แนะนำบทความให้อ่านครับ ผมรู้จักกับผู้เขียนเป็นการส่วนตัว แต่นี่ไม่ได้เป็นเหตุผลที่ผมแนะนำบทความเขา ผมเพียงรู้สึกว่าเป็น point ที่น่าสนใจดี
เรื่อง "เกมความรุนแรง"
http://www.prachatai.com/05web/th/home/16431
ประเด็นของเรื่องค่อนข้างชัดเจน แต่หากอ่านไม่ละเอียดอาจจะเข้าใจประเด็นเขาผิดได้นะครับ ผมขอสรุปไว้สั้นๆที่นี่นะครับ ประเด็นคือ เมื่อเกิดความรุนแรงขึ้น คนมักจะพยายามหาหลักฐานเพื่อที่จะรู้ให้ได้ว่า "ใครเริ่มก่อน" แล้วก็สร้างความชอบธรรมให้กับฝ่ายตน จึงลืมสามัญสำนึกพื้นฐานไปแล้ว ว่าจริงๆแล้วไม่ว่าใครจะเริ่มก่อน เรื่องแบบนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ!
จริงๆผมว่าจะหยุดเขียนสักพัก แต่มีคนรู้จักกันอยากให้ผมวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องหลักฐานทั้งหลายที่หลุดๆออกมาให้เห็นกัน (คลิปและรูปทั้งหลาย) ผมนั่งดูผ่านๆจนหมดแล้ว สรุปได้ดังนี้ครับ
สำหรับผมแล้ว ไม่มีหลักฐานของฝ่ายใดที่ทำให้ผมเชื่อได้เลย .... แต่สิ่งที่ผมสงสัยคือ (ประเด็นเดียวกับในบทความ) ทำไมเมื่อเกิดความรุนแรงขึ้น สามัญสำนึกแรกของคนมักจะพยายามหาผู้ผิด ไม่ใช่คำถามว่า "ทำไมทำแบบนั้น" หรือ "ไม่ควรทำแบบนั้น" ?
สุดท้ายคือ เรื่องของหลักฐาน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะคนส่วนใหญ่มี bias อยู่ล่วงหน้าอยู่แล้ว หากหลักฐานสนับสนุนฝ่ายตน ไม่ต้องเป็นหลักฐานที่หนาแน่นมาก ก็เชื่อ หากหลักฐานตรงข้ามกับฝ่ายตน ก็จะปิดหูปิดตาไม่เชื่อ .... คำว่าหลักฐานนั้น ควรจะเป็นอะไรที่สามารถลำดับเหตุการณ์ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ (ขึ้นอยู่กับว่าจะนำไปใช้ยืนยันอะไร)
เรื่องของพยานก็เช่นกัน โดยปกติแล้วพยานบุคคลมักจะไม่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก แต่มักจะเป็นการเข้าไปเห็นเพียงส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ ดังนั้นคำพูดของพยานไม่อาจเป็นสิ่งยืนยันเหตุการณ์ทั้งหมดได้
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับครูอ้อย,
จริงๆแล้ว ข่าวที่สร้างภาพพจน์ให้กับฝ่ายตนก็ปล่อยมาจากทั้งสองฝ่ายน่ะครับ (เพียงแต่ของอีกฝ่ายถูกจำกัดการเผยแพร่ด้วยพรบ.ความมั่นคงที่ผมเกลียดนักหนา เพราะมันจำกัดสิทธิในรูปแบบที่ไม่ชัดเจนว่าเรามีสิทธิทำอะไรได้บ้าง) ยังไงก็ตาม ผมอยากให้ผู้บริโภคใช้วิจารณญานด้วยน่ะครับ
เข้ามาแลกเปลี่ยนค่ะ
ขอบคุณค่ะ.
สวัสดีครับคุณ pis.ratana
ในความเห็นของผมนะครับ (เป็นความเห็นที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาจากการอ่านบทความเรื่องเกมความรุนแรงนั่นแหละครับ) การใช้ความรุนแรงน่าจะเริ่มมาจากความรู้สึกที่ว่า รุนแรงสามารถตอบโต้ด้วยความรุนแรงได้ ทั้งสองฝ่าย(รัฐบาลและเสื้อแดง) รู้ช่องโหว่ในด้านจิตใจที่เป็นความเชื่อของประชาชนทั่วไปคือ การโต้ตอบถือเป็นการป้องกันตัวด้วยความชอบธรรม
ทำไมนี่จึงเป็นช่องโหว่ในด้านจิตใจ?
เพราะมันกลายเป็นว่า หากคิดจะใช้กำลังทำอะไรสักอย่าง เพียงแต่หาข้ออ้างเรื่องความชอบธรรมให้ตน ก็จะได้รับการสนับสนุนจากฝูงชนทันที ตัวอย่างเช่น
ผมไม่ได้บอกว่าใครถูกใครผิด แต่ส่วนหนึ่งที่วิธีนี้ใช้ได้ผล ก็เพราะว่าการมีอยู่ของกลุ่มชนที่เสพสื่อแบบไม่ยั้งคิด เช่น การเห็นภาพของเนวินแล้วสรุปว่าเป็นคำสั่งจากนายกฯโดยทันที หรือ การเห็นคลิปแท็กซี่ชนทหารแล้วเชื่อโดยทันทีว่าเสื้อแดงเป็นฝ่ายเริ่มเกม เป็นต้น บุคคลเหล่านี้กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของ "เกมความรุนแรง" เป็นผู้สนับสนุนที่แต่ละฝ่ายนำมาสร้างความชอบธรรม
สวัสดีครับคุณพันคำ
ขอบคุณครับ ผมเองก็พยายามหาเวลาเขียนเรื่อยๆอยู่นะครับ
เห็นด้วยครับ ที่เราจะต้องไปถึงจุดนั้นให้ได้สักวัน "การประท้วง แบบไม่ทำลายสิทธิคนอื่น ไม่ทำลายคนอื่น" ที่ผ่านมาทั้งหมด สองสามปีมานี้ ผมยังไม่เห็นว่าจะเป็นแบบนั้นเลยครับ
เข้าไปดูที่ลิงค์ไว้ค่ะ จริงแล้วไม่ชอบเรื่องการเมือง เหตุผลคือไม่มีความแน่นอนและต่างที่เข้ามาก็เพื่อผลประโยชน์ของตนทั้งนั้น
สวัสดีครับคุณทรายชล การเมืองไทยในปัจจุบันคือเกมของการสร้างภาพน่ะครับ ผมแบ่งคนได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆน่ะครับ ผู้สร้างภาพได้ดีกว่า และผู้สร้างภาพได้แย่กว่า
อยากให้เราสร้างวัฒนธรรมการแก้ปัญหา เรียนรู้ปัญหา มากกว่าการมองหาคนผิดคนถูกเหมือนกันค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าความถูกผิดนั้น ไม่มีวันลงตัว ขึ้นอยู่กับมุมมองและอีกสารพัดปัจจัย และจริงๆแล้วไม่สร้างสรรค์เลย ใครๆก็รู้ว่าไม่มีใครอยากทำผิด แต่ทุกคนก็เคยทำผิด และหาได้น้อยคนที่ทำผิดแล้วอยากให้ใครๆรู้ว่าเราผิด มันเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าเราฝืนธรรมชาติ คงจะไปไหนได้ไม่ไกลหรอกค่ะ
ขอบคุณคุณปริญญา ที่เปิดประเด็นเรื่องชวนคิดเรื่อยๆนะคะ วัฒนธรรมแบบนี้เราก็น่าจะสร้างเหมือนกันนะคะ มองกันหลายๆมุม เห็นต่างๆกันหลากหลายแต่เราก็ไม่ได้ทะเลาะกัน
เรื่องทุกเรื่องมีที่มาที่ไป สุดท้ายเราก็คงสรุปไม่ได้ว่าอะไรก่อนหรือหลังเพราะสิ่งที่โยงใยให้เหตุการณ์ทั้งหลายมาบรรจบกันนั้นบางสิ่งก็เกิดขึ้นเอง บางสิ่งก็ถูกสร้างขึ้น จนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหลายนั้นเดินทางมาถึงบทสรุป แล้วหลายๆคน(หรือบางคน)ก็ยึดเอาเป็นข้ออ้างเพื่อแสดงความชอบธรรมว่าสิ่งที่ตนทำนั้นสมเหตุสมผลแล้ว แล้วคนฟังก็จะเชื่อ โดยยึดเอาคุณธรรมที่ตัวเองยึด(ตามที่ตัวเข้าใจ แต่ไม่ค่อยทำ) เป็นสิ่งตัดสิน
สวัสดีครับคุณโอ๋-อโณ
ขอบคุณครับ ผมก็ชอบที่มีคนเข้ามาแลกเปลี่ยนเรื่องการเมืองกันแบบสร้างสรรค์ได้เรื่อยๆเหมือนกันครับ แทนที่จะเข้าไปด่ากันตามเว็บบอร์ดต่างๆ :)
สวัสดีครับคุณต้อยติ่ง,
เราควรสร้างวัฒนธรรมที่ไม่มีคำว่า "ข้ออ้างของการทำร้ายคนอื่นโดยความชอบธรรม" น่ะครับ
พลเมืองเป็นผู้ดู ถ้าแต่ละคนไม่เลือกข้าง ต่างทำมาหากินไปตามอาชีพและหน้าที่.....เฮ้อ
สวัสดีครับคุณ saard2552
ขอบคุณครับ
หน้าที่ของพลเมือง ไม่ใช่การเป็นผู้ดูอย่างเดียวหรอกนะครับ การที่ผมพยายามสร้างความเชื่อเรื่องการไม่รุนแรงตอบโต้รุนแรง ก็เป็นสิ่งที่ผมเชื่อนะครับ ว่าจะนำพาประเทศไปสู่สันติได้