของบทความนั้น วิธีการนำเสนอ
แล้วเขียนเป็นรายงานส่งด้วย พร้อมทั้งให้ลองเขียนโครงการวิจัย
(Research Proposal) ในหัวข้อที่สนใจแล้วส่งให้อาจารย์ดู
และอาจารย์ก็จะให้ความเห็นเพื่อนำไปปรับปรุงและส่งให้ดูในครั้งที่สองครับ
วิชาที่สาม Quantitative Data Analysis
เพื่อฝึกให้นักศึกษารู้จักการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ
รวมทั้งวิธีการทางสถิติต่างๆอีกด้วย
ในวิชานี้นั้นคาบแรกเป็นการสรุปเรื่องของพื้นฐานการวิจัย
คาบที่สองพูดถึงสถิติพื้นฐานที่ใช้ในงานวิจัย
แค่สองคาบครับครบรายละเอียดสำคัญของวิชาวิจัยที่เรียนมาตั้งแต่ปริญญาตรีเลยครับ
ต่อจากนั้นก็จะเป็นการสอนวิธีการทางสถิติต่างๆ
ที่สำคัญที่ใช้ในงานวิจัยในระดับปริญญาเอก
อาจารย์ในวิชานี้ได้จัดให้มีการอ่านบทความวิจัยของอาจารย์ในคณะที่ได้ตีพิมพ์มาแล้วให้เรามาวิเคราะห์
ถึงการใช้สถิติและวิธีการวิจัยเพื่อนำเสนอให้เพื่อนในห้องฟัง
พร้อมทั้งเชิญอาจารย์ที่เขียนบทความมารับฟังและให้ข้อเสนอะแนะในการเลือกใช้สถิติและเล่าประสบการณ์ที่สำคัญในการเขียนบทความนั้นอีกด้วย
นอกจากนั้นอาจารย์ยังให้นักศึกษารายงานที่เน้นการวิเคราะห์ข้อมูล
โดยให้ไปหาข้อมูลมาแล้วลองใช้เทคนิคที่ได้เรียนในห้องในการวิเคราะห์ข้อมูลชุดนั้นอีกด้วย
เนื่องจากทาง SOM-AIT เพิ่งจะมีการปรับหลักสูตร
ทำให้นักศึกษารุ่นพี่อีกหลายรุ่นที่ไม่ได้มีโอกาสเรียนวิชานี้ในตอนแรกมานั่งร่วมเรียนด้วย
ทำให้บรรยากาศในการเรียนมีการพูดคุย ถามคำถาม
และมีประเด็นให้ได้เรียนรู้ตลอดเวลาทำให้สนุกมาก
วิชาสุดท้าย คือ Performance Management
เป็นวิชาเลือกของผมในภาคการศึกษานี้ครับ อาจารย์จะมีการนำเสนอหลักการ
แนวคิดที่สำคัญหลังจากนั้นจะมีการมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านบทความเพิ่มเติมแล้วนำมานำเสนอและพูดคุยในห้องเรียนกันครับ
ทำให้วิชานี้นกจากได้หลักการที่สำคัญแล้วยังได้เห็นการพัฒนาเนื้อหาทางวิชาการในเรื่องนี้ด้วยจากการอ่านบทความซึ่งต้องอ่านถึง
2-3 บทความต่อสัปดาห์เลยทีเดียว อาจารย์ยังให้นักศึกษาทำรายงานที่เป็น
Literature Review
ในหัวข้อที่นักศึกษาสนใจที่เกี่ยวกับการบริหารผลงานอีกด้วย
และเช่นกันมีการนำเสนอในตอนท้ายของภาคการศึกษาอีกด้วยครับ
ชีวิตหลักๆในภาคการศึกษาแรกอยู่ที่การอ่านบทความเพื่อเตรียมแลกเปลี่ยนในห้อง
และการทำรายงานเป็นส่วนใหญ่ครับ ส่วนชีวิตนอกห้องเรียนว่าทาง SOM-AIT
มีกิจกรรมอะไรบ้างขอเล่าในบันทึกหน้านะครับ
ขอบคุณสำหรับการบันทึกเรื่องเล่านี้...ทำให้ได้นึกภาพตามเลยค่ะ
ดีจังเลยค่ะ...
กำลังจะเข้าเีรียนเหมือนกันช่วงมค.ปีนี้ค่ะ อยากให้แนะนำด้วยค่ะ
ดีจังครับกำลังตัดสินใจอยู่
สอบถามครับ
ค่าใช้จ่ายในการเรียนเท่าไร และ คุณสมบัติที่ทางมหาวิทยาลัยต้องการ มีอะไรบ้างครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ,คุณเนะ ส่งใบสมัครกับ proposal เรียบร้อยแล้วหรอคะ เราก็อยากสมัครที่นีี่เหมือนกันค่ะ