พิษร้ายของความโกรธ ... (Secret)


"ผู้ฆ่าความโกรธได้ย่อมอยู่เป็นสุข"

ขอยกบทความส่วนแรกจากนิตยสาร Secret ฉบับที่ 19 มานำเสนอ เรื่องของความโกรธ ที่เราสามารถพบเห็นได้จากคนมากมาย อยู่ในคอลัมน์ Healthy Body in Healthy Mind โดย เสาวลักษณ์ ศรีสุวรรณ

 

"พิษร้ายของความโกรธ"

 

พระพุทธเจ้าตรัสไว้นานแล้วว่า ความโกรธเหมือนไฟที่เผาไหม้คนเราอยู่ทุกวัน ท่านทรงเตือนสติชาวพุทธไว้อย่างน่าฟังว่า "ผู้ฆ่าความโกรธได้ย่อมอยู่เป็นสุข"

ท่านติช นัท ฮันห์ พระชาวเวียดนามแห่งหมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส เขียนไว้ในหนังสือชื่อ ความโกรธ (Anger) ว่า คนทุกคนไม่ว่าชาติใดภาษาใด ล้วนมีเมล็ดพันธุ์แห่งความโกรธอยู่ในใจทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับว่าใครจะบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์นั้นให้เจริญเติบโตได้มากกว่ากัน เหตุที่บางคนไม่ค่อยโกรธก็เพราะไม่เคยรดน้ำเมล็ดพันธุ์แห่งความโกรธนั้น ในขณะที่บางคนโกรธง่ายเหลือเกิน เป็นเพราะเมล็ดพันธุ์แห่งความโกรธนั้นถูกรดน้ำอยู่เป็นประจำ จึงเติบโตบดบังเมล็ดพันธุ์แห่งความรักความเมตตาเอาไว้สิ้น

สุภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า "ความโกรธมีรากเป็นพิษ มียอดหวาน" ซึ่งหมายความว่า ในเบื้องต้น ความโกรธจะแสดงพิษสงต่อจิตใจ ทำให้หงุดหงิด เร่าร้อน เดือดดาล จงต้องรีบระบายความหงุดหงิดเร่าร้อน เดือดดาลออกไปโดยเร็ว ด้วยการด่าว่าทุบตีหรือทำลายบุคคลหรือสิ่งของที่เป็นต้นเหตุให้โกรธ และเมื่อได้ทำจนสาแก่ใจในบั้นปลายจะรู้สึกโล่งใจ สบายใจ จึงเรียกว่า มียอดหวาน

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ความโกรธจะปรากฎให้เห็นอย่างเด่นชัด จะมีลำดับขั้นในการเกิด เริ่มจาก จิตขุ่นมัว ตัวสั่นเทา ด่าผู้ที่ทำให้โกรธอย่างหยาบคาย ทำร้าย หรือถึงขั้นต้องการทำลายชีวิตเขา และเมื่อโกรธถึงขั้นสูงสุดก็จะฆ่าเขาแล้วกลับมาฆ่าตนเองในที่สุด

 

ถ้าเราลองสังเกตดูจะพบว่า คนขี้โกรธมีหลายจำพวก บางคนเป็นคนจู้จี้ขี้บ่น ขี้โมโห ชอบเอาแต่ใจตัวเอง อ่อนไหวง่าย เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย โกรธง่ายแม้ในเรื่องเล็กน้อยไร้สาระ โกรธไปหมดแม้กระทั่งลมฟ้าอากาศและสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว โดยหารู้ไม่ว่าแต่ละครั้งที่โกรธนั้นเกิดโทษอย่างไรต่อร่างกายและจิตใจตัวเอง

 

