"บุตรธิดา คือ กระจกเงาของพ่อแม่" ... (ว.วชิรเมธี)


.................................................................................................................................

ช่วงนี้เป็นการติดตามงานเขียนของท่าน ว.วชิรเมธี ที่ทำให้เรามองเห็นสัจธรรมมากขึ้น

.................................................................................................................................

 

บุตรธิดา คือ กระจกเงาของพ่อแม่

 

หากคุณ เอาดอกไม้ใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนจิตใจงดงาม

หากคุณ เอาความรักใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนเปี่ยมเมตตา

หากคุณ เอาเหตุผลใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์

หากคุณ เอาหนังสือใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นปัญญาชน

หากคุณ เอาธรรมะใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนดี

หากคุณ เอานิสัยแห่งการให้ใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนมีจิตสำนึกสาธารณะ

หากคุณ เอาสมบัติผู้ดีใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นสุภาพบุรุษ/สุภาพสตรี

หากคุณ เอาดนตรีใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนอารมณ์ดี

หากคุณ เอาธรรมชาติใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนรักความสงบ

หากคุณ เอาความก้าวร้าวใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นอันธพาล

หากคุณ เอาความตามใจใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นลูกบังเกิดเกล้าจอมอหังการ

หากคุณ เอาเงินใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนมักง่าย

หากคุณ เอาปืนใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นมาตกร

หากคุณ เอาวัตถุแพง ๆ ใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนยึดติดวัตถุนิยม

หากคุณ เอาความรักสบายใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนสูญเสียสามัญสำนึก

หากคุณ เอาความริษยาใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนที่ขาดความสงบสุขในชีวิต

หากคุณ เอาแต่วิชาชีพใส่มือเด็ก ... เขาจะกลายเป็นคนสมองโต แต่ใจตีบ

คุณ ในฐานะที่เป็นพ่อและแม่ ... ทุกวันนี้คุณเอาอะไรใส่มือเด็ก ๆ ของคุณ ?

 

.................................................................................................................................

เด็กเสมือนผ้าขาว ที่ "พ่อแม่" บรรจงใส่สิ่งใดลงไป ก็ย่อมได้สิ่งนั้น

เด็กเสมือนผ้าขาว ที่ "ครู พ่อแม่คนที่สอง" บรรจงใส่สิ่งใดลงไป ก็ย่อมได้สิ่งนั้น

จงตรองดูเถิด

บุญรักษา ทุกท่าน :)

.................................................................................................................................

 

แหล่งอ้างอิง

ว.วชิรเมธี (นามแฝง).  ธรรมะน้ำเอก.  พิมพ์ครั้งที่ ๖.  กรุงเทพฯ: อมรินทร์, ๒๕๕๑.

 

หมายเลขบันทึก: 258061เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2009 00:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

บุตรธิดา คือ กระจกเงาของพ่อแม่..นั่นหมายความว่า คือก็คือพ่อและแม่นั่นแหละ ใช่มั้ยคะ ประมาณว่า ลูกเป็นอย่างไร พ่อแม่ก็เป็นอย่างนั้น

เอ..มันคงไม่เสมอหรอก จริงมั้ยคะ เพราะผ้าขาวอยู่ที่เราช่วยกันแต่งแต้ม :)

ปล. เพิ่งจะอัพ ตามมาอ่านทันพอดิบพอดี อิอิ

สวัสดีครับ อาจารย์ มารับอาหารสมองยามดึก กับธรรมะสามัญ ชั้นสูง รู้ เห็น เป็น ไป

"รู้ตามที่เล่าเขาบอก ถือว่าว่ารู้ แต่คิดออกและปฎิบัติตาม ถือว่ารับรู้"ขอบคุณสำหรับอาหารสมองยามที่ อยากรับรู้ครับ

สวัสดีครับคุณพี่ Was

ซึมทราบลงมาที่ใจทั้งหมดเลยครับพี่ :) ขอบคุณมากๆเลยนะครับที่นำ คำพระสอน มาแบ่งปันกันบ่อยๆ

เด็กคือผู้ขับเคลื่อนครับ ช่วยกันป้อนสิ่งดีๆตั้งแต่ยังเล็ก :)

อรุณสวัสดิ์นะครับ แสงอาทิตย์จะแยงตาแล้ว 555

บุตร ธิดา คือกระจกเงาของพ่อแม่

เป็นแบบนี้จริงๆค่ะ พ่อแม่ปลูกฝังอะไรให้แก่ลูก ก็จะเป็นแบบนั้น  แต่ก็จะไม่ได้ทั้งหมด  เพราะบางอย่างที่สอนแล้ว ลูกมักจะบ่นว่า พ่อแม่เป็นคนโบราณอิอิ..ไม่จำซะนี่  แบบว่า สย.สย. ไงคะ

