ผู้เขียนได้มีเวลาว่างหลังภารกิจประจำวัน ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการใช้อาหารเสริม และได้รับรู้ข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านบ้าง จึงนำมาฝากค่ะ
ผู้เขียนได้อ่านและพอสรุปได้ประมาณว่า ยิ่งกินอาหารที่มีประโยชน์มากเท่าไร ร่างกายยิ่งได้ประโยชน์มากเท่านั้น ซึ่งใช้ได้จริงกับอาหารตามธรรมชาติ เพราะรูปแบบของสารอาหารมีความเหมาะสมกับสภาพร่างกาย หากมีส่วนตกค้างร่างกายก็มีกลไกในการกำจัดทิ้งได้ง่าย แต่อาหารเสริมซึ่งเป็นสารอาหารสังเคราะห์แม้มีความพยายามทำใหคล้ายคลึงธรรมชาติมากแค่ไหน ความสามารถในการดูดซึมไปใช้หรือกำจัดทิ้งก็ไม่ดีเท่าอาหารจากธรรมชาติ แถมบางครั้งเกิดผลค้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ก็มี
ผู้ใช้อาหารเสริมควรศึกษาปริมาณ และรายละเอียดอื่นๆบนฉลากให้เข้าใจถึงผลที่จะเกิด ประโยชน์ และข้อหลีกเลี่ยงบางประการ เพื่อให้การกินอาหารเสริมได้รับประโยชน์สูงสุด
ข้อพึงระวังบางประการที่ควรรู้เช่น
- วิตามินเอ ถ้าได้รับในปริมาณที่สูงเกินไป จะทำให้ปวดหัว คลื่นไส้ ตับและกระดูกเสียหาย
- แคลเซี่ยมเกินขนาดที่ร่างกายต้องการ อาจทำให้ท้องผูก เฉื่อยชา ซึมเศร้า ไตเสื่อมและเกิดนิ่วตามเนื้อเยื่อต่างๆเนื่องจากการสะสมตัวของแคลเซียม
- วิตามินอี ที่เชื่อกันว่ากินแล้วช่วยชะลอความแก่ อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเกล็ดเลือด
- เหล็ก หากร่างกายได้รับมากเกินไป อาจไปรบกวนการดูดซึมแคลเซียม ทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ อุจจาระเป็นสีดำ
- อาหารเสริมประเภทน้ำมัน ได้รับมากเกินไป อ้วนแน่นอน
- เลซิติน ที่สาวๆหลายคนกินเพื่อลดความอ้วน เมื่อถูกย่อยแล้วจะเหลือสารเคมีบางส่วนที่มีกลิ่นคล้ายคาวปลา จึงก่อให้เกิดกลิ่นตัว
- การกินพวกไฟเบอร์มากๆจะทำให้อยากถ่าย ซึ่งก็อาจจะดึงแร่ธาตุในร่างกายออกไปด้วยได้เช่นกัน
- ซุปสกัด อาจจะเสี่ยงต่อมะเร็งถ้าตับของคุณแข็งแรงดีก็ไม่มีปัญหา เพราะการต้มนานๆทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ถ้าตับคุณไม่แข็งแรงแทนที่จะบำรุงร่างกายกลับมาทำร้ายตับเพราะต้องคอยขับสารพิษบางอย่างออกไป
- การกินสาหร่ายซึ่งมีกรดยูริคสูง โรคเก้าต์ก็ถามหาได้เช่นเดียวกับการกินพวกเครื่องใน
- น้ำลูกยอที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้องระวังหากคุณเป็นผู้ป่วยโรคไต เพราะโพแทสเซียมในลูกยอสูง อาจทำให้ร่างกายขับแร่ธาตุออกจนเกิดอาการไตวายได้
ผู้เขียนหวังว่าก่อนตัดสินใจซื้ออาหารเสริมครั้งต่อไป หลายท่านคงต้องชั่งใจให้ดีก่อนตัดสินใจ..
สวัสดีค่ะ..ยังคิดถึงนะคะ