นักจิตวิทยา ชื่อ โอริสัน สเว็ตต์ มาร์เด็น (Orison Swett Marden) เขียนไว้ว่า

ความโกรธมีผลร้ายต่อร่างกายหลายประการ ดังนี้

  • ทำลายรสอาหาร ทำให้หมดความอยากรับประทาน
  • เป็นเหตุให้ระบบย่อยทำงานไม่ปกติ
  • ทำให้เส้นประสาทพิการ
  • ทำให้เกิดความระส่ำระสายขึ้นทั่วสรรพางค์กาย
  • เด็กที่ถูกแกล้งหรือทำให้โกรธอยู่เสมอจะเติบโตช้าผิดปกติ
  • เหงื่อที่ออกเพราะความโกรธจะเป็นพิษต่อร่างกาย

 

นอกจากนั้น นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ติดตามศึกษากลุ่มตัวอย่างคนไข้ที่มีปัญหาหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ และได้รับการฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจอัตโนมัติไว้ในร่างกายนาน 3 ปี ผลการศึกษาพบว่า ความโกรธทำให้คลื่นไฟฟ้าหัวใจเปลี่ยนแปลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

ยิ่งไปกว่านั้น การทดลองยังระบุด้วยว่า ความโกรธมีผลทำให้ปอดอ่อนแอลง เพราะขณะที่โกรธ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพื่อเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ และหลั่งสารเคมีที่ทำให้เซลล์ที่หลอดลมเกิดการเผาไหม้ หลอดลมจึงตีบลง ทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก ซึ่งในระยะยาว สามารถก่อผลเสียต่อปอดจนไม่อาจแก้ไขให้กลับคืนดังเดิมได้

 

.....................................................................................................................................

 

สิ่งที่เราได้จากการอ่านบทความช่วงแรกนี้คือ "ความโกรธ" นอกจากสามารถฆ่าเราได้ทั้งเป็นแล้ว ยังสามารถฆ่าคนรอบข้างของเราได้อย่างแนบเนียน ยิ่งเก็บ ยิ่งบ้า เหมือนคนเสียสติ ไม่เชื่อลองสังเกตตัวเองดูว่า ตนเองเป็นหรือเปล่า

 

ติดตามตามตอนต่อไปสำหรับ "ทำอย่างไรให้หายโกรธ" ได้บ้าง เชื่อว่า เป็นวิธีการที่สามารถจะลด ละ ความโกรธได้จริง ครับ

บุญรักษา ทุกท่านครับ 

 

......................................................................................................................................

แหล่งอ้างอิง

เสาวลักษณ์ ศรีสุวรรณ.  "ทำอย่างไรให้หายโกรธ".  Secret.  1, 19 (10 เมษายน 2552) : 76 - 77.

 

หมายเลขบันทึก: 255545เขียนเมื่อ 14 เมษายน 2009 23:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

เป็นโกธรง่าย  หายเร็ว อิอิ

ขอบคุณค่ะ รออ่าน

เรียนอ.เสือ

มาเรียนรู้ค่ะ

"ความโกรธมีรากเป็นพิษ มียอดหวาน"

  • ทำลายรสอาหาร ทำให้หมดความอยากรับประทาน
  • เป็นเหตุให้ระบบย่อยทำงานไม่ปกติ
  • ทำให้เส้นประสาทพิการ
  • ทำให้เกิดความระส่ำระสายขึ้นทั่วสรรพางค์กาย
  • เด็กที่ถูกแกล้งหรือทำให้โกรธอยู่เสมอจะเติบโตช้าผิดปกติ
  • เหงื่อที่ออกเพราะความโกรธจะเป็นพิษต่อร่างกาย

ขอบคุณค่ะ

ดังนั้นผู้ใหญ่ไม่ควรแหย่ให้เด็กโกรธ

และฝึกยิ้มรับกับความโกรธของตนเอง และผู้อื่นให้ได้แล้วจะปลอดภัยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณครับ คุณ krutoi :) ... เป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนตนเอง ครับ

"โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า" นอกจากความโกรธแล้ว ความโลภและความหลงก็มีพิษร้ายพอๆ กัน ขอบคุณมากครับ

ต่อไปนี้จะพยายามไม่โกรธ เพราะโกรธแล้วทำให้อาหารไม่อร่อย จ่ายแพงแต่ได้รับรสน้อยลงนี่นับว่าแย่มาก แต่ถ้าคิดอีกนัยหนึ่งอาจจะดีต่อคนอ้วนก็ได้ค่ะ จะได้ไม่อยากอาหาร 555