พ่อแม่สมัยนี้จะให้โอกาสลูกได้คิดเอง บางทีเขาก็เลือกทำในสิ่งที่ตัดสินใจด้วยตัวเอง พ่อแม่ก็ได้แต่ชี้แนะ และก็ถอนหายใจ เฮ่อ..ดังๆ

ที่สำคัญ  พ่อแม่อย่าปล่อยปละละเลย อย่าตัดความรำคาญด้วยการ  ให้  แบบไม่มีเหตุผล  ครูบาอาจารย์ก็อย่าเอือมระอาแล้วก็ตัดหางปล่อยวัด 

ช่วยกันเคี่ยวเข็ญให้ ลูกหลาน ลูกศิษย์ เป็นคนมีคุณภาพกันต่อไปนะคะ

 

    ให้ไปทำงานในสวน...  ก่อนเข้าเรียนบนดอยวันที่ 14 นี้แล้วค่ะ

มาซึมซับธรรมะดี ๆ ในเช้าวันนี้ครับ...

เด็ก ๆ คือความสดใสของโลกใบนี้นะครับ...

ใช่แล้ว น้องอาจารย์ หัวใจติดปีก ... เพียงแต่การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีที่มีต่อลูกของพ่อแม่ ย่อมมีความสำคัญมาก ต่อ พฤติกรรมของลูกที่เกิดขึ้นในอนาคต ครับ

ขอบคุณมากครับที่อัพทันพอดี อิ อิ :)

รับมาใช้ทันใดครับท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า :)

"รู้ตามที่เล่าเขาบอก ถือว่า รู้ ... แต่คิดออกและปฎิบัติตาม ถือว่า รับรู้"

ขอบคุณครับ :)

อรุณสวัสดิ์ครับ น้อง adayday :)

ตื่นเช้าจังครับ ... คำพระสอน มักจะได้รับการกลั่นกรองมาแล้ว 2,500 ปี ครับ ... อมตธรรม หรือ สัจธรรม ไปแล้ว

ขอบคุณครับ :)

สวัสดีครับ คุณครูจุฑารัตน์ NU 11 :)

การตัดความรำคาญของพ่อแม่ หรือ ครู ก็ตาม ย่อมเป็นการฆ่าลูก หรือ ลูกศิษย์ได้อย่างเลือดเย็นในอนาคต ครับ

การเลือกไม่รำคาญนั้น คือ การทำความเข้าใจในวิธีคิดของพวกเขา เพราะส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาในเรื่องของวัย ที่ห่างกัน บางครั้งการทำความเข้าใจอาจจะช้า หรือไม่ได้เลย ครับ

เข้าใจ แล้ว หาวิธีการบ่มเพาะความดีให้เขา ครับ

ขอบคุณครับ :)

ขอบคุณครับ คุณ Mr.Direct :) ... ตื่นไปทำงานเช้านะครับ :)

สวัสดีค่ะอาจารย์

สี่เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนต้องพยายามให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก สั่งสอนลูกในสิ่งที่ดีที่สุดที่ท่านจะคิดและไตรตรองได้

แต่ปัญหาคือสิ่งที่ท่านคิดว่าดีที่สุดแล้วนั้นคืออะไร ท่านเคยได้รับการสั่งสอนมาว่าอย่างไรเหมือนกรรมพันธุ์ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ยกเว้นเกิดการกลายพันธุ์ขึ้น

ขอบคุณค่ะ

"สิ่งที่ดีที่สุดของพ่อแม่ อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกต้องการ" :)

ขอบคุณครับ น้อง สี่ซี่  :)

"สิ่งที่ดีที่สุดของพ่อแม่ อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกต้องการ" :)

แต่เราคงให้ทุกๆอย่างที่ลูกต้องการไม่ได้ 

เขากับเราต้องแชร์ความรู้สึกกันและกัน

ขอบคุณค่ะ

แต่ไม่ชอบเปียแชร์นะค่ะ  อิอิ

พ่อแม่ให้ทุกอย่างกับลูกไม่ได้ทั้งหมด ก็จริง แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในความเป็นครอบครัวของเราที่ไม่เหมือนคนอื่น ... อยู่ที่ความเข้าใจร่วมกัน ครับ

ไม่ต้องเปียแชร์ เพราะผมเล่นไม่เป็น

ขอบคุณครับ คุณ ครูเอ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท