เมื่อวานมีสาวน้อย น่ารัก หอผู้ป่วยส่งมารับคำปรึกษาแต่เช้า
"ตกลงว่า หนูติดเชื้อเอชไอวีจริงเหรอพี่"
หนูเป็นแฟนกับผู้ชายคนนี้มา 3 ปีแล้ว ยังไม่ได้แต่งงานกัน ก็หนูยังเรียนไม่จบเลย
แล้วหนูจะรู้ได้อย่างไรว่าติดเชื้อจากคนไหน ก็หนูเคยมีแฟนมาก่อนที่จะมีคนนี้
แล้วถ้าแฟนคนนี้เค้ารู้ เค้าคงทิ้งหนูแน่เลย
แล้วพี่คิดว่าหนูควรทำอย่างไร
แล้วพ่อแม่หนูล่ะ เค้าคงเสียใจมาก หนูไม่บอกพ่อแม่หรอก
แล้ว ....................
หนูไม่คิดเลย ว่าหนูจะเป็นเอดส์ ไม่คิดเลย ...
ที่จริงท่านน่าจะเล่าต่อมากกว่านะครับ ว่าท่านคุยกับเขาอย่างไร
ผู้เชี่ยวชาญต้องทำเรื่องยากให้ง่ายสำหรับคนอื่นสิครับ
ไม่ใช่ทำให้คนไม่เก่งกลุ้มใจไปด้วย
เพราะภูมิคุ้มกันใจตัวเอง อาจจะยังไม่เพียงพอ
ในความเป็นจริงของชีวิต
มีเรื่องราวมากมายที่เรายังไม่รู้
ในทำนองเดียวกันการแก้ปัญหาชีวิตของแต่ละคน ก็ไม่เหมือนกัน
บทบาทของพยาบาลให้คำปรึกษาที่ตัวเองทำอยู่
ก็คือ เชื่อมั่น ศรัทธา ในงานที่ทำ โดยมีพื้นฐานจากความรัก ความเมตตา ความหวังดี อยากให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
ดังนั้นสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้คือ
1. สร้างความมั่นคงของจิตใจตนเองให้เข้มแข็งเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจของคนที่มารับคำปรึกษา
2. ให้ผู้มารับคำปรึกษา คิดด้วยตนเองว่าจะแก้ปัญหาตนเองอย่างไร เมื่อพูดคุยกับ
พยาบาลให้คำปรึกษาแล้ว เนื่องจากปัญหาต่างๆจะไม่ได้รับการแก้ไข ปรับ
เปลี่ยน ถ้าตัวผู้รับคำปรึกษาไม่ได้คิดจะปรับเปลี่ยนตนเอง
หลักการหลักๆ .. คือรับฟังผู้ป่วย
แล้วให้คิดว่าปัญหาของเค้าคืออะไร
แล้วจะทำอย่างไรต่อไป
ส่วนพยาบาลก็ มีหน้าที่ติดตาม เฝ้าดู อาจใส่ข้อมูลให้ผู้ป่วยเป็น
ระยะ ถึงแนวทางที่ควรจะเป็น
..............................
ขอโทษอาจารย์ค่ะที่อ่านแล้วกลุ้มใจไปด้วย
เพราะนี่ตือชีวิต ...
อาจารย์อ่านบ่อยๆ ภูมิคุ้มกันด้านจิตใจจะได้แข็งแรงขึ้นไงค่ะ
...................................