ขอบพระคุณครับ ท่าน ผอ.บวร :) ... เร็ว ๆ นี้จะมีเรื่อง "ความหลง" ครับ

ขอบคุณอารมณ์เฮฮาของคุณซูซาน Little Jazz นะครับ :)

"ความโกรธ" ไม่มีประโยชน์อันใดสำหรับตัวเองและครอบครัว ครับ

นอกจาก "คนอ้วน" 555

โกรธคนอื่นเราก็ไม่มีความสุข โกรธคือการทำลายความสุขของตนเองค่ะอาจารย์

ใช่แล้วครับ คุณครู ทรายชล ... การฝึกฝนการระงับโกรธที่ถูกวิธีจะทำให้เราใช้ชีวิตด้วยความสุขที่มากขึ้นครับ :)

ขอบคุณครับ

วันนี้ มาฟ้องอจารย์ค่ะ

งานรับปริญญาทำให้ครูเอดำ  เป็นช่วงๆ (ร้อมมากค่ะ )

และรองเท้าขาดเพราะเดินเป็นระยะทางไกลมากๆ   

ที่สำคัญสงสารคนแก่ค่ะ  บางคนเดินไม่ไหว แต่ก็มีใจไปหาลูกหลาน  โมโหค่ะ 

คุณ ครูเอ :)...

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดคุยกันยาวครับ ...

แต่อยากแสดงความเสียใจแทนอธิการบดีด้วยครับ

เพราะปีที่แล้วกับปีนี้ ... ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นแม้แต่น้อย

ผมเองยังเกือบเข้าไม่ได้ เพราะตำรวจไม่ยอมให้เข้า หาว่า ผมหน้าตาเหมือนบัณฑิต :)

ผมยังบ่นกับเพื่อนผมเล่น ๆ เลยว่า ถ้าผมรับ ผมจะไม่ให้พ่อแม่มาเด็ดขาด เพราะป่าทั้งนั้น

แต่หากจะดีกว่านี้ ก็ไม่ควรเรียนที่นี่เลย เพราะรับปริญญาลำบากมาก

ผู้ปกครอง คือ ผู้ที่น่าสงสารที่สุดเสมอ เพราะไม่เคยมีการจัดการที่ดีกว่านี้สักที

ขอโทษด้วยครับ :)

ผมเองยังเกือบเข้าไม่ได้ เพราะตำรวจไม่ยอมให้เข้า หาว่า ผมหน้าตาเหมือนบัณฑิต :) 

ประโยคข้างบน  คิดเองหรอค่ะ อิอิ

  ความลำบากสำหรับเราแล้วทนได้ 

แต่กับคนแก่คนเฒ่าน่าจะมีการอำนวยความสะดวกหน่อยนะคะ

ร้อนจริงนะค่ะ  ผิวไหม้เลยค่ะ  แค่เดินผ่านแดดไม่กี่นาที

ดีนะ   ไม่เป็นเหมือนแพนด้า  555+

ไม่เป็นไรค่ะ  มันผ่านมากแล้ว

ตอนแรก ผมก็นึกว่า คุณ ครูเอ เป็นหลิ่นฮุ่ยไปแล้ว :)

คุณ ครูเอ ครับ ... ไม่อยากบอกเลยว่า วิธีบริหารจัดการที่นี่ ล้มเหลวครับ ... เหมือนปีที่แล้วก็แบบนี้ ปีนี้ก็ยังเป็นแบบนี้อีก ไม่ได้ปรับปรุงหรือแก้ไขอะไรเลย

คงมีแต่คนก่นด่ากันอีกหลายสถาบันครับ

ขอให้ด่าไปที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเถอะนะครับ เขาควรจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดในงานนี้

:) ลุย ครับ

ลุย...ป่ะ แต่อาจารย์ไปด้วยนะคะ  อิอิ

  • ขอบคุณมากครับ....
  • กับสาระที่ดีมากครับ

ชยพร แอคะรัจน์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท